13 พ.ค. 2022 เวลา 21:27 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
#ติ่งอะไรในเคป็อป
รีวิวเคป็อปอัลบั้ม (2022)
07. PSY ‒ PSY 9th
Released: 2022/04/29
Genres: hip hop, dance pop
Produced by 싸이 (PSY)
.
(싸이 (PSY), 유건형, SPACE ONE, SUGA (방탄소년단), EL CAPITXN, 지코 (ZICO), 유건형, 화이트99 (WHITE99), Tablo (Epik High), 이단옆차기 (Duble Sidekick), 고태영, 캡틴락, 서원진, JESSI, 오동식, Mike Bradley, Stephen Wittmack, Peggy March, Crush, GENERAL SOUND, 기리보이 (Giriboy), GLEAM, VVN, AURA)
“ป๊ะป๋ากลับมาแล้ว”
TRIGGER WARNING!!
** เนื้อหานี้มีคำสบถและหยาบคายเพื่อให้การบรรยายเข้าถึงทุกอณูในแต่ละประโยคในบางส่วนของเนื้อหา หากผู้อ่านท่านใดที่รู้สึกไม่โอเค ขออภัย ณ ทีนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เพราะมีความต้องการให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามฟีลลิ่งแต่จะพยายามไม่ยัดเยียดจนเกินเหตุ ให้มีความสมเหตุสมผลควบคู่กันไป ถือว่าติดเครื่องหมายเตือนด้วยดีแล้ว อย่างน้องก็ได้แจ้งกันให้ทราบถือว่าเข้าใจทุกภาคส่วน **
• ให้ถึงเพลงที่โคตร fucking mega hit ทั่วโลกตลอดกาลทางฝั่งเคป็อปเป็นใครก็ต้องนึกถึง Gangnam Style เพลงสไตล์อีดีเอ็มอันแสนบ้าบอที่พูดถึงการจีบหญิงในแบบวิถีชีวิตของคนเมืองกังนัมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านของคนรวยมาพร้อมกับท่าเต้นควบม้าสุดไวรัลขนาดแรงที่ส่งผลให้กลายเป็นศิลปินเกาหลีเดี่ยวชายที่ขึ้นไปอยู่บนชาร์ต Hot 100 คนแรกที่พีคสูงสุดในอันดับสองและยังขึ้นอันดับหนึ่งในหลายๆประเทศรวมถึงในบ้านตัวเองเช่นกัน
นับว่าเป็นเวลาเข้าสู่ปีที่สิบสำหรับเพลงนี้แล้ว กระแสมันก็มีมาแล้วผ่านไปตามกาลเวลาเป็นเรื่องปกติแต่เชื่อเถอะ ถ้าตอนนี้ยังกลับไปฟังเพลงนี้อีกครั้งความฮิตก็ยังคงไม่จางหายไปไหนไกล การันตีด้วย 4.4 พันล้านวิวในยูทูปและยังคงเพิ่มเรื่อยๆวันละไม่ต่ำกว่าล้านวิวเป็นอย่างต่ำ เพลงเดียวแต่พิสูทธิ์ถึงความสำเร็จระดับ worldwide แบบมหาศาลเอามากๆ
แม้ซิงเกิ้ลหลังจากนั้นอย่าง Gentleman, HANGOVER จะไม่ได้สานต่อความสำเร็จระยะยาวของป๋าแกเท่าไหร่แถมยังโดนสบประมาท ‘One Hit Wonder’ จากใครหลายๆคน แต่หารู้ไม่.. ความเป็นจริงป๋าแกมีชื่อเสียงมานานก่อนที่ดังนัมจะดังระเบิดแล้ว!!
