ระหว่าง “หมอปลา” กับ “พระทุศีล” สังคมไทยเลือกยืนข้างใคร?
หลายคน รู้จักหมอปลา ในฐานะหมอปราบสัมภเวสี
หลายคน ชื่นชอบหมอปลา ในบทบาทของคนทุบศาลพระภูมิ เผาทำลายล้างวัตถุอมงคลทั้งหลายทั้งปวง
หลายคน ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของหมอปลา อยากรู้ว่าแต่ละวันเขาไปทำอะไรที่ไหน
พร้อมๆ กันนั้น ก็ได้ติดตามเรื่องราวของ “ป้ารัตนา” ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์
ซึ่งหมอปลานำมาดูแลรักษา ให้การอุปการะ
ด้วยบุคลิกของป้ารัตนา ที่เดี๋ยวพูดดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เดี๋ยวหน้าบึ้ง ด่าด้วยคำหยาบ แล้วรำพึงรำพันขอให้พระลงโทษ หรือขอให้พี่โนช พี่ชายมาจัดการปัญหา
ในมุมมองคนทั่วไป ก็งงๆ ว่าตกลงแล้วหมอปลาเชื่อในหลักพระพุทธศาสนา เคารพบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือไม่
หรือว่าเป็นเพียงหมอผี ที่ใช้มนต์ดำในการรักษาผู้คน หรือปราบผีร้าย
แล้วในวันที่หมอปลากับพวก ลุกขึ้นมาทำการปราบพระทุศีล-อลัชลี
ทำเอาแต่ละวัด ปั่นป่วน กลัวฤทธิ์เดชของสื่อออนไลน์ในมือหมอปลา
ถึงขนาดสั่งป้ายไวนิลมาขึ้นต่อต้านหมอปลา
สรุปว่า ต่อไปนี้
ระหว่าง พระทุศีล กับหมอผี เราจะยืนข้างใคร
เพราะซีกพระ และสานุศิษย์ ต่างออกมาป้องพระที่ตนเองเคารพ ศรัทธานับถือ แม้ว่าการกระทำของพระดังกล่าวเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ไม่มากก็น้อย
ส่วนคนที่ติดตามข่าวฉาวโฉ่ของพระทุศีลที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ก็เอาใจเชียร์หมอผี
ในขณะคนอีกส่วนหนึ่ง พยายามมองอย่างเป็นกลาง เป็นคนกลาง แทงกั๊ก อ้างไม่กล้าลบหลู่พระทุศีล และเฉยๆ กับหมอผี ก็พร้อมจะเอนเอียงไปตามข้อเท็จจริง และกระแสสังคม
ผู้เขียน ขอเป็นส่วนหนึ่งของคนกลางที่ลอยตัวเหนือความขัดแย้ง แต่มองข้อเท็จจริงในสังคมทุกวันนี้ นอกจากเราจะมีพระดี ที่เป็นอริยสงฆ์ ก็มีจำนวนมาก บางรูปแม้จะบวชเรียนเพียงวันเดียว แต่หากเขาเคร่งครัดต่อวัตรปฏิธรรมต่อพระธรรมวินัย ก็ย่อมมีคุณค่าในตัวมากกว่าคนที่บวชเรียนหลายพรรษา แล้วรู้กลไกช่องทางทำผิดแบบแก้ไข หรือลบล้างความผิดได้เรียกว่าทำผิดแล้วปลงอาบัติเป็นอาจิณ
ทุกวันนี้ เราจะเห็นพระที่ไม่สำรวมในการนั่ง ยืน เดิน หรือขบฉัน
เราจะเห็นพระที่สะสม สั่งสมของอันเป็นวัตถุที่ไม่เกี่ยวกับสงฆ์ ก็มีให้เห็นจำนวนมาก
เราเห็นพระขับรถยนต์ ขี่มอเตอร์ไซด์ อยู่กับสตรีอย่างใกล้ชิดแบบไม่สำรวม หนักไปถึงอยู่ในที่ลับกับสีกาสองต่อสอง
หากพระรูปใด นั่งรถยนต์เดินทางไปกับสีกาสองต่อสอง หรือมีสีกามาดูแลใกล้ชิดในกุฏิที่พักแบบสองต่อสอง
เช่นนี้ก็เพียงพอต่อการสะท้อนให้เห็นถึงการละเมิดต่อข้อปฏิบัติ ซึ่งหากไปถึงขั้นเสพสังวาส ก็ต้องโทษปาราชิก
