ซาตาน vs ทูตสวรรค์…สงครามดึกดำบรรพ์ตราบวันสิ้นโลก!!
หลายๆคนคงเคยชมภาพยนตร์การต่อสู้แนวแฟนตาซีระหว่างตัวเอกที่เป็นตัวแทนของฝ่ายธรรมะและผู้ร้ายที่เป็นตัวแทนของฝ่ายอธรรม ซึ่งตอนจบตัวเอกมักได้รับชัยชนะ ส่วนผู้ร้ายถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตตามระเบียบ
แน่นอน สัญลักษณ์แห่งความน่าเกลียดน่ากลัวและความชั่วร้ายนั้นประดุจดั่ง "ซาตาน" ที่คอยออกล่าเหยื่อและล่อลวงหมู่มวลมนุษย์ให้ตกอยู่ในกับดักของมัน
ส่วนอีกฝ่ายคือสัญลักษณ์แห่งความดี ซึ่งเต็มไปด้วยคุณลักษณะของความอ่อนโยนงดงาม ประดุจดั่ง "ทูตสวรรค์" ที่พร่างพรมหยดน้ำอันฉ่ำเย็นพร้อมที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์ผู้กระทำความดีทั้งมวล
ฉะนั้น ซาตานกับทูตสวรรค์จึงทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วันกำเนิดโลกไปจนกระทั่งถึงวันที่โลกสลาย ซึ่งเป็นสงครามที่ไม่มีวันจบ ตราบใดที่ยังมีคำว่า "ความชั่ว ความดี" อยู่ในสากลจักรวาลนี้
แต่ด้วยญาณสัมผัสของมนุษย์มีขีดจำกัด จึงไม่สามารถมองเห็นซาตานหรือว่าทูตสวรรค์ได้ด้วยตาเปล่า กระนั้นเราก็สามารถสัมผัสได้ด้วยใจและความรู้สึก ที่สำคัญคือสิ่งที่เรียกว่า "สำนึก"
ส่วนใครที่สามารถมองเห็นสิ่งทั้งสองนั้นได้แบบตัวเป็นๆแล้วล่ะก็ จะถือว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย เป็นมงคลชีวิตหรือว่าความซวยก็แล้วแต่ ขออย่างเดียวอย่าจับไข้หัวโกร๋นไปเสียก่อนก็แล้วกัน โดยเฉพาะถ้าเจอกับซาตานประเภทที่จัดเต็มมาในรูปแห่งความน่าเกลียดน่ากลัว…แค่นึกก็สยองขวัญกันละ!!
"ซาตาน" หมายถึง "ผู้เป็นปฏิปักษ์" ส่วนในภาษาอาหรับเรียกว่า "ชัยฏอน" หมายถึง "หลงผิด" หรือ "ห่างไกล" และ "การเป็นปรปักษ์" บ้างหมายถึงปีศาจหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน แต่สรุปโดยรวมแล้วเป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลของคริสต์และคัมภีร์อัลกุรอานของอิสลาม เป็นผู้นำพาความชั่วร้ายและการล่อลวง นำพามนุษยชาติให้หลงผิด
บางศาสนาสอนว่า ซาตานกำเนิดเป็นทูตสวรรค์ซึ่งเกิดความคิดว่ามีสิทธิ์อำนาจเทียบเคียงได้กับพระเป็นเจ้าจึงชักชวนมนุษยชาติให้เข้าสู่วิถีบาปและมีอำนาจในแผ่นดินโลก ในคัมภีร์ฮีบรูไบเบิ้ล และคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ ซาตานเป็นผู้ต่อต้านอำนาจจากพระเจ้าเป็นหลัก เป็นความชั่วร้ายซึ่งมีคุณสมบัติเรียกว่าปีศาจ
จะเห็นได้ว่าบางศาสนาบอกว่าซาตานกำเนิดจากทูตสวรรค์ แต่ด้วยความบังอาจถือดีเหิมเกริมทำตนเทียบเคียงกับพระเจ้าจึงเป็นได้แค่ปีศาจที่ชักจูงและล่อลวงมนุษย์ให้กระทำผิดบาป อีกทั้งยังต่อต้านพระผู้เป็นเจ้า ซาตานจึงไม่ได้ทำหน้าที่ทูตสวรรค์ซึ่งถือเป็นอำนาจฝ่ายดีอีกต่อไป
ส่วนทูตสวรรค์หรือเทวทูต คือชาวสวรรค์จำพวกหนึ่งตามความเชื่อทางศาสนาและในเทพปกรณัมต่างๆ โดยมีหน้าที่เป็นผู้แจ้งข่าวสารจากสวรรค์มายังโลก บ้างก็ทำหน้าที่อารักขา แนะนำ หรือมอบหมายภารกิจแก่มนุษย์อีกทั้งคำว่าทูตสวรรค์ยังถูกใช้หมายถึงวิญญาณในศาสนาอื่นๆด้วย
นอกจากการแจ้งข่าวแล้ว ทูตสวรรค์ยังมีหน้าที่ปกป้องและนำทางมนุษย์ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระเจ้ามอบหมายให้สำเร็จลุล่วง อย่างเช่นในศาสนาอิสลามเรียกว่า "มลาอิกะฮ์"
จะขอยกเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นความเชื่อเกี่ยวกับบทบาทของซาตานและทูตสวรรค์ที่ส่งผลต่อมนุษย์ดังต่อไปนี้
ย้อนไปหลายปีก่อน ณ ชุมชนในเมืองแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯที่แออัดยัดเยียดไปด้วยบ้านช่องผู้คนที่ปลูกติดๆกันมีทั้งของชาวไทยพุทธและอิสลาม วันหนึ่งวันนั้นจำได้ว่าอยู่ในช่วงฤดูร้อนแต่มีลมที่พัดกรรโชกแรงและอากาศแห้งมาก…จู่ๆเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นที่บ้านไม้หลังหนึ่งในชุมชนซึ่งรายล้อมไปด้วยบ้านไม้เช่นเดียวกันโดยไฟได้ลุกโหมกระพืออย่างรุนแรงและลามเลียรวดเร็ว!!