• พัคแจซัง a.k.a ป๊ะป๋า PSY(ไซ) จากเด็กที่เอาแต่เล่นมุกตลกเรื่องเพศไปวันๆจนได้รับฉายาตัวตลกประจำชั้นเรียน(ซึ่งในความเป็นจริงป๋าแกไม่ชอบโรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่) เตรียมตัวเพื่อเรียนที่มหาวิทยาลัยบอสตันด้านธุรกิจเพื่อรับช่วงต่อจากผู้เป็นบิดาในบริษัท DI Corporation
แต่เพราะความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องได้จุดประกายขึ้นมาเพียงเพราะในอายุ 15 ปีเขาได้นั่งดูทีวีที่กำลังภาพฉายคอนเสิร์ตของวง Queen กับซิงเกิ้ลสุดฮิตตลอดกาล Bohemian Rhapsody ทำให้เขาเปลี่ยนใจที่จะรับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวเลยตัดสินใจลาออกจากสถาบันชื่อดังที่เรียนได้แค่เทอมเดียว
เพราะหมดไฟไปกับการศึกษาแล้วนำเงินค่าเรียนที่ได้ซื้อพวกอุปกรณ์เพื่อจริงจังกับการเป็นนักร้องและสมัครเรียนอีกครั้งที่ Berklee College of Music หลักสูตร lessons in ear training, contemporary writing and music synthesis แต่ก็เหมือนเรียนได้ไม่นานแล้วลาออกจากสถาบันเพื่อกลับประเทศบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นการเป็นนักร้องของตัวเองอย่างจริงจัง
จนมาในปี 1999 ป๋าแกดันไปถูกใจกับ choPD ในตำนานจึงได้เริ่มมีการทาบทามชวนมาเป็นนักร้องอย่างจริงจังมากขึ้นโดยการเชิญมาฟีทเจอร์ริ่งในอัลบั้ม In Stardom Version 2.0 ในเพลง Cassanova เป็นจุดเริ่มต้นในเส้นทางของป๋าแกทีละก้าวและกลายมาเป็นที่รู้จักในปี 2000 กับการไปเต้นออกรายการทีวี
• ในที่สุดแกก็ได้เดบิวท์ในฐานะศิลปินสมใจอยากในปี 2001 กับสตูดิโออัลบั้มเปิดตัวชุดแรก Psy from the Psycho World! ภายใต้ต้นสังกัด Cream Records ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นไปแบบสวยกับซิงเกิ้ลหลักสองเพลงอย่าง Bird และ The End พอให้คนได้รู้จักและเห็นหน้าคร่าตาของป๋าแกในกระแสวงกว้างกว่าเดิมพร้อมกับฉายา ‘엽기가수 (The Bizarre Singer)’
เพราะเนื้อหาเพลงของป๋าแกล้วนแล้วเต็มไปด้วยเรื่องราว 19+ ที่จัดเต็มครบสูตรไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว
PSY, 정규 1집 "Psy From The Psycho World" (2001)
• ต่อด้วยการคัมแบ็คในปี 2002 ถึงการปล่อยสองอัลบั้มด้วยกันอย่าง Ssa2 ที่เล่นปล่อยในวันที่ 1 มกราคมขึ้นปีใหม่พอดิบพอดีแต่กลับไม่ค่อยได้ผลที่น่าพอใจมากนักเพราะเนื้อหาในอัลบั้มล้วนแล้วเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีคำรุนแรงหนักกว่าเดิมจนถูกสั่งห้ามจำหน่ายให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 19 ปี
PSY, 정규 2집 "싸2" (2002)
• แล้วกลับมาแก้มือใหม่ในอัลบั้มที่สาม 3 Mai อัลบั้มที่ไม่ได้หนักในเรื่องผู้ใหญ่เหมือนงานก่อนหน้าและมุ่งเน้นไปที่ความสนุกเต็มสูตรเอาใจคนทุกวัย ผนวกกับจังหวะในปีที่ FIFA World Cup จัดขึ้นและประเทศบ้านเกิดป๋าแกเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ Champion ซิงเกิ้ลโปรโมทหลักเพลงแรกที่เป็นดั่งความตั้งใจในการ cheer up
