10 พ.ค. 2022 เวลา 09:12 • ศิลปะ & ออกแบบ
ออกแบบสร้างบ้านถูกวิธี ช่วยให้อากาศเย็นสบาย น่าอยู่มากขึ้น
ในการสร้างบ้าน เราควรมีการวางแผนการออกแบบให้ดีก่อนตัดสินใจสร้าง เพราะประเทศไทยมีถิ่นอาศัยอยู่ในโซนภูมิอากาศร้อนชื้น ทำให้ประเทศมีอากาศร้อน นานถึง 8-9 เดือนต่อปี บวกกับอากาศที่ร้อนขึ้นทุก ๆ ปี หากมีการวางรูปแบบอาคารหรือจัดสรรห้องภายในให้รับกับบริบทภายนอก รวมถึงช่องอากาศในการจัดทิศทางลมเพื่อให้บรรยากาศภายในเกิดการหมุนเวียน
การวางผังห้องให้เหมาะสมกับทิศทางของแดด หรือการเปิดรูรับแสงเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน ในการออกแบบสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้บ้านหรืออาคารของเรามีการใช้งานได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นในบางส่วนลงไปได้อีกด้วย
ปัญหาหลักที่ทำให้บ้านร้อน อึดอัด ไม่น่าอยู่อาศัย ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะลักษณะการออกแบบของบ้านในปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับอิทธิพลในการตกแต่งบ้านมาจากทางฝั่งตะวันตก เป็นลักษณะบ้านปูน หนาทึบเพื่อป้องกันอากาศหนาวเย็นและหิมะ
1
ที่จะทำให้เกิดความชื้นเข้ามาภายในตัวบ้าน และออกแบบช่องหน้าต่างที่ไม่มีกันสาดยื่น เพื่อช่วยในการรับแสงแดดเข้าสู่ภายในได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยเก็บความร้อนในตอนกลางวัน เพื่อให้เวลากลางคืนตัวบ้านยังคงความอบอุ่นเช่นเดิม
แต่เมื่อนำรูปแบบบ้านนี้มาสร้างในประเทศที่เป็นอากาศร้อน บ้านในตอนกลางวันจึงกักเก็บความร้อน พอตกตอนกลางคืนบ้านเริ่มคายความร้อนออกมา ทำให้บ้านที่อยู่อาศัยนั้นมีอากาศร้อนทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นเราควรให้ความสำคัญในการออกแบบบ้านในแบบตะวันตกนำมาปรับแต่ง ผสมผสานเพื่อให้เข้ากับภูมิอากาศของประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด ในการช่วยให้บ้านเย็นลง คือ การศึกษาทิศทางของลมในทางธรรมชาติ
ทำไมทิศทางของลมจึงเป็นส่วนสำคัญ ช่วยทำให้บ้านไม่ร้อน อากาศภายในบ้านถ่ายเทสะดวก เพียงแค่รู้ว่าควรตั้งรับบ้านยังไงให้เหมาะสม อย่างประเทศไทยในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ลมที่พัดเข้าในประเทศจะเป็นลมมรสุมจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ และในช่วงเดือน มีนาคม ถึง ตุลาคม จะเป็นลมมรสุมที่พัดมาจากตะวันตกเฉียงใต้
จะเห็นได้ว่าภูมิประเทศไทยจะมีลมพัดมาจากทิศเหนือ ทิศใต้เป็นหลัก ในการออกแบบสร้างบ้านเพื่อที่จะรับลมเย็น ควรสร้างให้ตรงกับทิศเหนือและใต้ ร่วมถึงประตู หน้าต่าง ถ้าหากมีจำนวนหรือขนาดที่พอดี ก็จะช่วยให้ลมสามารถหมุนเวียน ถ่ายเทอย่างสะดวก ความร้อนก็จะไม่สะสมทำให้เวลาตอนกลางคืนบ้านคายความร้อนได้น้อยลง
1
การเลือกและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นระแนงหรือเปิดโล่ง ส่วนตำแหน่งการจัดวาง ควรจัดให้ชิดกำแพง ไม่ให้ขวางทางลมที่เข้ามาในบ้าน
ส่วนเรื่องจัดวางตำแหน่งห้องต่าง ๆ ก็สำคัญเช่นกัน นอกจากเรื่องของลม ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือแสงแดด ถ้าหากวางตำแหน่งไม่ถูก ห้องที่ควรรับแสงแดดน้อยที่สุดกลับได้รับแสงแดดเยอะที่สุด แบบนี้ทิศทางลมก็อาจจะช่วยไม่ได้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับทิศทางของแสงแดดก่อน
แสงที่มาจากดวงอาทิตย์จะเดินทางเป็นเส้นโค้ง จากทิศตะวันออก แล้วโค้งไปทางทิศใต้ ก็จะถึงทิศตะวันตก ทำให้ทิศที่รับแสงแดดเยอะที่สุดคือทิศใต้ แต่ทิศที่ร้อนที่สุดคือ ทิศตะวันตกเพราะรับแสงจากดวงอาทิตย์ในช่วงบ่าย
ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งบ้านควรจัดให้ถูกวิธี ยกตัวอย่างง่าย ๆ ลองนึกภาพบ้านที่เป็นขนาดสี่เหลี่ยม แล้วจัดวางตำแหน่งห้องต่าง ๆ ลงไปให้เหมาะสม ยกตัวอย่างตามนี้
ห้องนอนและห้องทำงาน ควรที่จะอยู่ทางทิศเหนือ เพราะเป็นทิศที่อยู่ตรงข้ามกับการเดินทางของแสง ทำให้รับแสงน้อยที่สุด รับแค่แสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า เมื่อตกบ่ายก็ได้รับแสงแดดที่พอเหมาะสำหรับทำงาน บวกกับยังได้รับลมที่พัดมาจากทางทิศเหนือช่วยให้ห้องเย็นขึ้นอีกด้วย
ห้องรับประทานอาหารและห้องควร อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้รับแค่แดดในช่วงเช้า และก็ไม่ต้องห่วงว่าห้องครัวจะร้อน เพราะจะได้รับลมที่มาจากทางทิศใต้ เพื่อช่วยระบายอากาศในห้อง
ห้องเก็บของ ตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงได้ เพราะทิศนี้จะร้อนที่สุดในแต่ละวันจึงไม่เหมาะที่จะเป็นที่อยู่อาศัย เลือกใช้เป็นห้องเก็บของหรือที่จอดรถจึงเหมาะมากกว่า แต่ทิศนี้ก็ควรมีชายคายื่นยาวออกมาเพื่อช่วยป้องกันแสงแดดช่วงบ่าย
จะเห็นได้ว่า การวางแผนออกแบบก่อนก่อสร้างนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บ้านน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น การศึกษาทิศทางของลมและแสงแดด จะช่วยให้สามารถพิจารณาในการวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบ้านได้ดี เพื่อให้บ้านอากาศเย็นสบาย
โฆษณา