11 พ.ค. 2022 เวลา 23:35 • กีฬา
- ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยน -
โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่คนปัจจุบันของ โรม่า ให้สัมภาษณ์ผ่าน 'SkySports' ได้แบบน่าสนใจอีกครั้ง
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวเขาพูดถึงการรียูเนี่ยนกับ เฮนริค มคิห์ทาร์ยาน และ คริส สมอลลิ่ง อีกครั้งหลังเคยทำงานผ่านทุกข์ผ่านสุขด้วยกันมาก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในยุคสมัยของ มูรินโญ่ คือยุคสมัยสุดท้ายที่ "ปีศาจแดง" ได้สัมผัสถ้วยแชมป์แบบเต็มไม้เต็มมือทั้ง ยูโรปา ลีก และ คาราบาว คัพ
ทั้งสองถ้วยก็มี สมอลลิ่ง กับ มิคกี้ อยู่ในทีมด้วยนั่นล่ะ
แต่ประเด็นก็คือช่วงที่ทั้งสองทีมอยู่กับ มูรินโญ่ นั้นกลายเป็นว่าโดนกระแสจากสื่อทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขัดแย้งกัน
มคิห์ทาร์ยาน โดนจับยัดให้อยู่ในดีลสลับขั้วกับ อเล็กซิส ซานเชซ ทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาได้ฤดูกาลเดียวซึ่งเขาก็โดนวิจารณ์ว่าเล่นไม่เข้าแผนของ มูรินโญ่ เลยแม้แต่น้อยเพราะฟอร์มไม่เหมือนตอนอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
แต่ถึงอย่างนั้น มิคกี้ ได้รับโอกาสลงสนามในฟุตบอลถ้วยและผลงานของเขาก็ไม่ได้แย่อะไร แข้งชาวอาร์เมเนียนลงสนามรวมทั้งหมด 29 นัด (สำรอง 11) ยิงได้ถึง 11 ประตูในทุกรายการ
ที่สำคัญคือยิงได้ในรอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก เป็นประตูปิดกล่องให้ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาแจ็กซ์ ได้แบบเด็ดขาด
หากยังจำกันได้ตำแหน่งของ มิคกี้ จริงๆคือเพลย์เมคเกอร์แต่มาที่ ยูไนเต็ด เขาโดนถ่างออกไปเล่นริมเส้นบ่อยครั้งทำให้ไม่อาจรีดเร้นศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้
ส่วน สมอลลิ่ง นั้นถ้าผมจำไม่ผิดฤดูกาลที่ มูรินโญ่ นำทีมคว้าอันดับที่ 2 เขายืนจับคู่กับ ฟิล โจนส์ ในช่วงแรกก่อน โจนส์ จะเจ็บยาวได้แบบแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อ
แต่ภาพจำก็อย่างที่รู้ๆกันนั่นล่ะครับ สมอลลิ่ง ไม่ได้ดีอะไรเลยกับตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเขากลายเป็นตัวรั่วที่แฟนๆไม่ไว้เนื้อเชื่อใจจนโหยหาปราการหลังคนใหม่และได้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มานั่นล่ะ
ทั้งสองคนเส้นทางชีวิตมาบรรจบกันที่ โรม่า แบบเซอร์ไพรส์ครับและที่ว๊าวซ่ากว่าก็คือ มูรินโญ่ ก็มีช่วงชีวิตที่ถูกขีดเขียนมาที่กรุงโรมด้วย
เท่านั้นล่ะครับพอ มูรินโญ่ รับงานชื่อของทั้ง สมอลลิ่ง และ มคิห์ทาร์ยาน ก็โดนสื่อกระพือทันทีว่าจะไม่ได้อยู่โรม่าต่อ
ทว่า มูรินโญ่ ไม่ได้ทำแบบนั้น
มคิห์ทาร์ยาน ที่ว่าไม่เข้าแผนลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้วถึง 43 นัดยิงได้ 5 แอสซิสต์อีก 9
ขณะเดียวกันผมลองไปเปิดสถิติ สมอลลิ่ง อยู่นี่คือถ้าเขาไม่เจ็บไม่ป่วยได้ลงครบ 90 นาทีตลอดในฤดูกาลนี้เลยนะครับ
ทั้งสองก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ มูรินโญ่ ได้แบบเต็มตัว
"เรา (มูกับมิคกี้) คว้า 3 แชมป์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมกัน (คอมมิวนิตี้ ชิลด์, คาราบาว คัพ และ ยูโรปา ลีก) และก็โชคร้ายที่มันเป็น 3 แชมป์สุดท้ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาจนถึงตอนนี้ ผมบอกว่าโชคร้ายเพราะว่าผมชอบสโมสรแห่งนั้นมากๆ มากๆจริงๆและผมก็อวยพรให้สโมสรอยู่เสมอ"
"แต่เราคว้า 3 แชมป์ร่วมกันดังนั้นทุกอย่างมันเป็นไปด้วยดีแต่ในฤดูกาลที่ 2 ที่เราทำงานร่วมกันบางอย่างมันแตกต่างไปนิดหน่อย"
"สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมีความสุขเลยก็คือตอนแรกผู้คนพยายามคิดในแง่ลบกับผม ผู้คนต่างบอกว่า 'มคิห์ทาร์ยาน กับ โชเซ่ เหรอเขาไม่มีโอกาสอีกแล้วแน่ๆเพราะ โชเซ่ เป็นคนที่ใครทำพลาดแล้วพวกเขาก็ไม่เคยกลับมาดีได้เลย'" มูรินโญ่ เริ่มเปิดใจหลังโดนถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง มิคกี้ และ สมอลลิ่ง
"และแน่นอนว่าทุกอย่างมันถูกพิสูจน์แล้วว่ามันตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคิดทั้งหมด"
"เราต่างมีวุฒิภาวะ เราซื่อสัตย์ต่อกันและกันดังนั้นผมแฮปปี้จริงๆกับมิคกี้และผมก็แฮปปี้ที่ผู้คนเข้าใจแล้วว่าสำหรับผมไม่ได้มีแค่สีขาวกับสีดำและมันเป็นไปได้เสมอกับนักเตะที่จะมีความสัมพันธ์แตกต่างกันออกไปจากครั้งอดีต"
"สถานการณ์กับ คริส (สมอลลิ่ง) คือการหาบาลานซ์ในร่างกายของเขาที่ทำให้เล่นได้ตามปกติเพราะเขามีทั้งประสบการณ์, มีศักยภาพ เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเวลานี้เขาเป็นที่รู้จักกันดีใน อิตาลี ว่าเป็น 'สมัลดินี่' หรือส่วนผสมของ สมอลลิ่ง และ มัลดินี่"
"เขาทำผลงานได้ดีกับเรา"
คำพูดต่างๆของ มูรินโญ่ ในคราวนี้มันแสดงให้เห็นถึงการที่เขายังคงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตามสถานการณ์ได้
การย้อนอดีตสมัยที่เขายังคงอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นเรื่องน่าสนใจอยู่เสมอว่าจริงๆแล้ว มูรินโญ่ เจออะไรมาและโดนกระทำแบบไหนจากฝ่ายใดบ้าง
ทว่าสิ่งที่เขาเจอในตอนนั้นเหมือนว่ามันจะกลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว เขาพร้อมจะเริ่มใหม่เสมอ
โฆษณา