เลยส่งผลให้กลายเป็นหนึ่งในเพลงซิกเนเจอร์ประจำตัวที่ใครก็รู้จักในวงกว้างและสามารถขึ้นไปสูงสุดในอันดับ 7 บนชาร์ตเมล่อนในระยะเวลายาวนานเกือบ 4 เดือนท่ามกลางสงครามเพลงบัลลาดและยังได้รับรางวัลนักแต่งเพลงยอดเยื่อมจาก Seoul Music Awards ซึ่งก็เป็นปีสุดท้ายสำหรับสาขานี้พร้อมกับเสียงนักวิจารณ์โต้เถยงกันเรื่องเนื้อหาของป๋าแกตลอดเวลา แต่ก็เป็นอัลบั้มทิ้งท้ายสั่งลาก่อนที่ป๋าไซจะเข้าไปรับใช้ชาติในปี 2003
PSY, 정규 3집 "Psy 3집" (2002)
• หลังจากสิ้นสุดภารกิจในฐานะทหารชั่วคราวในปี 2005 Ssajib สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 ก็ได้ปล่อยออกมาหลังจากนั้นในปี 2006 ภายใต้สังกัดใหม่ Yamazone Music ภายใต้การดูแลของ YBM Seoul Records (ปัจจุบันเป็นชื่อ Kakao M) ก็คงยังเป็นเรื่องโต้เถียงกันในเรื่องเนื้อหาที่ออกไปทาง 19+ เหมือนเดิมแต่ไม่ได้หนักมากเพราะป๋าแกยังคงทำให้เนื้อหามันบาลานซ์เข้าถึงทุกเพศทุกวัยได้มากขึ้น
จนมีซิงเกิ้ลฮิตอย่าง Entertainer ที่ได้กลายเป็นเพลงแรกของป๋าแกที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 2 บนชาร์ตเมล่อน(สัปดาห์)ได้นับตั้งแต่เดบิวท์มาแถมยังเป็นกลายเป็นเพลงสำหรับเหล่าคนบันเทิงเกาหลีเวลาสรรเสริญหรือเฉลิมฉลองในงานปลายปีแต่เหมือนความดังเฉิดฉายจะกลับมาอีกครั้งไม่นาน
• ในปีถัดมาป๋าไซกลับถูกทางอัยการของรัฐบาลได้กล่าวหาว่าป๋าแกละเลยการทำหน้าที่เพราะดันออกสื่อทางทีวีในระหว่างเวลาที่กำลังปฏิบัติรับใช้ชาติอยู่ สุดท้ายแล้วทางศาลปกครองกรุงโซลก็ให้ป๋าแกกลับไปรับใช้ชาติอีกหนึ่งครั้งและต้องเสียเวลาไปอีกสองปีแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของแกจางหายไปแม้แต่น้อยเพราะหลังจากจบหน้าทื่รับใช้ชาติในปี 2009
ป๋าแกได้เซ็นสัญญาใหม่กับค่าย YG จากคำแนะนำของภรรยาป๋าแกเพราะที่ผ่านมาดันเกิดปัญหาการเงินส่วนตัวเข้าและเริ่มต้นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ห้า PsyFive ที่กลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีในเพลง Right Now ได้รับรางวัลจากงาน Melon Music Awards แม้จะยังคงเป็นที่พูดถึงในเรื่องของเนื้อหาอยู่รำไรแต่ก็หาได้แคร์ตามสไตล์ป๋า
แล้วหลังจากนั้นในอีกสองปีให้หลังก็สร้างตำนานในสตูดิโออัลบั้มชุดที่หก Psy 6 (Six Rules) อย่าง Gangnam Style ที่เป็นความสำเร็จแบบที่ตัวป๋าแกตั้งรับไม่ทัน
• เพราะความกดดันมากขึ้นจนถึงขั้นที่เพื่อนสนิทอย่าง ยางฮยอนซอก ที่เป็นประธานค่าย ณ ตอนนั้นถึงกับบอกว่าให้ใจเย็นเข้าไว้ สตูดิโออัลบั้มชุดที่เจ็ด Chiljip Psy-da จึงเป็นการสร้างความสำเร็จออกไว้สองทางทั้ง Napai Baiji มุ่งเน้นในประเทศ
และ Daddy มุ่งเน้นความสำเร็จไปที่ต่างประเทศแม้ว่าเนื้อหาจะยังคงเล่นกับความสนุกแบบโจ๊กๆตามสไตล์คนตลกเฮฮาแต่ก็เริ่มสอดแทรกถึงการเข้าใจในชีวิตมากขึ้นหลังจากการสูญเสียของ ชินแฮชอล นักร้องนำวงร็อค N.E.X.T ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของป๋าแกด้วยเช่นกัน
PSY, 정규 7집 "칠집싸이다" - NAPAL BAJI & DADDY (2015)
• จนอีกสองปีให้หลังในปี 2017 กับสตูดิโออัลบั้มชุดที่แปด 4X2=8 ที่เป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายก่อนที่ป๋าแกจะตัดสินไม่ต่อสัญญากับทางวายจีที่อยู่กันมายาวนานถึงแปดปีด้วยกันเพื่อเริ่มต้นชีวิตในฐานะศิลปินอีกหนึ่งครั้งใหม่แต่ก็ไม่ใช่ในฐานะศิลปินแค่อย่างเดียว..