ผู้คนต่างขนข้าวของและหนีตายกันอลหม่านเพราะเปลวเพลิงลุกโชนน่ากลัวยิ่ง อีกนิดเดียวความร้อนระอุดั่งเตาไฟขนาดยักษ์ที่โชติช่วงนั้นก็จะลามไปถึงที่ตั้งของมัสยิดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของชาวอิสลามที่อยู่ในชุมชนนั้น อีกทั้งควันไฟก็พวยพุ่งแทบมองไม่เห็นอะไร โดยเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นช่วงใกล้โพล้เพล้เสียด้วย
แต่แล้วมีคนได้ยินเสียงอาซานที่มัสยิด (เสียงเชิญชวนและบอกเวลาละหมาดของชาวมุสลิม)ซึ่ง ณ ช่วงเวลาวิกฤตแห่งความเป็นความตายนั้นคงไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถฝ่าความร้อนและควันไฟไปทำหน้าที่ดังกล่าวได้
แต่แปลกมากที่มีผู้เฒ่าคนหนึ่งสังเกตเห็นร่างๆหนึ่งซึ่งโปร่งใสยืนอยู่บนหลังคามัสยิดพร้อมเสียงอาซาน มือก็โบกไปมาประหนึ่งแสดงว่าพยายามปัดเป่าไล่เปลวไฟที่พวยพุ่งตรงมายังศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์นั้นให้หันเหไปในอีกทิศทางหนึ่งซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับมัสยิด ติดกับคูน้ำสายเล็กๆสายหนึ่งซึ่งเป็นจุดๆเดียวที่พอจะห่างไกลจากบ้านเรือนของผู้คนและตัวมัสยิดเอง
อัศจรรย์อย่างยิ่งเปลวไฟที่กำลังลุกโชนอย่างน่ากลัวนั้นได้หันเหจากจุดที่ตอนแรกมุ่งตรงไปยังมัสยิดอย่างดื้อๆคล้ายกับมีอะไรที่มองไม่เห็นมากั้นเอาไว้ประจวบกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและชาวบ้านได้ช่วยทำหน้าที่อย่างแข็งขันสามารถควบคุมเพลิงได้ในระดับหนึ่ง สายลมที่พัดโหมกระพือก็แผ่วลงๆจนในเวลาต่อมาเพลิงที่กำลังพิโรธก็ค่อยๆซาลงๆอย่างน่าฉงน…
ผู้คนแถวนั้นเชื่อกันว่าทูตสวรรค์ หรือมลาอิกะฮ์มาช่วยปกป้องมัสยิดไว้!!!
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้าที่เปลวเพลิงปริศนาจะลุกโชนขึ้นนั้นได้ยินเสียงคู่สามีภรรยาที่บ้านหลังต้นเพลิงได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงโดยสามีภรรยาคู่นั้นเป็นคนขี้เหล้าเมายาแถมยังชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้า
ซึ่งตามความเชื่อของผู้คนที่เคร่งศาสนาเชื่อว่าซาตานหรือชัยฏอนได้คอยกระซิบกระซาบยุยงให้คนคู่นี้อยู่ในหนทางแห่งการทำความชั่วและทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลาจนประมาทเป็นเหตุให้กระทำการบางอย่างจนเกิดเปลวไฟขึ้นและลามเลียไปทั่วบริเวณนั้น
บางค่ำคืนเคยมีคนเล่าว่าเคยมองเห็นร่างๆใหญ่ๆสีดำทะมึนเดินไปเดินมาภายในบ้านของสามีภรรยาคู่นั้น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นซาตานหรือชัยฏอนหรือ "ญิน" ฝ่ายร้ายตามความเชื่อของคนอิสลามนั่นเอง
สรุปได้ว่า สิ่งลี้ลับฝ่ายหนึ่งคอยยุยงและทำร้าย แต่อีกฝ่ายหนึ่งคอยปกป้องและแก้ไข เป็นสงครามตัวแทนระหว่างความดีกับความชั่วนับแต่สมัยดึกดำบรรพ์และจะเป็นไปจนจวบวันสิ้นโลกใบนี้
มนุษย์ต้องวิเคราะห์และชั่งใจให้ดีเพราะสมัยนี้บางทีซาตานก็มาในคราบของนักบุญ การจะเลือกข้างที่ถูกอาจต้องอาศัยหัวสมองและหัวใจมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า แต่จะเป็นไรไปถ้าหัวใจเราสะอาด…ทูตสวรรค์จะอยู่ข้างเราเสมอ
ศาสตรา สุมาลยศักดิ์/เรื่อง-เรียบเรียง
วิกิพีเดีย/ภาพ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
