ทำไม Buffett ไม่กลัวขาดทุนช่วงเงินเฟ้อ?
คำพูดของผู้ที่ผ่านโลกมามาก ย่อมแฝงไว้ด้วยข้อคิดเสมอ ไม่แปลกที่นักลงทุน VI สายดำจะคอยติดตามการประชุมผู้ถือหุ้น #BerkshireHathaway ทุกๆ ปี
เพราะแต่ละปีจะมีโอกาสอยู่ไม่กี่ครั้ง ที่ได้ฟังความคิดจากมันสมองของ 2 นักลงทุนรุ่นเก๋าที่อายุรวมกันเกือบ 200 ปี และเป็นผู้นำทางความคิดของนักลงทุน VI ทั่วโลกอย่าง #WarrenBuffett และ #CharlieMunger
ในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2565 นี้ ก็มีไฮไลต์ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยทีมงาน Jiita Wealth จะทยอยมาสรุปให้ฟังทีละเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ‘เงินเฟ้อ’ ‘การลงทุนในจีน’ และ ‘คริปโทเคอร์เรนซี’
📌ภาวะเงินเฟ้อร้อนแรงในมุมมองของรุ่นเก๋า
เงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มทวีความร้อนแรงมาตั้งแต่เมษายน 2564 และไม่มีทีท่าว่า จะทุเลาลง จนทำให้ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งติดๆ กัน และคาดว่า จะมีครั้งต่อๆ ไปในปีนี้
เงินเฟ้อสหรัฐฯ สิ้นเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ +8.3% ในรอบ 12 เดือนหลังสุด ใกล้เคียงกับสถิติเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี
จริงๆ แล้วปู่ #Buffett เห็นสัญญาณเงินเฟ้อเร่งตัวตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้นปีที่แล้ว เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเฟอร์นิเจอร์ในพอร์ตของ Berkshire Hathaway ต้องซื้อเหล็กในราคาสูงขึ้น
ประชุมผู้ถือหุ้นปี 2565 นี้ ได้มีผู้ถือหุ้นถามปู่ Buffett เกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อ โดยอ้างถึงสิ่งที่ปู่พูดในปีที่แล้วด้วยครับ โดยคำถามคือ
อยากให้ปู่ Buffett ช่วยเปรียบเทียบเงินเฟ้อรอบนี้กับเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในอดีตว่าครั้งไหนน่ากลัวกว่ากัน?
ปู่ Buffett ตอบคำถามนี้จากมุมมองส่วนตัวว่า เงินเฟ้อรอบนี้เกิดจากมาตรการเยียวยา Covid-19 ในสหรัฐฯ รวมกันมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงมาตรการ QE #QuantitativeEasing และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เข้ามาเติมเชื้อไฟ
ถึงแม้ Fed จะบอกว่าตอนนี้เงินเฟ้อใกล้แตะจุดสูงสุดแล้ว แต่ปู่กลับบอกว่า ‘สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเงินเฟ้อจะไปหยุดที่เท่าไร’ พร้อมชื่นชมการตัดสินใจของ Fed ในอดีตว่าหาก Fed ไม่ทำมาตรการ QE ชีวิตคนอเมริกันคงแย่กว่านี้เยอะ
ส่วนปู่ #Munger ได้เสริมแบบตรงๆ ตามสไตล์ว่า
การที่รัฐบาลสหรัฐฯ พิมพ์เงินแจกบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศ ตามมาตรการเยียวยา Covid-19 ก็เหมือนทำให้ประเทศจมอยู่ใต้กองเงินไปช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ก็จำเป็นต้องทำ
Charlie Munger
ปู่ Buffett ย้ำหลักการเดิมว่า ตัวเขาจะไม่คาดการณ์ตลาดหุ้นหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจอะไรทั้งนั้น แต่จะคอยหาโอกาสลงทุนจากความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้นเป็นหลักมากกว่า
เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ตลาดหุ้นผันผวนหนัก หลายคนตัดสินใจล้างพอร์ตลงทุนหนีตาย แต่ Berkshire Hathaway ของปู่กระหน่ำซื้อหุ้นไปแล้วประมาณ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังเหลือเงินในมืออยู่อีกประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ชอปปิงหุ้นถูกต่อครับ
📌 วิธีรับมือเงินเฟ้อแบบคูลๆ โดย Warren Buffett
เวลามีคนถามเรื่องวิธีการลงทุนรับมือเงินเฟ้อ ปู่ Buffett จะตอบหลักการลงทุนที่เคยได้ยินมาตลอดว่า ต้องลงทุนในธุรกิจที่มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง สามารถขึ้นราคาได้โดยไม่กระทบยอดขาย
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เพราะคนถามคำถามนี้เป็นเด็กผู้หญิงอายุแค่ 12 ปีที่มาประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway แล้ว 5 ปี นั่นหมายความว่า เธอเริ่มลงทุนหุ้น Berkshire Hathaway ตั้งแต่ 7 ขวบ 😅
ปู่ Buffett จึงตอบแกมสอนไปว่า สิ่งที่ดีที่สุดในการรับมือเงินเฟ้อคือ ความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนโดดเด่น เพราะถ้าหนูเป็นหมอหรือทนายความที่เก่งที่สุดในเมือง ยังไงก็มีคนพร้อมจ่ายเงินเพื่อใช้บริการของหนู
พร้อมย้ำว่า เงินเฟ้อไม่สามารถกัดกินพรสวรรค์หรือความสามารถของหนูได้ ดังนั้นการลงทุนที่ดีที่สุดเพื่อสู้กับเงินเฟ้อคือ การพัฒนาตัวเอง และพูดถึงกฎ 10,000 ชั่วโมงอันโด่งดังของ #MalcolmGladwell