PSY, 정규 8집 "4X2=8" - I LUV IT & NEW FACE (2017)
• ข่าวการก่อตั้งบริษัทของตัวเอง P NATION ในปี 2019 นับว่าเป็นการสร้างความฮือฮาครั้งใหม่ให้กับวงการบันเทิงเพราะขึ้นชื่อว่าป๊ะป๋าไซแล้วการจะปั้นศิลปินนับว่าเป็นอะไรที่น่าคาดหวังพอสมควร แต่การเริ่มต้นของป๋าแกก็ไม่ใช่ปุบปับเลยทีเดียว การทำให้ผู้คนเชื่อมั่นในฝีมือการเป็นซีอีโอย่อมสำคัญมาเป็นอันดับแรก
การเชื้อเชิญเหล่าศิลปินคนดังในวงการมาร่วมสัญญาภายใต้การดูแลของตัวเองนับว่าเป็นการสร้างหน้าตาให้กับค่ายได้เยอะเลยทีเดียวเริ่มตั้งแต่ เจสซี่ ที่หมดสัญญากับต้นสังกัดเก่าและมีปัญหาคาราคาซังเกี่ยวกับการโปรโมทของเธอแต่เพราะว่าป๋าแกเห็นศักยภาพในตัวที่ควรจะไปได้มากกว่านั้น ทุกวันนี้เจสซี่เลยกลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากกว่าค่ายเก่าไปมากโข
ยังมีทั้งตัวแม่ที่เป็นหนึ่งใน Psy Girls อย่างฮยอนอาที่สนิทกันเป็นเวลานานนับตั้งแต่ร่วมงานกันใน Gangnam Style และแฟนหนุ่มของเธออย่าง ดอน ไหนจะตัวพ่อตัวแม่สาย r&b ทั้ง ครัช และ เฮซ ที่เป็นสองศิลปินคาดไม่ถึงว่าป๋าแกจะจับมาอยู่ในสังกัดเหมือนกันและก็มีสายฮิปฮอปอย่าง PENOMECO และ Swings ที่ได้ลาออกจากการเป็นซีอีโอในค่ายของตัวเองก่อนที่จะมาร่วมสังกัดของป๋า
ภายใต้การเติบใหญ่ของศิลปินในค่ายนี้ป๋าแกทำหน้าที่คุมเบื้องหลังเองทั้งหมดทุกกระบวนการสมกับเป็นซีอีโอและฐานะซอนแบนิม(รุ่นพี่)จนถึงขั้นต้องเลื่อนการปล่อยอัลบั้มของตัวเองไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อทุ่มเทกับงานทางนี้ให้เต็มที่(เหตุผลเพราะอะไรไปอ่านได้ที่ facebook)
โดยในเวลาเพียงแค่สามปี(นับปัจจุบัน) P NATION กลายเป็นค่ายลูกใหม่ที่พัฒนาเติบโตจนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างวงกว้างมหาศาลจากเดิมที่ไม่ใช่แค่การเป็นที่จดจำในฐานะบริษัทของป๋าไซซะทีเดียว
แม้เจ้าตัวจะบอกว่าบริษัทยังคงต้องพัฒนาในอีกหลายๆด้านแล้วตอนนี้ก็กำลังจะเปิดตัวบอยกรุ๊ปวงใหม่วงแรกภายใต้สังกัดที่เกิดจากรายการ LOUD อย่างเด็กหนุ่มวง “TNX” ที่ได้เลือกให้ PENOMECO เป็นคนอยู่เบื้องหลังเดบิวท์ของเด็กๆแทนตัวแก ส่วนตัวเองก็ควรที่จะได้เวลากลับมาปล่อยอัลบั้มสักทีหลังจากที่เป็นเบื้องหลังให้กับเด็กในค่ายทุกคน
P NATION ARTIST (since 2019)
• เข้าสู่ปี 2022 ถึงเวลาที่ป๋าแกจะกลับมาผงาดโลกอีกหนึ่งครั้งหลังจากเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนดปล่อยในสตูดิโออัลบั้มชุดที่เก้า PSY 9th หรือ 싸다9 ที่เป็นการล้อเลียนมาจากคำว่า 싸다구 ที่แปลว่า ตบหน้า แต่ในความหมายของมันจริงๆเป็นการย่อคำที่มาจากชื่อเต็มของอัลบั้มชุดนี้ว่า “싸이의 다채로운 9집 (Psy's colourful 9th album)” ที่แปลว่า สีสันของไซ
ในคำอธิบายอัลบั้มชุดนี้ที่ป๋าไซแกได้ให้สัมภาษณ์ในวันปล่อยออกมาถึงการมองเห็นยุคปัจจุบันในการซื้ออัลบั้ม physical ของแฟนคลับเหล่าไอดอลเคป็อปเป็นที่นิยมอย่างมากแต่มันกลับดูล้าสมัยเพราะในยุคมันไม่มีใครมีเครื่องเล่นซีดีกันแล้ว การปล่อยเพลงดิจิตอลในยุคนี้สิถึงจะยาวนานกว่าเว้ย!
