อีกไม่กี่วัน เราก็จะรู้กันแล้วว่า ใครจะเป็นผู้คว้าชัยในเกมนัดชิงชนะเลิศ UEFA Champions League พร้อมกับเงินรางวัลก้อนโต และแน่นอนว่า ปลายเดือนพฤษภาคมจะเป็นฤดูกาลจ่ายโบนัสของบรรดานักเตะในทีมชั้นนำทั่วยุโรป ต่างจากมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ที่จะรับทรัพย์กันช่วงปลายปี
อย่างที่เราทราบกันดีว่า Manchester City ที่โหยหาอยากจะชูถ้วยแชมป์ UCL อย่างน้อยๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ย่อมมีการสร้างแรงจูงใจให้กับบรรดานักเตะในทีมด้วยการใส่โบนัสมูลค่ามหาศาลผูกอยู่กับเงื่อนไขการคว้าแชมป์ดังกล่าว และแน่นอนว่า คู่แข่งอันดับ 1 ในเกาะอังกฤษอย่าง Liverpool ที่กำลังมีลุ้น 4 แชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรก็จะมีการจ่ายโบนัสมหาศาลให้กับนักเตะสำหรับการคว้าแชมป์ UEFA Champions League และ/หรือ Premier League ในปีนี้
ผมขออนุญาตหยิบยกคำพูดของผู้จัดการทีมระดับตำนานอย่าง Sir Alex Ferguson ที่เคยให้ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจ่ายเงินเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักเตะว่า “สิ่งที่ทรงพลังที่สุดที่เราจะใช้เป็นแรงจูงใจให้กับนักเตะ คือ การดึงสัญชาติญาณการแข่งขัน (Competitive Instinct) ของพวกเขาออกมา เงินโบนัสน่ะได้มาแล้วก็หมดไป แต่เหรียญรางวัลมันคงอยู่ตลอดกาล”
การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างการจ่ายเงินโบนัสได้ถูกเริ่มต้นโดยผู้บริหาร 2 คนของ Manchester City คือ Txiki Begiristain ผู้อำนวยการฟุตบอล และ Ferran Soriano CEO ของสโมสร ซึ่งเป็นแนวทางของสโมสร Barcelona ที่ทั้งคู่เคยทำงานในตำแหน่งเดียวกันมาก่อน โดยตัว Soriano เป็นผู้ริ่เริ่มรูปแบบการจ่ายโบนัสด้วยผลงานของทีมที่ Barcelona และเมื่อเขาย้ายเข้ามรับตำแหน่งกับ City แนวทางดังกล่าวจึงถูกนำมาใช้เพื่อสื่อสารให้นักเตะรู้ว่า ถ้าพวกเขาทำผลงานในสนามซ้อมได้ดีและได้รับเลือกให้ลงเล่นในทีมอย่างสม่ำเสมอ และหากทีมประสบความสำเร็จ พวกเขาจะได้รับเงินมหาศาลเป็นการตอบแทน ซึ่งรูปแบบการจ่ายโบนัสแบบใหม่น่าจะช่วยสร้างผลดีให้กับความสามัคคีภายในทีมได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ในหลายเกมของ UCL เราจะเห็นว่า บรรดานักเตะตัวสำรองวิ่งลงมาร่วมดีใจกับนักเตะในสนามตอนที่ทีมยิงประตูได้ด้วยสีหน้าที่มีความสุขจริงๆ
อย่างไรก็ตาม สโมสรแต่ละแห่งย่อมมีแนวคิดในการบริหารและสร้างแรงจูงใจให้กับนักเตะด้วยวิธีที่แตกต่างกัน แต่บรรดาทีมชั้นนำในหัวตารางของ Premier League ก็เริ่มที่จะหันมาใช้วิธีการจ่ายโบนัสจากผลงานของทีมเหมือนที่ City ทำอยู่
ทีมที่กำลังขับเคี่ยวแย่งตั๋วใบสุดท้ายไป UCL อย่าง Arsenal และ Tottenham มีการกำหนดในสัญญาของนักเตะว่า พวกเขาจะขึ้นค่าเหนื่อยให้กับนักเตะถ้าทีมได้ลงแข่ง UCL ในฤดูกาลหน้า พร้อมกับโบนัสก้อนโตสำหรับการจบฤดูกาลด้วยอันดับ Top 4 และในทางกลับกัน ทีมอย่าง Manchester United ที่หลุดอันดับ 4 แน่นอนแล้วย่อมมีการปรับตัวเพื่อรองรับกับรายได้มหาศาลที่จะหายไป บรรดานักเตะส่วนใหญ่ของ United จะโดนปรับลดค่าเหนื่อยลงถึง 25% โดยประมาณสำหรับผลงานที่น่าผิดหวัง ส่วนทีมกลางตาราง อย่าง Southampton และ Aston Villa จะมีการกำหนดโบนัสพิเศษให้กับนักเตะในทีมจากผลงานอันดับในตารางเป็นหลัก
บรรดาผู้จัดการทีมก็จะได้รับโบนัสตามผลงานของทีมเช่นเดียวกับนักเตะ เช่น การคว้าแชมป์ การจบในอันดับ Top 4 การเลื่อนชั้นหรือตกชั้น เช่น Eddie Howe ที่น่าจะได้รับเงินโบนัสก้อนโตจากการพา Newcastle รอดการตกชั้นอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องลุ้นถึงเกมนัดสุดท้าย