Crypto เริ่มทรงตัวหลังกระแสการโจมตี Stablecoins
สินทรัพย์ Crypto ถูกโจมตีอย่างหนักรวมกับปัจจัยที่มีความเสี่ยงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่เริ่มมีสัญญาณของการทรุดตัว
Juan Perez ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าของ Monex USA ในวอชิงตันกล่าวว่าแม้เป็นระยะเวลาสั้นๆของตลาดคริปโตแต่มันเป็นสิ่งที่ยากต่อการคาดการณ์ แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดอาจจะจบลงแล้ว
“บางทีตอนนี้ที่อุปสรรคทั้งหมดต่อการเติบโตทั่วโลกพร้อมกับความตึงตัวทางการเงินนั้นชัดเจน บางทีเราอาจจะเริ่มเห็นการแกว่งตัวสูงขึ้น”
Bitcoin สกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาด เพิ่มขึ้น 4.85% เป็น 29,925 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในเดือนธันวาคม 2020 ที่ 25,400 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับในวันพฤหัสบดี
Juan Perez
แม้ว่าจะแตะระดับสูงสุดเพียง 31,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์ แต่ bitcoin ยังคงต่ำกว่าระดับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์ และเว้นแต่จะมีการชุมนุมใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์ ถือว่าขาดทุนติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่เจ็ดติดต่อกัน
Barry Bannister หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านหุ้นของ Stifel กล่าวว่า bitcoin ยังคงมี downside อีกประมาณ 15,000 ดอลลาร์
“Bitcoin มีความอ่อนไหวต่อ GDP เพราะ bitcoin ตกลงเมื่อดัชนี PMI Manufacturing ลดลงตามที่เราคาดไว้ (ในไตรมาสที่สามของปี 2022) ซึ่งบ่งชี้ว่าการลดลง bitcoin สุดท้ายอาจยังคงอยู่ยังไม่จบ” เขากล่าวเสริม
Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองในแง่ของมูลค่าตลาดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 6.48% เป็น $2,051 Tether ซึ่งเป็น stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดที่นักพัฒนากล่าวว่าได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ดอลลาร์ กลับมายืนได้
อย่างไรก็ตาม TerraUSD ซึ่งเป็นเหรียญที่มีเสถียรภาพซึ่งคาดว่าจะถูกตรึงไว้กับเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตามรายงานของ CoinGecko เครื่องมือติดตามข้อมูล ยังคงไม่ตรึงค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.
มูลค่าตลาดโดยรวมของ crypto เพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ ข้อมูล CoinGecko แสดงให้เห็น
ตลาดการเงินในวงกว้างได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากความผิดพลาดของสกุลเงินดิจิทัล Fitch หน่วยงานจัดอันดับกล่าวในหมายเหตุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเชื่อมโยงที่อ่อนแอไปยังตลาดการเงินที่มีการควบคุมจะจำกัดศักยภาพของความผันผวนของตลาด คลิปโต ที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเงินที่กว้างขึ้น
“Crypto นั้นยังเล็กอยู่ และการรวม คลิปโต ในตลาดการเงินที่กว้างขึ้นก็ยังเล็กอยู่” James Malcolm หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ FX ของ UBS กล่าวนอกเหนือจาก BITCOIN
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี (Crypto) แข็งค่าขึ้นจากการล่มสลายของตลาด แต่เมื่อวันศุกร์ โบรกเกอร์ Coinbase (COIN.O)เพิ่มขึ้น 16% เป็น 67.87 ดอลลาร์ แม้ว่าจะยังลดลง 28% ในสัปดาห์ก่อน
การขายได้ลดมูลค่าตลาดของ cryptocurrencies ทั่วโลกลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่การขาดทุนกลับกลายเป็นความตื่นตระหนกในช่วงที่ผ่านมาด้วยการบีบตัวของ Stablecoins
Stablecoins เป็นโทเค็นที่ตรึงกับมูลค่าของสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ซึ่งมักจะเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นสื่อหลักในการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างคริปโตเคอเรนซีหรือสำหรับการแปลงยอดคงเหลือเป็นเงินสดคำสั่ง
ตลาด Cryptocurrency สั่นสะเทือนในสัปดาห์นี้จากการล่มสลายสเถียรภาพ TerraUSD (UST) ซึ่งทำลายการตรึง 1:1 ต่อดอลลาร์
กลไกความมั่นคงที่ซับซ้อนของเหรียญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า Luna ที่ลอยได้อย่างอิสระ หยุดทำงานเมื่อ Luna ตกลงมาใกล้ศูนย์
“สำหรับเหรียญ stablecoin ประเภทนี้ ตลาดต้องเชื่อมั่นว่าผู้ออกมีสินทรัพย์สภาพคล่องเพียงพอ พวกเขาสามารถขายได้ในช่วงเวลาที่ตลาดตึงเครียด” นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley กล่าวในบันทึกการวิจัย
บริษัทที่ดำเนินการของ Stablecoin อีกแห่งที่ชื่อว่า Tether กล่าวว่ามีสินทรัพย์ที่จำเป็นในคลัง เงินสด พันธบัตร และผลิตภัณฑ์ในตลาดเงินอื่นๆ
แต่ Stablecoins มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการทดสอบเพิ่มเติมหากผู้ค้ายังคงขายต่อไป และนักวิเคราะห์กังวลว่าความเครียดอาจลุกลามไปสู่ตลาดเงินหากมีการชำระบัญชีมากขึ้นเรื่อยๆ
Fitch กล่าวว่า cryptocurrencies และการเงินดิจิทัลอาจเผชิญกับ “ผลกระทบเชิงลบที่สำคัญ” หากนักลงทุนสูญเสียความมั่นใจใน Stablecoin เนื่องจากหน่วยงานทางการเงินที่ได้รับการควบคุมหลายแห่งได้เพิ่มความเสี่ยงต่อ cryptocurrencies และ Stablecoins
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/38s7lFS
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