แนวคิดตรงนี้แหละที่ก่อให้เกิดการรวบรวมแนวดนตรีในอัลบั้มทั้ง 12 แทร็คของป๋าแกเข้าด้วยกันทั้งสองยุคและได้ให้คำนิยามกับตัวเองสำหรับงานชุดนี้ว่าเปรียบเสมือนเป็น “เอว” ในร่างกายดั่งศูนย์กลางสร้างความสมดุลในการเชื่อมโยงระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องในวงการเคป็อป ดูจากคนที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับป๋าแกแล้วก็บ่งบอกแล้วว่านี่คืออัลบั้มเชื่อมโยงของทั้งสองยุคเอาไว้จริงๆ
• เริ่มจาก 9INTRO ที่แทบจะกลายเป็นหนึ่งเพลงไปแล้วเพราะใช้เวลาเกือบสามนาทีในการ represent ผลงานที่ผ่านมาของตัวเองนับตั้งแต่เริ่มเดบิวท์มาในสไตล์ edm house-rap บีทดุดันแต่ป๋าแกกลับเลือกปล่อยให้โฟลว์ของตัวเองออกมาสบายๆราวกับว่าที่ผ่านมากูแม่งเจ๋งอยู่แล้วไม่ต้องโชว์อะไรมากมาย
เป็นแทร็คเปิดตัวเองได้เฉียบขาดจนลืมความตลกในตัวป๋าแกไปเลย แถมยังเป็นการตอกย้ำชัดเจนในอาชีพศิลปินของตัวเองให้กับพวกเด็กรุ่นใหม่ที่รู้จักแกไม่ดีพอกลายๆว่าแท้จริงแล้ว “กูเป็นแร็ปเปอร์เว้ย!!”
• Celeb แค่ฟังอินโทรก็เบิกเนตรแต่ไกล ZICO กลับเป็นโปรดิวเซอร์ให้ป๋าแกอีกครั้งที่ยังคงสไตล์ป็อปสนุกๆที่ไม่ได้หนักแน่นไปทางฮิปฮอปแบบ I LUV IT มากนักกับเนื้อที่ผ่อนคลายเป็นกันเอง สองคนนี้เหมือนแทบจะรวบร่างเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้วเพราะทั้งคู่ต่างกลายเป็นคู่ขาที่รู้ว่าควรงัดความสนุกแบบออกมาให้คนฟังได้เอ็นจอยไหนจะไลน์เสียงที่ได้กันมาเต็มๆ
รวมถึงมิวสิควิดีโอที่ได้รักแรกแห่งชาติอย่างสาว ซูจี มาร่วมแจมออกสเต็ปแดนซ์ที่โคตรเหมาะสมกับชื่อเพลงเสียจริง ออร่าความเป็นคนดังแผ่ซ่านไปทั้งเพลงและเป็น Psy Girls คนแรกที่ป๋าเลือกให้เป็นตัวหลักมากกว่าตัวป๋าแกเอง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะแกได้เปลี่ยนให้เพลงนี้ไม่ใช่ไตเติ้ลโปรโมทในแผนเดิมแต่ก็เป็นเพลงที่ปล่อยของความสนุกได้ดีเลย
• ไตเติ้ลโปรโมทของจริงอยู่ตรงนี้ต่างหาก That That มาแนวคาวบอยป็อปแดนซ์แปลกตาสำหรับป๋าไซพอสมควรแต่กลับเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมันทำให้ป๋าแกได้หลุดพ้นจากแนวเพลงอีดีเอ็มอย่างที่ตั้งใจไว้นานแล้ว
เพลงที่มาในโค้งสุดท้ายจากรุ่นน้องคนดังที่เป็นเบอร์ไม่แปลกหน้าโดยในสายดันกลายเป็น มินยุนกิ หรือ SUGA จากวงบีทีเอสผู้ที่อยากปิดโปรเจ็คงานโปรดิวซ์เพลงให้ศิลปินคนอื่นแล้ว เพลงนี้จึงกลายเป็นเพลงสุดท้ายในฐานะโปรดิวเซอร์ของเจ้าตัว(ที่ไม่รู้ว่าในฐานะเนมสเตจ SUGA หรือเปล่าเพราะยังมี Agust D เป็น alter ego ของตัวเองเหมือนกันหรือไม่ก็คงเป็นสัญญาณที่เกี่ยวกับการเข้าไปรับใช้ชาติหลังจากนี้)
อีกทั้งยังร่วมแจมความสนุกที่แย่งซีนป๋าแกเอาเรื่องอยู่เหมือนกันแต่ในแง่ความเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ยังคงห่างชั้นจากป๋าไซไปเท่าตัว
• GANJI มาในจังหวะฮิปฮอปสไตล์ชวนโยกที่หยิบเอาคำแลสงของวัยรุ่นยุคนี้มาหยิบใช้อย่าง “간지” ที่แปลว่า swag นั่นเอง เนื้อหาในเพลงเลยไม่ค่อยได้จับจุดอะไรมากความนอกจากโชว์ความ swag ล้วนๆ