ปู่ Buffett ในวัย 91 ก็ตบท้ายด้วยการยิงมุกตลกว่า ถ้าหนูมาประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแล้ว 5 ครั้ง ปู่คิดว่า หนูมีอนาคตที่สดใสรออยู่แน่นอน เล่นเอาผู้ถือหุ้นฮาแตกทั้งฮอลล์เลยครับ 😀
📌เงินสดหรือจะสู้เงินเฟ้อ
ปู่ Buffett อธิบายว่า เงินเฟ้อจะกัดกินมูลค่าเงิน โดยเฉพาะคนที่เก็บเงินสดไว้ไม่ยอมลงทุน (ปู่ใช้คำว่า คนที่ซุกเงินไว้ใต้เตียง) ส่วนคนที่ลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ก็ใช่ว่าจะหนีเงินเฟ้อพ้นร้อยเปอร์เซนต์
ในเชิงธุรกิจ ปู่อธิบายว่า เงินเฟ้อทำให้ธุรกิจต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้นในการขยายธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างแบบสุดโต่งว่า ถ้าวันนี้เงินเฟ้อสูง 90% จนมูลค่าเงินเหลือแค่ 1 ใน 10 คุณก็ต้องใช้เงินมากขึ้น 10 เท่าเพื่อลงทุนและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ได้มากกว่า 10 เท่า
การขึ้นราคาสินค้าและบริการ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกบริษัท โดยตัวปู่ Buffett มักเลือกลงทุนในกิจการที่มั่นใจว่า มีอำนาจต่อรองในตลาดสูง ขึ้นราคาสินค้าและบริการได้ โดยที่ยอดขายไม่ลดลง ลูกค้ายินดีที่จะจ่าย
📌ชมประธาน Fed วางไทม์ไลน์ชัด
สุดท้าย ปู่ Buffett ผู้ผ่านวิกฤตมาหลายรอบ ชื่นชมประธาน Fed คนปัจจุบันอย่าง Jerome Powell ที่กล้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อว่า เขาคือฮีโร่ เพราะเขาทำในสิ่งที่ Fed ต้องทำ
และอธิบายเสริมว่า ถ้าเป็นประธาน Fed คนอื่นๆ อาจไม่กล้าทำแบบนี้ เพราะถ้าเกิดเงินเฟ้อสูงมากจนวิกฤต คนก็จะไม่โทษ Fed อยู่ดี แต่จะไปโทษ Covid-19 รัฐบาลจีน หรือเรื่องอื่นๆ
เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยหรืออาจจะไม่ก็ได้ แต่ยังไงทุกคนก็ต้องเจอเศรษฐกิจถดถอยอยู่แล้วสักวัน เพราะมันคือวัฏจักรทางเศรษฐกิจ หมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน มีขึ้นก็ต้องมีลง
ปู่ Buffett ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตลอดชีวิต เข้าใจดีว่า จะต้องมีช่วงที่เศรษฐกิจไม่เป็นใจ แต่ด้วยหลักการลงทุนในกิจการที่พื้นฐานแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม บวกกับอารมณ์ที่นิ่งสงบ ทำให้ปู่มั่นใจในโอกาสลงทุนที่แฝงอยู่ในความผันผวนตลอดเวลา
เหมือนวลีอันโด่งดังของปู่ที่ว่า
ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ คุณก็จะไม่สามารถควบคุมการลงทุนของตัวเองได้เช่นกัน
Warren Buffett
หากคุณอยากฟังคำตอบเต็มๆ ของ 2 ปู่รุ่นเก๋า จากการประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ปีล่าสุด สามารถเข้าไปดูคลิปวิดีโอและคำบรรยายจากการถอดไฟล์เสียงได้ที่ https://buffett.cnbc.com/2022-berkshire-hathaway-annual-meeting/
📌จากปรัชญาของ Buffett สู่หลักการของ Jitta Wealth
Sir Isaac Newton บอกว่าที่เขาคิดค้นทฤษฎีฟิสิกส์ได้มากมาย เพราะนักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนคิดทฤษฎีพื้นฐานมาให้แล้ว เขาแค่มาต่อยอดเท่านั้น
แผนการลงทุน #JittaRanking ก็เช่นกันครับ เรานำปรัชญาการลงทุนของ Buffett ที่ถูกพิสูจน์มาหลายรอบแล้วว่า ทำผลตอบแทนเฉลี่ยชนะดัชนีตลาดหุ้นได้ในระยะยาว มาต่อยอดด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขุมกำลังในการวิเคราะห์หุ้นแบบ Quantitative Value Investing หรือ #QVI
เพราะจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ข้อมูลข่าวสารหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ลำพังสมองมนุษย์ก็อาจวิเคราะห์หุ้นทุกบริษัทได้ไม่ไหว
การนำเทคโนโลยมาช่วยวิเคราะห์งบการเงินจึงเป็นทางออกที่ลงตัว เพราะคุณจะมีผู้ช่วยวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทนับหมื่นราย เพื่อหาหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดในเวลานั้น
ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าเทคโนโลยีช่วงให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างไร และที่สำคัญคือ AI นั้นไร้ใจ ไร้อารมณ์ วิเคราะห์กันตามตัวเลขล้วนๆ
ถ้าภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนไป AI จาก #JiitaWealth ก็จะคอยปรับพอร์ตให้อยู่เสมอ คุณจึงมั่นใจได้ว่า หุ้นคุณค่าในพอร์ตจะไม่ตกเทรนด์ อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอยู่เสมอ
คุณจะได้ลงทุนอย่างสบายใจ ได้กำไรอย่างยั่งยืนครับ 😎
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
