อาชีพหมอดู เคยแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง เพราะ เล่ากันว่า สมัยก่อน มีเณร มีตำราดีมาก เลยดูหมอ ทำนายได้อย่างแม่นยำ ต่อมาเณรดูตัวเองว่า อีก 3 วันจะต้องตาย เลยลาเจ้าอาวาสไปเยี่ยมกราบลาพ่อแม่ ระหว่างทางเดินไม่มีรถ ในสมัยโบราณ ก็เจอปลา กระเสือกกระสนหาแหล่งน้ำ เพราะน้ำที่ปลาอาศัยนั้นแห้งขอด
ก็เลยเอาปลาใส่ย่ามไป ปล่อย ในห้วย เล็กๆ ระหว่างทาง ทำแบบนี้เรื่อยมาตลอดทาง จนครบเวลา 2 วัน เดินมาถึงบ้านตนเอง ก็ร่ำลาพ่อแม่ แล้วค้างคืน ในวันที่ 3 และ 4 ปรากฏว่า อ้าว เลยเวลาตายมาแล้ว แต่ยังไม่ตาย พอกลับกุฏิ เกิดไฟไหม้ ก็รีบเข้าไปดับไฟ ตำราหมอดู เกิดไฟไหม้ไปเกือบครึ่ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หมอดูก็เลยแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง
เรื่องนี้ เครดิตของอาจารย์ท่านหนึ่งเล่ามา ก็เล่าต่อสาเหตุของหมอดูที่แม่นบ้างไม่แม่นบ้าง
คราวนี้ร่างทรงที่ทำกันเป็นอาชีพก็ร่ำรวยกันมาก ทำงานเป็นล่ำเป็นสัน ยิ่งใครพูดราชาศัพท์ได้มาก ก็ยิ่งน่านับถือมาก ถือว่า เป็นร่างทรง ชั้นเจ้านายหลายท่าน ก็ทำให้มีการเสริมดวงแก้เคล็ดกันมากมาก มีการขายรูปปั้นต่างๆ เสริมดวงสะเดาะเคราะห์กันไป
เป็นไปตามความเชื่อ ความคิดของผู้คน มีผูก มีแก้ มีร่างทรง มีคนชอบพูดคุยกับร่างทรง ที่มาบอก อะไรต่ออะไร เหมือนเป็นตัวแทนของโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ ถ้าบอกเลขได้ถูกต้องแม่นยำ โกยเงินได้มากมาย เรียกศรัทธาคนได้อย่างดี
อันนี้อยู่ที่วุฒิภาวะของคนค่ะ และบางคนก็แสดงอิทธิฤทธิ์ได้จริง อันนี้ ก็ ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมกันต่อไป
โลกวิญญาณนั้นมีจริง แต่คนเชื่อม 2 โลกนี้ได้ตามบันทึกที่เคยอ่าน ก็จะมี พระพุทธเจ้ากับพระเยซูคริสต์เท่านั้น ส่วนเกจิอาจารย์ ก็มีหลายท่าน ที่สามารถสื่อสารกับโลกคู่ขนานของเราได้ หรือมีมนุษย์ที่ถือศีล มีธรรม ก็สามารถสื่อจิตถึงพระเจ้า ถึงโลกเบื้องบนได้ ไม่น้อย และจิตที่ถูกยกระดับแล้ว สามารถไปสู่มิติที่ 5 คือร่างอยู่บนเวลาปัจจุบัน แต่ใจยกไปอีกมิติแล้ว เป็นมิติที่สูงขึ้น อันนี้มีจริง
แต่วิญญาณสิงร่างเพื่อสื่อสาร ก็เห็น แต่ไม่ได้เป็นร่างทรงมืออาชีพ จะเรียกว่าผีเข้า อันนี้เคยเห็นมากับตาแล้ว
แต่ที่ภูเก็ตจะมีพิธีเชิญเทพมาประทับ อันนี้ก็เห็นตามคลิปต่างๆ
ส่วนตัวเอง ไม่ว่าอะไร กับคนที่เป็นร่างทรงหรือคนที่เชื่อเรื่องนี้นะ บางแห่งเป็นความเชื่อ เป็นประเพณีไปแล้วก็มาก จะเข้าสู่ยุคกลางเรื่องแม่มด ก็ไม่ได้
แล้วคนถามเชื่อมั๊ย มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังค่ะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