การดึงเจสซี่มาฟีทเจอร์ริ่งที่ทำหน้าที่ใน verse ของตัวเองได้แปลกใหม่ต่างจากสไตล์แร็ปที่ผ่านมาของตัวเองแม้ว่าจะเคยปฏิเสธท่านประธานของตัวเองในการฟีทเจอร์ริ่ง(น่าจะเป็นไม่กี่คนที่กล้าปฏิเสธป๋าแกได้)แทร็คนี้มาแล้วหนึ่งครั้งเพราะช่วงนั้นอยู่ในระหว่างการโปรโมท ZOOM ซิงเกิ้ลใหม่เป็นครั้งสุดท้ายแต่การขอร้องของป๋าอีกหนึ่งครั้งกลับเป็นผลเพราะถ้าเพลงนี้ไม่ใช่เจสซี่ก้นึกถึงคนอื่นไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นใคร
ความตลกช่วงเริ่มเวิร์สของนางคนนี้ก็ดันเล่นแง่กวนตีนที่ว่าด้วยเนื้อเพลง “PSY 오빠 말했지 한국말 좀 제대로 해” เพราะป๋าแกอยากให้นางแปลเป็นภาษาเกาหลีมากขึ้นกว่านี้แต่หาได้แคร์เจสซี่ไม่ เพราะนับจากบาร์ทั้งหมดของนางแล้วภาษาเกาหลีแทบจะเป็นเศษเสี้ยวใน verse ของตัวเองจนป๋าแกปล่อยเลยละกันอยากทำไรทำโลด ให้อิสระกับเด็กในค่ายตัวเองเต็มพิกัดแต่อีกนัยหนึ่งท่านประธานที่เคารพรักนางก็ไม่เว้นกลัวแต่ใด สมกับเป็นตัวแม่ของยุค
• Now หยิบเอาเพลงอมตะในตำนานยุค 80s มาคัฟเวอร์ใหม่สไตล์ newtro สนุกๆ พูดแบบคนเข้าข้างหูตัวเองจัด ป๋าไซแกดูจะพยายามสร้างให้เพลงนี้กลายเป็น when we disco ของเพื่อนสนิทพัคจินยองในเวอร์ชั่นคนเศร้าที่ยังยื้อคนฟังให้เอ็นจอยได้ซึ่งก็เกือบจะทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ดันมาสะดุดคนคู่ขารุ่นน้อง ฮวาซา นี่แหละ
ไม่รู้ว่าใครจะคิดยังไงแต่ส่วนตัวแล้วเคมีของป๋าแกกับฮเยจินไม่ค่อยจะลงล็อคกันสักเท่าไหร่ แม้ว่าฝ่ายคนถูกเชิญโดยป๋าจะคุ้นชินกับงานสไตล์เรโทรเป็นอย่างดีพร้อมกับเนื้อเสียงที่สามารถบิ้วให้คนเศร้าได้โดยที่ไม่ตร้องพยายามเค้นโน๊ตให้มันสูง
แต่แม่นางคนนี้กลับโตขึ้นเกินไปที่จะ back to retro basic เหมือนสมัยยังละอ่อนแล้วแฮะ อีกหนึ่งอย่างคือทั้งเพลงเน้นเสียงสูงจะรู้สึกว่าแม่งไม่มีที่ให้หายใจผ่อนคลายเลยสักนิดเดียว เทียบกับต้นฉบับที่ว่าสูงแล้วในเวสอร์ชั่นนี้หนักขึ้นไปอีกถึงสามเท่าตัว เศร้าเหมือนกันที่ต้องกลายเป็น least track ของอัลบั้มไป
ในเมื่อป๋าแกโชว์ความสนุกสุดโต่งไปแล้วใช่ว่ามันจะไม่มีมุมที่มันออกไปทาง personal แน่นอนว่าพอคนเรามันโตขึ้นก็เริ่มอยากถ่ายทอดเรื่องราวส่วนตัวเหมือนกัน
• You Move Me สัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวในห้วงอารมณ์ของป๋าไซที่ผ่านเรื่องราวมาแล้วทุกช่วงชีวิตในการเป็นศิลปินของตัวเองแม้จะเป็นคนที่คอยสร้างสีสันมากมายแต่ใช่ว่าเบื้องหลังมันจะสนุกเหมือนหน้าฉาก การเชื้อเชิญอีกหนึ่งครั้งของน้องชายคนสนิท ซองซีคยอง ที่มาคอยปลอบโยจและเป็นกำลังใจเคียงข้างให้ป๋าไซ
ถึงแม้ว่าป๋าแกจะคอยให้น้องชายคนนี้มาร่วมแจมด้วยกันบ่อยจนรู้สึกเกรงใจแต่ซีคยองกลับไม่เคยปฏิเสธแม้แต่ครั้งเดียว เป็นคู่เพื่อนแท้ที่เข้าขากันได้ดีเลยทีเดียว
