15 พ.ค. 2022 เวลา 18:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
## MAKRO ##
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
✍️ Financial การเงิน
1. ผู้ตรวจสอบรับรองงบ - ไม่มีเงื่อนไข
2. งบล่าสุด กำไร 0.34 ก่อนหน้า 0.63
3. มีกำไรสะสม 25,937.28
4. หนี้สินรวม 258,987.36 ต้นทุนทางการเงิน 3,091
5. เงินสด 38,757.20
6. สินทรัพย์ book 27.25
7. P/BV 1.26
8. D/E 0.90
Good หุ้นดี มีการเติบโต ไม่เจ๊งแน่ๆ
ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ค้าขายพวกนี้ไม่ตายในเร็ววันแน่ๆ ด้วยธุรกิจแบบนี้ก็เป็นที่พิสูจน์ตัวเองมาเป็นพันๆปีแล้ว เอาที่มีหลักมาฐานก็ตั้งแต่อียิปต์โบราณ บาบิโลนโน้นเลย เจ้าสัว คนที่ร่ำรวยส่วนใหญ่คือพ่อค้า หลายๆคนรวยกว่ากษัตริย์ เจ้าเมืองด้วยซ้ำ
แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจค้าขาย จะร่ำรวย ที่เจ๊งๆ ไปก็มีเยอะ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่นสินค้าที่ขาย ขนาดธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขัน
สินค้าที่ขาย เป็นที่ต้องการขนาดไหน ถ้าขายหนังสือ แต่คนไม่ค่อยนิยมอ่านหนังสือเป็นเล่มๆแล้ว แน่นอนว่ามันก็คงไม่ค่อยน่าสนใจ ในส่วน MAKRO สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น ของกินของใช้ ตราบใดที่คนต้องกินต้องใช้ ยังไงสินค้าก็ขายได้
ข้อนี้พิสูจน์ได้จากแม้จะเป็นช่วงโควิด วิกฤษหนักหนายังไง MAKRO แทบไม่กระทบ เขาก็ยังขายได้ ทั้งยอดขาย กำไรโตเหมือนเดิม
MAKRO ยังมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่ มีตัวห้างกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีสินค้าเยอะ ร้านค้าปลีกก็มาซื้อสินค้าจากที่นี้เพื่อไปขายต่อ
ธุรกิจใหญ่ มีสายป่านยาว และยิ่งใหญ่ก็ยิ่งมีผลประกอบการกำไรเยอะ เงินสดเยอะ ให้เอาไปขยายธุรกิจต่อได้อีก
นึกถึงถ้าเราทำร้านขายส่ง ทำเองใช้สาขาละ 50 ล้าน ปีนึงได้กำไร 10 ล้าน
เก็บกำไร 5 ปี เปิดร้านที่ 2
เก็บกำไรต่อ 5 ปีเปิดได้อีก 2 ร้าน
รวมๆ 10 ปีเปิดได้ 4 ร้าน
แต่ถ้าเทียบธุรกิจที่เขาโตไปแล้ว มี 10 ร้านอยู่แล้ว
ปีแรกเขาก็เอากำไรมาเปิดได้เลยอีก 2 ร้าน
ผ่านไปสิบปี เขาเปิดใหม่ได้ 40-50 ร้าน
ตัวอย่างเร็วๆนะ ในความเป็นจริงก็ไม่ได้ตรงตัวขนาดนี้
ทีนี้พอสาขาเขาเยอะ เขาก็กินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มไปอีก ยิ่งสร้างรายได้ให้เขาเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ วนไป
และเนื่องจากสาขาเขาเยอะ สินค้าที่เขาสั่งซื้อมาจากผู้ผลิตก็เยอะตาม ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่สั่งซื้อเยอะๆนี้ก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อน้อยๆ ทำให้ได้เปรียบในแง่ ความสามารถในการแข่งขัน เพราะเขาได้ต้นทุนที่ต่ำกว่ารายอื่นอยู่แล้ว
ร้านค้าปลีก หรือแม้แต่ร้านค้าส่งเขาก็มาซื้อของจากที่นี้ไปขายต่อ แน่นอนว่าราคาก็ต้องแพงกว่าของ MAKRO
อันนี้ลุงมองความได้เปรียบในธุรกิจค้าส่งของ MAKRO แต่ในส่วนค้าปลีกข้อดีเขาก็คล้ายๆกัน ต่างแค่ focus ลูกค้าคนละกลุ่ม
✍️ Owner มีกลุ่ม CP เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เจ้านี้เขาขึ้นชื่อในเรื่องความเขี้ยว ทำธุรกิจอะไรก็ไม่ค่อยจะเจ๊ง บางอันดูไม่ค่อยดี เขาก็ดันทุรังทำจนดีให้ได้ ลุงก็เลยเชื่อว่าเขาไม่ปล่อยให้ธุรกิจเจ๊งง่ายแน่ๆ
อีกประเด็นคือตัวหุ้น MAKRO เฉพาะกลุ่ม CP เนี่ยเขาถือไปแล้ว 86.47 % เหลือรายย่อยไม่ถึง 15% ทำให้มีปัญหากับหลักเกณฑ์ของ กลต เรื่องการกระจายหุ้นสู่รายย่อย ลองคิดเล่นๆ ว่า CP เขาเห็นอะไรในตัว MAKRO ขนาดไหน ถึงไม่ยอมปล่อยหุ้นในมือออกมากันเลย
