📌 อัปเดตการสอบไอเอลปี 2022 ภายใต้สถานการณ์โควิด
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ค. เราเพิ่งไปสอบไอเอล แบบ paper-based ที่โรมแรมแลนด์มาร์คมา เลยจะมาแชร์ประสบการณ์กันว่าต่างจากสอบตอนยังไม่มีโควิดยังไงนะคะ
สำหรับเราอย่างแรกเลยคือเลือกสอบวันธรรมดา คิดเอาเองว่าคนคงน้อยกว่า ไม่แออัด พอมาสอบจริงก็คนไม่เยอะมากอย่างที่คิด แต่ว่าตอนปกติ เราเคยสอบห้องใหญ่ พอคนน้อยเลยย้ายมาสอบห้องเล็กแทน สรุปก็หนาแน่นพอ ๆ เดิม ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ 😂
สำหรับพาร์ทที่ต้องสอบช่วงเช้า Listening, Reading, Writing ที่แตกต่างไปคงมีแค่ต้องสวมแมสตลอดเวลา แล้วก็หูฟังเหมือนเค้าจะมีปลอกผ้าหุ้มไว้ 2 ข้าง คิดว่าน่าจะถอดซักได้ เพื่อความสะอาดในช่วงโควิด ส่วนอย่างอื่นเรามองว่าคล้าย ๆ เดิม
สำหรับสอบพูด ก็คงยังต้องใส่แมสทั้ง 2 เราและกรรมการสอบ แล้วในห้องก็จะมีโต๊ะตั้งชนกัน 2 ตัว ตรงกลางมีฉากกั้นใสขั้น ทำให้มีระยะห่างค่อนข้างเยอะ
ตอนก่อนเริ่มสอบผู้คุมสอบเค้าก็จะออกตัวเลยว่าใส่แมสนะ ถ้าได้ยินคำถามอะไรไม่ชัดเจนก็สามารถให้ทวนใหม่ได้เลย แต่ส่วนตัวเราได้ยินเสียงค่อนข้างชัดเจนเป็นปกติเลยนะ อาจจะมีบางศัพท์ที่ไม่คุ้นเลยฟังไม่ค่อยออก ก็สามารถถามเค้าได้ซึ่งปกติก็เป็นสิ่งที่ทำได้ในการสอบ และไม่ได้เสียคะแนนอยู่แล้ว แล้วเราก็อาจจะต้องพูดเสียงดังนิดนึงเพื่อให้กรรมการได้ยินเราชัดเจน จะได้ให้คะแนนได้ถูกต้อง
📝 สำหรับข้อสอบเมื่อวันที่ 12 พ.ค. Listening กับ Reading ก็เป็นไปตามแนวพวกแบบฝึกของ cambridge ไม่ต่างมากเท่าไหร่ ที่ลุ้นที่สุดก็คือพาร์ท Writing สอบทีไรจะกลัวออกพวก Map หรือ Diagram ตลอด เพราะไม่ค่อยได้ฝึก
โชคดีที่เมื่อวานออกเป็น Bar chart เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตบ้านของคนอายุช่วงวัยต่าง ๆ ก็เป็นกราฟใหญ่สรุปกิจกรรม 3 อย่างทั้งหมดอันนึง แล้วก็กราฟแยกกิจกรรมกับสัดส่วนตามช่วงวัยอีก 3 กราฟ รวมทั้งหมด 4 กราฟ ซึ่งถือว่าข้อมูลค่อนข้างเยอะ เขียนยากประมาณนึงเลย ต้องเลือกสรุปแต่ที่เด่น ๆ ไม่ได้เล่าหมดเพราะจะยาวเกินไป
ส่วน Task 2 ก็ถามประมาณว่าทุกวันนี้เมืองหลายเมืองมีการขยายมากขึ้นและปัญหาก็เพิ่มมากขึ้นตามเมือง แล้วคนที่เป็น young people เจอปัญหาอะไรบ้าง แล้วปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขยังไง ถ้าตีความไม่ผิดก็คือเป็นแนว Problem and Solution
พาร์ทสุดท้าย Speaking อันนี้เป็นพาร์ทที่เรารู้สึกแย่มากที่สุดเพราะเข้าใจศัพท์ผิดและพูดไปคนละเรื่องเลย ตอนพาร์ท 2 ที่ต้องโซโล่เดี่ยว 2 นาที คำถามจริง ๆ ประมาณว่าให้เล่าเกี่ยวกับ Speacial day out ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก แต่เราด้วนความลน ความรีบหรือไม่ชินคำศัพท์ก็แล้วแต่ ดันตีความเป็น Speacial day off ที่แปลว่าวันหยุด เลยเล่าไปว่าอยู่บ้านกับครอบครัว บลา บลา ซึ่งตรงข้ามกับคำถามมาก
เพราะที่จริงแล้ว Day out แปลว่าการไปเที่ยวข้างนอก ซึ่งคนละโลกเลย 55555 เพิ่งจะมาเข้าใจก็ตอนพาร์ท 3 ที่กรรมการสอบกลับมาถามคำถามอีกรอบแล้ว ซึ่งตอนนั้นเค้าก็ช่วยมากแบบเน้นคำว่า “Day” และ “Out” พร้อมทำมือจากที่นึงไปที่นึง เราก็เจื่อนเลยจ้า แบบที่พูดพาร์ทที่แล้ว 2 นาทีผิดหมดเลย แต่ก็รู้สึกขอบคุณกรรมการสอบที่ช่วยให้ไม่เข้าใจผิดจนจบ จนคะแนนดิ่งลงเหว 😂
พอรู้ตัวก็กลับบ้านมาก็ลองเสิร์ชหาว่าคะแนนพาร์ทพูดตัวเองจะดิ่งไหม ยังไง แต่เท่าที่อ่านเกณฑ์การให้คะแนนการพูดจะไม่มี Task response เหมือน Writing ที่ถ้าตอบผิดโจทย์จะได้คะแนนพาร์ทนั้นไม่เกิน 5 เลย บางคนก็บอกว่าพาร์ทพูดสามารถพูด Off-topic ได้บ้าง ไม่ส่งผลกับคะแนน แต่พูดคนละประเด็นแบบเราก็ไม่รู้คะแนนจะออกมาเป็นยังไงเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะมีหักคะแนนบ้างแหละ แต่อาจจะไม่เยอะเหมือน Writing
ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ตัวเองคงจำไปอีกนาน สำหรับใครที่จะสอบก็อย่าลนจนเกินไป อ่านโจทย์ดี ๆ ถ้าศัพท์ไหนไม่มั่นใจก็สามารถถามกรรมการสอบได้ ส่วนใครถ้าสงสัยอะไรเพิ่มเติมถามเราได้เลยนะ หรือใครไปสอบเมื่อวานเหมือนกันก็มาคุยกันได้นะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