• Sleepless จากผลงานชื่อดังของวงร็อคในตำนานชื่อดัง CRYING NUT สู่การ rework ใหม่ในทำนองอะคลูสติกบัลลาดฟีลกู้ดพร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้คนที่กำลังเหนื่อยล้าจากการทำงานในยามราตรี
การเลือกเจ้าแม่ sadness อย่างเฮซมาเป็นผู้ซัพพอร์ตอีกหนึ่งแรงเลยได้เห็นในอีกหนึ่งมุมมองที่ไม่ได้มีแต่ความเศร้าในตัวเธอ(เวลาจับไมค์)เพียงอย่างเดียว แม้จะเป็นการร้องในแบบเฮซสไตล์แต่กลับเป็นโทนเสียงที่ทำให้ฟังแล้วรู้สึกเป็นกันเองสุดๆ
• Hello Monday แทร็คนี้ออกแนวไปทางน่ารักสดใสมากกกกกกกกก ตั้งแต่รู้จักกับป๋าไซมาแทบไม่เคยได้เห็นการทำเพลงสไตล์นี้มาก่อนหรือต่อให้มีก็เรียกว่าน้อยโคตรๆ เชื่อว่าหลายคนคงนั่งมองปฏิทินของตัวเองที่ไม่อยากให้ถูกพรากวันหยุดสุดสุปดาห์อันแสนพิเศษด้วยเช้าวันจันทร์อันแสนหน้าเบื่อ
แต่ชีวิตการทำงานของป๋าไซที่ไม่มีวันหยุดเหมือนกับชีวิตคนทำงานทั่วไปเลยเปลี่ยนบริบทเช้าวันจันทร์ให้กลายเป็นวันที่สดใสพร้อมรับพลังงานบวกให้ชีวิตของตัวเองมีความสุขตั้งแต่ต้นสัปดาห์
ดนตรีที่ออกไปทาวแนวป็อปสตริงๆแบบนี้ลายเซ็น GIRIBOY(กิริบอย) เวอร์ชั่นอยากเป็นเมนโวคอลสายบัลลาดชัดแจ๋วมาแต่ไกลเพิ่มเติมกิมมิคยังไม่หลุดเค้าความเป็นฮิปฮอปด้วยการหยอดฮิปฮอปแทร็ปลงในท่อนบริจด์ อย่างน้อยก็ไม่ลืมรากฐานเริ่มต้นของตัวเอง
• Happier ballad-r&b ที่ได้ ครัช มาฟีทเจอร์ริ่งให้ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งในแทร็คเมื่อสามปีที่แล้วคู่มากับ Celeb ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจเซ็นสัญญากับทาง P NATION ในอีกหนึ่งเดือนให้หลังจากการร่วมงานกันในเพลงนี้ สัมผัสได้ถึงความ deep emotional ลึกๆภายในของป๋าไซแล้วก็ยังอยากที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองมีความสุขมากกว่าเดิมแม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึงเหมือนกับดาวดวงและก้อนเมฆก็ตาม
มาพร้อมกับมิวสิควิดีโออนิเมชั่นที่เล่าถึงเรื่องราว coming of age ของตัวละครแรกเกิดจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ที่จะปล่อยออกมาในเร็วๆนี้
• forEVER เพลงที่แต่งขึ้นในวันรุ่งสางกลัวว่าตัวเองจะเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้อีกต่อไป ได้รุ่นน้องคนสนิทอย่างเฮีย Tablo(ทาโบล) มาร่วมสร้างความทรงจำอันแสนนิรันตร์ตลอดไปเพราะการพบเจอกันมักต้องมีการจากลาเสมอ
ส่วนอีกสองแทร็คโซโล่สุดท้ายก็พอก้ำกึ่งถึงความเป็น personal อยู่กลายๆ
• ปากของคนที่อยากบอกว่าจะไม่สร้างเพลงสไตล์ edm ท้ายที่สุดแม่งก็หนีไม่พ้นอยู่ดี Everyday เลยเป็นแทร็คสนุกๆช่วงท้ายที่มากับซาวนด์ตกยุคแหลกลานที่ทำให้หวนคิดถึงพวกคอนเสิร์ตหรือ festival ที่มันเคยหายไปเพราะพิษจาก COVID-19 แม้จะเป็นสไตล์ที่อยากหลบหนีชิบหายให้ตายแต่แกก็เปลี่ยนตัวย่อแนวนี้ให้เป็นคำว่า “Everyday Dance Music”
เพื่อให้คนได้คิดถึงสีสันความสนุกพวกนี้อีกหนึ่งครั้ง อีกนัยหนึ่งเหมือนเป็นเพลงสั่งลาวงการล่วงหน้าของป๋าแกที่ต่อให้ไม่อยู่บนเวทีเพื่อสร้างความสนุกอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้จะยังอยู่ด้วยกันในทุกๆวัน ต่อให้ความเชยจะระเบิดระเบ้อไปทั้งหมด 4:36 นาทีแต่กลับก็ให้อภัยป๋าเหมือนกัน
