III. ผู้เผยพระวจนะที่อยู่ในพันธสัญญาเดิมได้พยากรณ์เกี่ยวกับพระคุณที่มาถึงเรา — 1ปต.1:10:
1. พระวิญญาณของพระคริสต์ที่อยู่ในผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมได้ทำให้พวกเขาเกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระคริสต์มาเป็นพระคุณแก่เราผ่านการกลายเป็นเนื้อหนังของพระองค์, การทนทุกข์ในการดำเนินชีวิตมนุษย์และการตรึงตายของพระองค์, และสง่าราศีในการเป็นขึ้น, การเสด็จสู่สวรรค์, การเสด็จมาครั้งที่สอง, และการครอบครองของพระองค์เพื่อมาปรับใช้ความรอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้าต่อเรา — ข้อ 5, 9–10; เทียบ บพส.22; ยซย.53; ดนอ.9:26.
2. ในแง่กาลสมัยนั้น แม้ว่าพระวิญญาณของพระคริสต์ได้ถูกก่อรูปผ่านการตายและการเป็นขึ้นของพระคริสต์และด้วยการตายและการเป็นขึ้นของพระคริสต์ในช่วงพันธสัญญาใหม่ (ยฮ.7:39; รม.8:9–11) แต่ประสิทธิภาพของพระวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่นิรันดร์ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระวิญญาณที่นิรันดร์ (ฮร.9:14).
3. พระวิญญาณของพระคริสต์ในประสิทธิภาพที่นิรันดร์ของพระองค์นั้นอยู่ในผู้เผยพระวจนะที่อยู่ในพันธสัญญาเดิม ซึ่งทำให้พวกเขาเกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการที่พระคริสต์เสด็จมายังผู้เชื่อในพันธสัญญาใหม่เพื่อมาเป็นพระคุณแห่งการช่วยให้รอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้าที่เพียงพอและไร้ขอบเขตจำกัดของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเข้าสู่ความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้าในยุคอาณาจักร ซึ่งก็คือความรอดแห่งจิตของพวกเขา — ยฮ.1:17; ฮร.10:29ข; 1ปต.1:9; มธ.25:21, 23.
4. พระวิญญาณของพระคริสต์ได้ปรับใช้การช่วยให้รอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้ามาเป็นพระคุณต่อเราโดยวิธีการสองอย่าง: การพยากรณ์ของผู้เผยพระวจนะที่อยู่ในพันธสัญญาเดิมและการประกาศของอัครทูตที่อยู่ในพันธสัญญาใหม่ — 1ปต.1:10–12; เทียบ วว.2:7ก.
วันอังคาร - การบำรุงเลี้ยงแห่งการฟื้นฟูยามเช้า
1เปโตร บทที่ 1 ข้อ 10–12 เกี่ยวกับความรอดนี้ บรรดาผู้เผยพระวจนะที่ได้พยากรณ์ว่าท่านทั้งหลายจะได้รับพระคุณนั้น ก็ได้แสวงหาและสืบค้นอย่างละเอียดแล้ว...โดยได้เป็นพยานล่วงหน้าถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์ที่จะมาถึงและสง่าราศีที่จะมีมาภายหลังนั้น... สิ่งทั้งปวงที่พวกเขาได้ปรนนิบัตินั้น...มีไว้ให้ท่านทั้งหลาย. บัดนี้คนเหล่านั้นที่ประกาศกิตติคุณแก่ท่านทั้งหลาย ก็ได้กล่าวสิ่งเหล่านั้นแก่ท่านแล้ว โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ถูกใช้มาจากสวรรค์...