หรือหากแค่ แตะต้อง จูบ ลูบคลำ นวดคลึง
เล้าโลม อันไปไปสู่ความกำหนัด และจิตที่แปรปรวนอย่างมิอาจปฏิเสธได้ เช่นนี้ก็ถือว่าอาบัติแล้ว
กรณีทั้งหลายเหล่านี้ ต้องมาหาคำตอบของคนในสังคมว่ายังพร้อมจะยอมรับ
เคารพนับถือ ศรัทธาพระที่ย่อหย่อนต่อวินัย ประพฤติตนเข้าข่ายอาบัติอยู่อย่างเนืองๆ ต่อไป โดยหมู่ของสงฆ์ คณะผู้ปกครอง ไม่จัดการ หรือแก้ไขปัญหากันอย่างนี้ต่อไปกระนั้นหรือ
โดยจะอ้างว่าเป็นเรื่องภายในของสงฆ์ไม่เกี่ยวข้องกับฆราวาสนะใช่หรือไม่
การที่เรามีความคิดแบบนี้ แล้วยกเอาเรื่องกรรม เรื่องบาปมาปิดปากฆราวาสไม่ให้วิพากษ์ ตรวจสอบพฤติกรรมของสงฆ์ที่ทุศีล ย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย จึงเป็นสิ่งที่มืดบอด ปิดบังความชั่ว หาได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาไม่
ในส่วนของบรรดาภิกษุณี ฤษี ชี พราหมณ์ พ่อมด หมอผี ปัจจุบันนี้ มีมากมายมหาศาล โดยอ้างความเชื่อส่วนบุคคลเป็นเกราะกำบัง และเป็นพื้นที่ทำกิจกรรม บางคนก็ปฏิบัติตนเคร่งครัดกว่าพระสงฆ์บางรูปบางนามก็มี
บางคนก็อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ คุณวิเศษก็มาก
สังคมต้องชั่งใจในการให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้ เพราะการมีสานุศิษย์ หรือมีแฟนคลับจำนวนมาก ทำให้คนเหล่านี้ หลง และเหลิงในพลังของคนที่สนับสนุน นับถือ ศรัทธา กลายเป็นผู้นำลัทธิใหม่ ที่มีวิธีการ พิธีกรรม รูปแบบ หรือการพูดการจาที่หยาบคายต่ำช้า จากการสร้างเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ให้แก่จนเอง
สำหรับหมอปลา ในบทบาทของหมอผี มือปราบสัมเภสี เราจะเห็นว่าเขาพยายามหยุดการนับถือที่งมงาย แต่การที่เขาแสดงถึงจิตสัมผัสได้ จะอ้วก คลื่นไส้อาเจียน ขนลุก เมื่อสัมผัสวิญญาณได้ มองแล้วก็เหมือนกับการละเมิดข้อบัญญัติของพระในเรื่องของการอวดอุตริมนุสยธรรมนั่นเอง เพียงแค่หมอปลาไม่ใช่ภิกษุจึงไม่ต้องด้วยอาบัติเช่นดั่งพระ
มาถึงจุดนี้
จุดที่ต้องเลือก ระหว่าง พระทุศิล กับหมอผี
เราก็คงเลือกที่จะขจัดบรรดาพระทุศิล หรือขบวนการผลประโยชน์ที่สร้างความมืดบอดให้พุทธศาสนา พร้อมๆ กับเราต้องไม่หลงกลตกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ของหมอผี และพรรคพวก หรือบรรดาสำนักความเชื่อ ลัทธิความเชื่อแปลกๆ ใหม่ๆ ที่มีให้เห็นเต็มหน้าสื่อออนไลน์
โลกที่เราเริ่มตามไม่ทัน คือ ความเสี่ยงในการที่จะนับถืออะไรสักอย่าง
หรือศรัทธาเชื่อมั่นใครสักคน เหนือสิ่งอื่นใด บรรดาคนเหล่านี้ ควรหยุดพฤติกรรมการพูดแบบต่ำช้า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย จะทำให้สังคมไทย ลดความขัดแย้ง ลดอุณหภูมิในอารมณ์ได้อีกมากมายอย่างแน่นอน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