• Dear Me ส่งท้ายอัลบั้มด้วยการบอกตัวเองที่พร้อมจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้น แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความหวาดกลัวที่ไม่สามารถหาทางออกไปได้แค่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามกับรอยยิ้มอันสดใสในวันต่อไป ปิดแทร็คลิสต์ได้ฮีลลิ่งดีเลยแหละ
• ถือว่าเป็นการมาในรอบ 5 ปีของป๋าไซที่อิ่มหนำสำราญพอสมควร มันไม่ใช่แค่การสร้างความสนุกสนานตามสไตล์คนติดตลกจนบางทีก็ก่อให้เกิดดราม่าโดยไม่คาดคิดอยู่หลายครั้ง แต่คราวนี้กลับเป็นการละทิ้งมุกตลกเสียดสีทั้งหมดเพื่อเติมแต่งความสนุกที่เป็น “ความสนุกจริงๆ” ลงไปโดยไม่มีการปรุงแต่งจากความบ้าบิ่นที่ผ่านมา
colorful ในความหมายของป๋าไซเลยกลายเป็นสีสันที่เต็มไปด้วยหลากหลายทางอารมณ์ อีกทั้งยังได้เห็นถึงเรื่องราวสุด personal ที่มากกว่าครั้งไหนๆของป๋าแกด้วย รับรู้ได้เลยว่าที่ผ่านมาต้องเผชิญกับความยากลำบากในแต่ละเหตุการณ์อย่างสาหัสจนถึงขั้นที่ว่าน้ำหนักลดลงไปมาก กว่าจะกลับมาเป็นป๊ะป๋าผู้ผงาดวงการเพลงคนเดิมมันไม่ง่ายสักนิดเดียว ถ้านับย้อนหลังรวมที่ผ่านมาอัลบั้มชุดนี้เป็นอะไรที่เข้าถึงตัวแกได้มากสุดแล้วแหละ
• ไอ้คอนเซ็ปที่ว่าด้วยการรวม generation ทั้งสองยุคเข้าด้วยกันจะว่ามันเป็นไอเดียที่เวิร์คพอตัวในภาพรวมทั้งหมด 12 แทร็คนี้ก็จริงอยู่แต่กลับไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นความสมดุลที่บาลานซ์กันแล้วลงตัวซะทีเดียว ในบางแทร็คก็โดดจนสามารถเป็นจุดขายได้สบายแต่ในบางแทร็คก็ดร็อปเสียจนแทบไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยแม้แต่น้อย มันไม่ใช่ปัญหาของการจัดเรียงแทร็คลิสต์ต่อๆกันหรือการผสมผสานกับนักร้องในหลากหลายรุ่นเข้าด้วยกัน
แต่มันกลับเป็นความคิดของคนรุ่นใหญ่อย่างป๋าแกที่ค่อนข้างจะยังไม่เข้าใจความเป็น k-pop new generation มากพอนี่แหละ สุดท้ายแล้วต่อให้คนที่มีประสบการณ์มากว่า 21 ปีผ่านมาหลายยุคแล้วแต่วงการเคป็อปแค่ผ่านไปไม่กี่ปีหลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนได้ราวกับกระพริบตาเพียงแค่สามครั้งแล้ว
แนวคิดตรงนี้เลยยังคงเป็นจุดบอดเล็กน้อยที่ป๋าไซต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับมันอีกต่อไปเรื่อยๆ และเชื่อว่าใจอนาคตแกต้องปลดล็อคความคิดตรงนี้ได้แน่นอน แต่อย่างน้อยคำพูดของแกเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ยังเป็นจริงอีกหนึ่งที่จะสร้างเพลงฮิตที่ไม่ทับไลน์ Gangnam Style
PSY, 정규 9집 "싸다9" (2022)
“ถือซะว่าอัลบั้มนี้เป็นผลงานที่ทำให้หายคิดถึงป๋าแกเป็นระยะๆแล้วกัน”
Score: 7/10
Top Tracks: 9INTRO, Celeb, You Move Me, GANJI, Hello Monday, Everyday
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
โฆษณา