15 พ.ค. 2022 เวลา 05:12 • ประวัติศาสตร์
“ญี่ปุ่น” หนึ่งในประเทศชาตินิยมของโลก
2
ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่าชาตินิยมที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
1
และความเป็นชาตินิยมนี้ ก็มีความเป็นมาและเรื่องราวที่น่าศึกษา
“ตระกูลโทคุงาวะ (Tokugawa)” ได้ปกครองญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 จนถึงกลางศตวรรษที่ 19 และปกครองโดยการยึดความสันโดษ แยกญี่ปุ่นออกจากโลกภายนอก
2
ถึงแม้ในเวลานั้น จีนคือประเทศที่อยู่ใกล้ญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีการติดต่อกับจีนมากนัก เนื่องจากความต่างทางวัฒนธรรมและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
2
ต่อมาในปีค.ศ.1854 (พ.ศ.2397) สหรัฐอเมริกาก็ได้เข้าสู่ญี่ปุ่น โดยมีการทำความตกลงทางการค้า มีการเปิดท่าเรือสองแห่งให้สหรัฐอเมริกาทำการค้า และให้สิทธิต่างๆ
แต่ความใกล้ชิดนี้ ก็ทำให้ญี่ปุ่นเริ่มมองว่านี่คือสัญญาณการแทรกซึมทางวัฒนธรรมของตะวันตก ทำให้เกิดกระแสชาตินิยม
1
ภายหลังจากปีค.ศ.1868 (พ.ศ.2411) รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นจึงวางนโยบายที่จะให้ญี่ปุ่นรอดจากอำนาจของตะวันตก
1
มีการออกแคมเปญต่างๆ ทั้งตำราเรียน ซึ่งปลูกฝังเรื่องชาตินิยม ความภักดี และเชื่อฟังองค์กษัตริย์ รวมทั้งเน้นการสอนเรื่องประวัติศาสตร์ หากแต่ไม่นำเสนอเรื่องราวของตะวันตกเด็ดขาด
แต่ในความเป็นจริง ญี่ปุ่นก็ไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ตลอดกาล
1
ญี่ปุ่นยังคงต้องทำการค้ากับชาติตะวันตก ยังจำเป็นต้องเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ จากโลกภายนอกเพื่อใช้ในการสร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ในปีค.ศ.1875 (พ.ศ.2418) ญี่ปุ่นได้สั่งซื้อเรือรบจากอังกฤษจำนวนสามลำ
3
ในช่วงเวลานี้ ญี่ปุ่นเอาชนะในสงครามหลายครั้ง ทำให้ความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะกลายเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่นั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เริ่มจาก “สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (First Sino-Japanese War)” ในปีค.ศ.1894-1895 (พ.ศ.2437-2438) ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของญี่ปุ่น และทำให้กระแสชาตินิยมและจักรวรรดินิยมรุนแรง
3
จากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ญี่ปุ่นได้ดินแดนเพิ่ม และจีนก็ต้องลงนามสนธิสัญญา ยอมยกสิทธิประโยชน์ทางการค้าให้ญี่ปุ่น
1
ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ได้โน้มน้าวให้ฝรั่งเศสและเยอรมนีร่วมกันกดดัน บังคับให้ญี่ปุ่นออกไปจากดินแดนจีนที่เพิ่งได้มา
1
จากความร่วมมือกันกดดันของชาติตะวันตก ทำให้ญี่ปุ่นต้องเสียคาบสมุทรเหลียวตง ทำให้ชาวญี่ปุ่นโกรธแค้น และทำให้ลัทธิทหารในญี่ปุ่นยิ่งรุนแรง นำไปสู่ “สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War)” ในปีค.ศ.1904-1905 (พ.ศ.2447-2448)
1
รัสเซียต้องการจะขยายอิทธิพลในเกาหลีเช่นเดียวกับญี่ปุ่น รัสเซียจึงสร้างทางรถไฟแมนจูเรียสายใต้ (South Manchurian Railway) เพื่อเชื่อมรถไฟสายตะวันออกของจีนกับพอร์ตอาเทอร์
2
ญี่ปุ่นได้พยายามที่จะเจรจาผลประโยชน์กับรัสเซีย หากแต่การเจรจาล้มเหลว
3
ภายหลังเกิดการปะทะทางทะเล รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ประกาศสงครามต่อรัสเซีย โดยในเวลานั้น เศรษฐกิจรัสเซียกำลังอยู่ในภาวะย่ำแย่ ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเติบโต ทำให้ญี่ปุ่นชนะรัสเซียในที่สุด
ชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ญี่ปุ่นได้ดินแดนส่วนหนึ่งในเกาะซาฮาลิน คาบสมุทรเหลียวตง และทางรถไฟแมนจูเรียสายใต้ (South Manchurian Railway)
นอกจากนั้น ชัยชนะนี้ยังทำให้ญี่ปุ่นประกาศให้เกาหลีเป็นประเทศในความคุ้มครองของญี่ปุ่น และเข้าครอบครองเกาหลีในปีค.ศ.1910 (พ.ศ.2453)
1
ในเวลาไม่นาน ญี่ปุ่นก็ได้ยึดครองดินแดนจำนวนมาก ทำให้ญี่ปุ่นยิ่งลำพอง ฝันหวานถึงการเป็นอาณาจักรที่ทรงอำนาจ
1
เมื่อมาถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 (WWI) จุดประสงค์หลักของญี่ปุ่นในการสงคราม คือการเข้ายึดครองดินแดนของเยอรมนีในจีน แสดงให้เยอรมนีและอังกฤษเห็นว่ากองทัพญี่ปุ่นนั้นเกรียงไกรแค่ไหน
2
