16 พ.ค. 2022 เวลา 12:20 • สุขภาพ
มาตรการใหม่เปิดเทอม! เจอเด็ก-ครูติดโควิด19 "เปิดเรียนปกติ"เริ่ม 17 พ.ค.2565 เรียน On-Siteเต็มรูปแบบ
17 พ.ค.2565 เปิดเทอม เรียนแบบOn-Siteเต็มรูปแบบในรอบ 1 ปี เจอติดโควิด19 เปิดเรียนปกติ ไม่มีปิดโรงเรียนอีก
● 17 พ.ค.เปิดเรียน On-Site ทุกแห่ง
ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ให้ข้อมูลว่า สถานศึกษาในสังกัดประมาณ 35,000 แห่ง พร้อมจะเปิดเทอม ในรูปแบบOn-Site ทุกแห่ง หรือ 100%
เว้นแต่บางแห่งที่ผู้ปกครองยังมีความกังวล ก็จะมีการเรียนการสอนหลายรูปแบบรองรับ
●เชื่อมั่นเปิดOn-Siteแค่ 47%
ผลการสำรวจของเสมาโพล ที่ดำเนินการโดยศธ.ระหว่างวันที่ 5-8พ.ค.2565
พบว่าประชาชนเพียง 47 %มีความเชื่อมั่นต่อการเปิดภาคเรียนของ ศธ. ด้วยรูปแบบ On-site
36% ไม่แน่ใจ และ 16% ไม่เชื่อมั่น
แต่ 54% เห็นว่า การเรียนOn-Site ที่โรงเรียน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเรียนการสอนของนักเรียนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ข้อกังวลเกี่ยวกับการเปิดเทอมมากที่สุด คือ ความเสี่ยงติดโควิด19ในโรงเรียน 65%
●เจอติดโควิด19 เปิดเรียนปกติ
สิ่งที่การเปิดเทอม แบบOn-Siteครั้งนี้จะแตกต่างอย่างมากสำหรับการเปิดโรงเรียนในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด19 คือ
"พบผู้ติดโควิด19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เปิดเรียนปกติ ไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน"!!!
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขกำหนด"แผนผชิญเหตุ"หรือมาตรการที่โรงเรียนจะดำเนินการ หากพบนักเรียน ครูหรือบุคลากรติดโควิด19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ดังนี้
1.ร.ร.ไป-กลับ
1.1.กรณีนักเรียน ครูหรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
- เปิดเรียนในพื้นที่สถานศึกษา On-Site ตามปกติ -ปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention)
- ประเมิน Thai Save Thai (TSC)
-เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
1.2กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
- กรณีไม่ได้รับวัคซีนโควิด19 ตามแนวทางปัจจุบัน ทั้งมีอาการ และไม่มีอาการ แนะนำให้กักกันตัว เป็นเวลา 5 วัน และติดตามเฝ้าระวัง อีก 5 วัน
-ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ได้รับวัคซีนโควิด19 ครบตามคำแนะนำปัจจุบัน ไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้ไปเรียนได้
-การตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย ATK ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที ถ้าไม่มีอาการ ให้ตรวจคัดกรองครั้งแรกในวันที่ 5 และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
1.3กรณีพบนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ
- แยกกักกันที่บ้าน (Home Isolation) หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานบริการสาธารณสุข
-พิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด
-จัดรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ
- ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา
- เปิดเรียนตามปกติ
2.ร.ร.ประจำ เน้นมาตรการ Sandbox Safety Zone in School (SSS)
2.1 กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
-เปิดเรียน On-site ปกติ ปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention)
-ประเมิน Thai Save Thai (TSC)
-เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
2.2.กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
-จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรมใน Quarantine Zone ตามมาตรการ SSS เป็นเวลา 5 วัน และติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน
-กรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด19 ครบตามคำแนะนำปัจจุบัน ไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน
-สำหรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย ATK ถ้ามีอาการ ให้ตรวจทันที ถ้าไม่มีอาการให้ตรวจคัดกรองครั้งแรกในวันที่ 5 และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
2.3 กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ
-พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข แยกกักกัน ที่โรงเรียน (School Isolation)
-พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
-กรณีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จัดการเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม เว้นระยะห่าง ไม่น้อยกว่า 2 เมตร งดกิจกรรมรวมกลุ่ม เน้นการระบายอากาศ โดยปฏิบัติตาม UP-DMHTA อย่างเคร่งครัด
- ติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ตามระบบงานอนามัยโรงเรียน
- ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษาตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
- เรียนได้ตามปกติ
ที่มา :
กรมอนามัย
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข
โฆษณา