ตรวจร่างกายเพื่อความอึดไปอีกขั้นด้วย Lactate Test
หลายคนอาจเคยคิดว่าการออกกำลังกาย ยิ่งทำมากยิ่งดี หรือยิ่งฝึกมาก ยิ่งอึดมาก ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะแท้จริงแล้ว ร่างกายของแต่ละคนมีขีดจำกัด (Threshold) แตกต่างกัน และเมื่อถึงจุดนั้นแล้ว การฝืนฝึกซ้อมต่อไปจะไม่เกิดประโยชน์ มีแต่จะทำให้ร่างกายของผู้นั้นอ่อนล้าเกินความจำเป็น
โดยสิ่งที่เป็นตัวชี้วัดของเรื่องนี้ก็คือ กรดแลคเตท (Lactate Acid) ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของผู้นั้น
และเรื่องราวต่อจากนี้ จะเป็นการอธิบายอย่างเข้าใจง่าย เพื่อไขข้อสงสัยว่าเหตุใดสมรรภาพร่างกายหรือความอึดของนักกีฬาแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และบทบาทของ Lactate Test เข้ามาช่วยเพิ่มขีดจำกัดของนักกีฬาได้อย่างไร พร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลย
กรดแลคเตทคืออะไร ?
แลคเตทเป็นกรดชนิดหนึ่งที่ร่างกายหลั่งและนำไปใช้เมื่อมีการออกแรงที่มีความหนักสูง ยิ่งออกแรงมากก็จะยิ่งมีแลคเตทออกมามากจนมีความเข้มข้นสะสมขึ้นเรื่อยๆ
โดยการออกกำลังที่ถูกต้อง ไม่ควรจะให้แลคเตทมีความเข้มข้นมากเกินไป ในเวลาที่นานจนเกินไป เพราะเมื่อร่างกายมีแลคเตทสูงมากเป็นเวลานานจะทำให้ผู้นั้นมีอาการปวด เมื่อยล้า และเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อ
ทั้งนี้ นักกีฬาที่มีการฝึกที่ถูกต้องจะมีการเคลียร์แลคเตทหรือการนำแลคเตทไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นพวกเขาจึงมีความทนทาน หรือความอึดต่อการใช้กำลังอย่างหนักที่มากกว่านั่นเอง
วิธีการทำแลคเตทเทส คือ การทดสอบนักกีฬาโดยเพิ่มความหนักของการออกแรง (เช่น การปั่นจักรยาน) เพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดไปเรื่อยๆ โดยในแต่ละขั้นบันไดต้องควบคุมความหนักให้คงที่ ในช่วงสุดท้ายของแต่ละขั้นบันไดจะมีการเจาะเลือด เพื่อนำไปวัดความเข้มข้นของแลคเตท ทำไปเรื่อยๆ จนร่างกายมีความเข้มข้นของแลคเตทถึงจุด Threshold หรือจุดซึ่งเป็นขีดจำกัด เฉลี่ยที่ประมาณ 4 mmol หรือที่เรียกว่าค่า FTP/Critical Power
นั่นหมายความว่า ยิ่งใครที่ได้รับการเจาะเลือดจำนวนครั้งมาก = ร่างกายหลั่งแลคเตสช้า (เหนื่อยช้า) แปลว่าผู้นั้นมีขีดจำกัดสูงหรือเป็นผู้ที่มีความอึดมากนั่นเอง
การเข้าใจร่างกายตัวเองด้วยการทำแลคเตทเทสต์ (Lactate Threshold Test) จะทำให้นักกีฬาหรือผู้ออกกำลังกาย สามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการจัดโซนการเทรนนิ่ง หรือวางแผนการฝึกซ้อม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะนักกีฬาที่ต้องใช้กำลังติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น นักวิ่ง นักว่ายน้ำ นักปั่นจักรยาน นักไตรกีฬา รวมไปถึงใช้ในวงการฟุตบอลอีกด้วย
รู้หรือไม่ สโมสรลิเวอร์พูล ภายใต้การดูแลของผู้จัดการทีม 'เจอร์เก้น คล็อปป์' มีการกำหนดให้นักกีฬาทำ Lactate Test โดยมีเป้าหมายเพื่อทดสอบสมรรถภาพความอดทนของนักเตะว่าอยู่ระดับใด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนฝึกซ้อมของทีมนั่นเอง
ค่าแลคเตทที่ได้จากการทดสอบจะถูกนำมาแบ่งกลุ่มออกเป็นโซนการฝึกซ้อมไล่จากเบาไปหนัก โซน 1 ไปจนถึงโซน 5 ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามบุคคล เนื่องจากการตอบสนองและประสิทธิภาพในการเคลียร์แลคเตทที่แตกต่างกัน
จึงมีคำกล่าวที่ว่า การฝึกซ้อมโดยไม่คำนึงถึงค่า FTP ก็เหมือนการเดินทางไปสู่เป้าหมายแบบไร้แผนที่นำทาง
การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง มีระบบและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับกับการทำ Lactate Test จะทำให้ผู้นั้นสามารถพัฒนาค่า FTP สูงขึ้น หรือมีจุดของขีดจำกัดร่างกายที่สูงขึ้น นั่นหมายถึงคุณจะสามารถวิ่ง ว่าย หรือปั่น ด้วยการใช้พลังงานเท่าเดิมแต่ร่างกายจะหลั่งกรดแลคติคออกมาน้อยลง ส่งผลให้เหนื่อยน้อยลงไปด้วยนั่นเอง
สำหรับผู้ออกกำลังกายหรือนักกีฬาท่านใด ที่อยากลองทำ Lactate Test เพื่อการเข้าใจศักยภาพร่างกายของตนเองให้ดียิ่งขึ้น สามารถตรงเข้ามารับคำปรึกษาพร้อมทำแลคเตทเทส์ได้ที่ Sport Lab ห้องทดสอบศักยภาพโดยอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์อย่างเต็มรูปแบบภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญของ STAGE Find The Real U
ซึ่งนอกจาก Lactate Test แล้ว ยังมีการทดสอบร่างกายขั้นสูงประเภทอื่นๆ ให้นักกีฬาเลือกเข้ารับบริการอีกมากมาย อาทิ 3D Running Gait Analysis , Sweat Test , Metabolic Analysis เป็นต้น รับรองว่าเมื่อได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ STAGE Find The Real U แล้วจะทำให้นิยามการออกกำลังกายของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล
#STAGEFingTheRealU #Findtherealu
#Lifestyle #Lactate #SportLab
#SportTest
👍ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืมกด ✅ See First
เพื่อติดตามข่าวสารใหม่ๆ อัพเดตก่อนใครได้ที่
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
Tel: 02-003-5445
Line: https://lin.ee/2qB019G0h
Email: Lek@stagefindtherealu.com
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