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ในเดือนมกราคม ค.ศ.1915 (พ.ศ.2458) ญี่ปุ่นได้เสนอข้อเรียกร้องอย่างลับๆ ต่อจีน โดยข้อเรียกร้องนั้นมี 21 ข้อ โดยหนึ่งในข้อเรียกร้อง ก็คือการที่ดินแดนของเยอรมนีในจีน จะต้องถูกโอนย้ายมาอยู่กับญี่ปุ่น และต้องให้การรับรองอำนาจของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะมีอำนาจเหนือการเมือง การเงิน และกองทัพของจีน
3
ในปีค.ศ.1919 (พ.ศ.2462) ในการประชุมสันติภาพปารีส (Paris Peace Conference) ญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้ “ความเท่าเทียมทางชาติพันธุ์” เป็นหนึ่งในบทบัญญัติของสันนิบาตชาติ (League of Nations) หากแต่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษได้ปฏิเสธ
1
การปฏิเสธของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ทำให้ญี่ปุ่นเริ่มหันหลังให้แก่การร่วมมือทางด้านต่างๆ กับตะวันตก
ทั้งกองทัพและลัทธิชาตินิยม ยิ่งทำให้เกิดแรงสนับสนุนให้ญี่ปุ่นขยายอำนาจมากขึ้น
ในยุค 20 (พ.ศ.2463-2472) แนวคิดในการขยายดินแดนคือแนวคิดที่มีประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาให้ญี่ปุ่นในหลายๆ ด้าน อีกทั้งทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจ โดยในยุคนี้ กองทัพได้พยายามจะแทรกแซงนโยบายด้านการต่างประเทศของญี่ปุ่น เนื่องจากทหารจำนวนมากมองว่าชาติตะวันตกได้ปฏิบัติต่อญี่ปุ่นอย่างไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะในด้านของการค้า
1
แม้แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังจุดประกายที่สนับสนุนชาตินิยม โดยในปีค.ศ.1923 (พ.ศ.2466) ได้เกิดแผ่นดินไหวคันโต ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และจบลงด้วยการที่ประชาชนกว่า 100,000 คนเสียชีวิต
หลังจากเหตุการณ์นี้ ได้เกิดข่าวลือว่าเกาหลีเป็นผู้จุดไฟ ทำให้ชาวญี่ปุ่นลุกฮือขึ้นจลาจล ทำให้ชาวเกาหลีนับร้อยเสียชีวิต และจุดประกายแนวคิดชาตินิยมอีกครั้ง
1
ในช่วงปลายยุค 20 ประชาธิปไตยและลัทธิเสรีนิยมกลายเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากการเติบโตของลัทธิทหาร
ลัทธิทหารและชาตินิยมก็เติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มหาอำนาจตะวันตกพยายามจะจำกัด ไม่ให้กองทัพเรือญี่ปุ่นเติบโตมากกว่านี้ จึงเกิดกระแสตีกลับ คนญี่ปุ่นต่างสนับสนุนกองทัพและชาตินิยมมากขึ้น
1
ในการประชุมวอชิงตัน (Washington Conference) เมื่อปีค.ศ.1921 (พ.ศ.2464) และการประชุมลอนดอน (London Conference) เมื่อปีค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) ได้กำหนดให้ญี่ปุ่นจำกัดการขยายกองทัพเรือ
1
ผู้บัญชาการกองทัพเรือญี่ปุ่นและทหารเรือ ต่างไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหาตามมา กองทัพเรือได้ประนามรัฐบาล และทำให้รัฐบาลตกเป็นเป้าในการโจมตี
ปัญหาต่อมาเกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ซึ่งญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบในปีค.ศ.1929 (พ.ศ.2472)
ระหว่างค.ศ.1929-1931 (พ.ศ.2472-2474) การส่งออกของญี่ปุ่นลดลงกว่า 50% และกว่า 50% ของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ต้องปิดตัว อัตราการผลิตและจ้างงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ลดลงกว่า 30%
2
ภายในปีค.ศ.1931 (พ.ศ.2474) โรงงานในญี่ปุ่นทั้งหมด มีที่ต้องปิดตัวลงกว่า 50%
1
และด้วยความที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีทรัพยากรเยอะแยะมากมาย การขยายดินแดนก็ดูจะเป็นการแก้ปัญหาเพียงวิธีเดียว
กลุ่มชาตินิยมและกองทัพ ต่างเรียกร้องให้ญี่ปุ่นขยายดินแดนเข้าไปยังดินแดนต่างๆ ในเอเชีย ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามมา เช่น การบุกยึดครองแมนจูเรียของญี่ปุ่น (Japanese invasion of Manchuria) ในปีค.ศ.1932 (พ.ศ.2475) ทำให้ญี่ปุ่นได้ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย
และเมื่อถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็ได้มีบทบาทในประวัติศาสตร์อีกหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์เพิร์ล ฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) ซึ่งผมเคยเขียนเป็นซีรีส์เล่าเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว สามารถหาอ่านได้ครับ
1
นอกจากนั้น ญี่ปุ่นยังเชื่อว่าด้วยความช่วยเหลือจากนาซี ญี่ปุ่นจะสามารถกลายเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) กองทัพได้มีอำนาจมาก มากจนแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่สามารถขัดได้
และความเรืองอำนาจของกองทัพ ก็ได้นำพาให้ญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามต่อมา จนถึงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
1
โฆษณา