บางคนชอบบ่นว่าหุ้นกลุ่มของเจ้าสัว กลุ่ม CP เนี่ยไม่ค่อยวิ่ง ส่วนตัวลุงว่าก็เป็นการดี นั่นน่าจะเพราะหุ้นกลุ่มนี้เขาไม่มีเจ้ามือ หุ้นไม่หวือหวา ถ้าคนเล่นกราฟก็อาจจะไม่ชอบ แต่ถ้าคนลงทุนพื้นฐาน ก็น่าสนใจดี
✍️ Professional คณะทีมงาน ผู้บริหารค่อนข้างเชื่อได้ว่ามืออาชีพ ถึงกลุ่มเจ้าสัวเขาจะถือหุ้นใหญ่มากมาย แต่คนในครอบครัวเขาก็ไม่ได้มานั่งบริหารด้วยเท่าไร คิดเข้าข้างตัวเองว่านั้นคือเขาเอามืออาชีพ มีความสามารถมาทำงาน
✍️ Information มีข้อมูล ข่าวให้ตามอยู่บ้าง ชอบเอกสารเขานะ รายงานหรือบทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานทำได้ดี แต่ Oppday ไม่ได้ร่วม บ. เขารายย่อยน้อยเลยไม่ค่อยสนใจมั้ง
✍️ Return ปันผลมากกว่า 40 % ของงบรวม แต่ก็ปันผลไม่ค่อยดีนัก 1-2% น่าจะเพราะราคาหุ้นสูงอยู่ แต่ Capital Gain จากธุรกิจโตเรื่อยๆ น่าจะยังได้
✍️ Enjoy หุ้นดี มีการเติบโต ไม่เจ๊งแน่ๆ ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ค้าขายพวกนี้ไม่ตายในเร็ววันแน่ๆ ด้วยธุรกิจแบบนี้ก็เป็นที่พิสูจน์ตัวเองมาเป็นพันๆปีแล้ว เอาที่มีหลักมาฐานก็ตั้งแต่อียิปต์โบราณ บาบิโลนโน้นเลย เจ้าสัว คนที่ร่ำรวยส่วนใหญ่คือพ่อค้า หลายๆคนรวยกว่ากษัตริย์ เจ้าเมืองด้วยซ้ำ
แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจค้าขาย จะร่ำรวย ที่เจ๊งๆ ไปก็มีเยอะ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่นสินค้าที่ขาย ขนาดธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขัน
สินค้าที่ขาย เป็นที่ต้องการขนาดไหน ถ้าขายหนังสือ แต่คนไม่ค่อยนิยมอ่านหนังสือเป็นเล่มๆแล้ว แน่นอนว่ามันก็คงไม่ค่อยน่าสนใจ ในส่วน MAKRO สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น ของกินของใช้ ตราบใดที่คนต้องกินต้องใช้ ยังไงสินค้าก็ขายได้
ข้อนี้พิสูจน์ได้จากแม้จะเป็นช่วงโควิด วิกฤษหนักหนายังไง MAKRO แทบไม่กระทบ เขาก็ยังขายได้ ทั้งยอดขาย กำไรโตเหมือนเดิม
MAKRO ยังมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่ มีตัวห้างกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีสินค้าเยอะ ร้านค้าปลีกก็มาซื้อสินค้าจากที่นี้เพื่อไปขายต่อ
ธุรกิจใหญ่ มีสายป่านยาว และยิ่งใหญ่ก็ยิ่งมีผลประกอบการกำไรเยอะ เงินสดเยอะ ให้เอาไปขยายธุรกิจต่อได้อีก
นึกถึงถ้าเราทำร้านขายส่ง ทำเองใช้สาขาละ 50 ล้าน ปีนึงได้กำไร 10 ล้าน
เก็บกำไร 5 ปี เปิดร้านที่ 2
เก็บกำไรต่อ 5 ปีเปิดได้อีก 2 ร้าน
รวมๆ 10 ปีเปิดได้ 4 ร้าน
แต่ถ้าเทียบธุรกิจที่เขาโตไปแล้ว มี 10 ร้านอยู่แล้ว
ปีแรกเขาก็เอากำไรมาเปิดได้เลยอีก 2 ร้าน
ผ่านไปสิบปี เขาเปิดใหม่ได้ 40-50 ร้าน
ตัวอย่างเร็วๆนะ ในความเป็นจริงก็ไม่ได้ตรงตัวขนาดนี้
ทีนี้พอสาขาเขาเยอะ เขาก็กินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มไปอีก ยิ่งสร้างรายได้ให้เขาเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ วนไป
และเนื่องจากสาขาเขาเยอะ สินค้าที่เขาสั่งซื้อมาจากผู้ผลิตก็เยอะตาม ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่สั่งซื้อเยอะๆนี้ก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อน้อยๆ ทำให้ได้เปรียบในแง่ ความสามารถในการแข่งขัน เพราะเขาได้ต้นทุนที่ต่ำกว่ารายอื่นอยู่แล้ว
ร้านค้าปลีก หรือแม้แต่ร้านค้าส่งเขาก็มาซื้อของจากที่นี้ไปขายต่อ แน่นอนว่าราคาก็ต้องแพงกว่าของ MAKRO
อันนี้ลุงมองความได้เปรียบในธุรกิจค้าส่งของ MAKRO แต่ในส่วนค้าปลีกข้อดีเขาก็คล้ายๆกัน ต่างแค่ focus ลูกค้าคนละกลุ่ม
ส่วนตัวชอบนะ เท่าที่ดูแล้วลงทุนไปก็คงไม่น่ากังวลนัก นอนหลับอยู่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา