18 พ.ค. 2022 เวลา 13:23
‘ทำงาน part time supermarket ที่ญี่ปุ่น’ 👩🏻‍🍳
Uniform คล้ายๆแบบนี้ค่ะ คือเป็นชุดขาวยาวๆ มีหมวก รองเท้ายางสีขาว ของเรามีผ้ากันเปื้อนด้วยเพราะอยู่แผนกเตรียมอาหาร ภาพยืมมาจากในเนทค่าา
เนื่องจากมีเวลาว่างช่วงบ่ายวันธรรมดา ยังไม่พอ ส-อา ก็ว่าง ใช้แต่เงินก็ไม่ไหว แถมไม่รู้จะไปไหนบ่อยๆ อยู่ห้องว่างๆบางทีก็เบื่อ หางาน part time หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า arubaito (อะรุไบโตะ) ทำดีกว่า
จะเล่าเป็นลำดับไปนะคะว่าเริ่มหายังไง
1. หาจากเนทเลยค่ะ พิมพ์ アルバイト外国人 ก็คืองานพาร์ทไทม์สำหรับต่างชาติ แล้วก็เลือกพื้นที่ๆเราต้องการทำ ก็เลือกแถวอพาร์ตเมนต์ตัวเอง เว็บมีเยอะอยู่ค่ะ เพราะคนที่นี่นิยมทำงานพิเศษกันตั้งแต่ม.ปลาย
2. พอเราดูงานที่ถูกใจแล้วก็กดสมัครผ่านเว็บ แทบจะทุกเว็บก็จะให้เราสร้างเรซูเม่ง่ายๆไว้ ตอนกดสมัครก็ง่ายมากกกก แค่กดสมัครแล้วก็จบ จากนั้นก็รอค่ะ เค้าจะมีการติดต่อกลับเร็วมาก ซึ่งมีทั้งทางอีเมล์ ทางโทรศัพท์ ทางข้อความในมือถือแล้วก็ทางข้อความอัตโนมัติในเว็บนั้นๆ
3. ส่วนใหญ่จะเป็นการนัดหมายให้ไปสัมภาษณ์ บอกเงื่อนไขการสมัครและเอกสารที่ต้องเตรียมไป
4. ไปสัมภาษณ์ตามวันเวลาที่นัดกันไว้ หลังสัมภาษณ์เค้าก็จะแจ้งเราว่าจะแจ้งผลยังไงทางไหน หรือถ้าไม่ติดต่อกลับไปก็คือไม่ได้นะ
อันนี้ก็ขั้นตอนคร่าวๆ ย้อนกลับมาเล่าเรื่องตัวเอง สมัครไปที่แรกเป็นครัวกลางคอยหั่นผักหั่นหมู อยู่ใกล้อพาร์ตเมนต์มาก เดิน 6 นาที แถมไม่ต้องวุ่นวายกะใคร ไปสัมแล้วแต่เค้าไม่ติดต่อกลับ ร้องไห้แปบ 🥲
ลองสมัครงาน delivery ไปเผื่อได้ ปรากฏก็ไม่ได้ เพราะว่าเราใช้ใบขับขี่สากลในการทำงานไม่ได้ เนื่องจากเค้าแจ้งว่าบ.ประกันภัยรถยนต์ของเค้าไม่คุ้มครองใบขับขี่สากล ก็แอบเสียดาย เพราะอยากทำงานนี้มาก แต่ดีที่ว่าพูดคุยสอบถามกันก่อนที่จะนัดสัมภาษณ์ ก็เลยไม่เสียเวลาเดินทาง
ข้ามไปถึงงานที่ได้เลยละกัน เป็นงานซุปเปอร์มาร์เก็ต (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะคะ) สมัครไปเค้าก็จะส่งข้อความมาที่มือถือรวมทั้งข้อความอัตโนมัติในเว็บที่สมัครไป
ให้เรากดลิงค์เข้าไปทำเทสจิตวิทยา 😱 เป็นภาษาญี่ปุ่นจ้าาา 😩 นางเขียนว่าให้ทำภายใน 15 นาที 90 ข้อ!! ทำไป 30 นาที! มัวแต่หาศัพท์ไปด้วยทำไปด้วย แถมตอบไม่ใช่ทั้ง 2 ข้อเยอะเกินไป เค้าเลยส่งกลับมางว่าให้ทำใหม่เพราะตอบไม่ทั้ง 2 ข้อเยอะเกินไป (มีงี๊ด้วย 😅)
ก็ทำใหม่ส่งกลับไปเรียบร้อย เค้าก็ส่งมาให้เลือกวันเวลาสัมภาษณ์ พอเราเลือกไป ทางสาขาที่เราเลือกก็จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาเพื่อคอนเฟิร์มอีกทีพร้อมทั้งบอกให้เราเขียนเรซูเม่ไปด้วย ซึ่งเป็นเรซูเม่แบบญี่ปุ่น ตายแล้วกู!! แต่ก็พยายามหาข้อมูลว่าเขียนยังไง ส่วนเรซูเม่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อเลยค่ะ สบายมาก
ถึงวันเวลาสัมภาษณ์ก็ไป เค้าก็จะถามถึงงานที่เคยทำ ทำไมอยากทำงานกับเค้า วันเวลาที่เราสะดวกทำงาน รายได้ที่คาดไว้ ซึ่งเค้าจะจดทุกอย่างนะคะ พูดมั่วๆอาจจะลำบากทีหลัง และของเราเค้าอธิบายเลยค่ะว่าเค้าจะให้ต่อเดือนไม่เกินเท่าไหร่ เพราะบ.มีนโยบายไม่จ่ายเงินสมทบประกันให้พนักงานพาร์ทไทม์ (ถ้าฟังไม่ผิดนะคะ)
ดังนั้นวีซ่านักเรียนทำงานได้ 28 ชม ต่อวีค ก็จะไม่ได้ทำเต็ม เพราะถ้าทำเต็ม เงินจะเกินขั้นต่ำที่กม.กำหนดว่าต้องเสียเงินค่าประกัน ซึ่งถ้าเราไม่โอเคในจุดๆนี้ เราปฎิเสธเค้าได้นะคะ เพราะเค้าก็แฟร์ที่บอกเราตรงๆ และเค้าจะถามเพิ่มเติมถึงแผนกที่เราอยากทำ มีอะไรที่ไม่อยากทำมั้ย
หลังจากคุยเสร็จเค้าก็ให้ทำเทสเพิ่มเติม เป็นบวกลบเลข จับเวลา 5 นาที เทสต่อไปไม่ยากคือ มีข้อความมาให้ 2 ข้อความในแต่ละข้อ และตอบว่าเหมือนกันหรือไม่เหมือน เช่น
Eはらたe3:) Eたらたe3:) yes No
เทสที่ 3 เป็นคันจิ ตัวนี้เราแจ้งเค้าเลยว่าเราขอไม่ทำ เพราะทำไปก็ทำไม่ได้ เราอ่านคันจิไม่ได้ เค้าก็ไม่ว่าอะไร ก็กะว่าอาจจะปิ๋วแล้วก็ได้ พอพูดคุยเสร็จ ทำเทสเสร็จ เค้าแจ้งว่าอีกประมาณ 2 วีคจะติดต่อกลับ
เราไปสัมภาษณ์วันศุกร์ บอกรอ 2 วีค ที่ไหนได้วันเสาร์โทรมาว่ารับเข้าทำงาน เริ่มได้เมื่อไหร่ ไซส์รองเท้าอะไร (พอเดาได้เลยว่าทำเกี่ยวกับอาหาร) แล้วก็ตามที่คิดจริงๆ
วันแรกที่ไปเค้าให้ค่าแรงเลยนะคะ แต่ไม่ต้องทำงาน ไปนั่งเซ็นเอกสาร ดูDVDความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหาร รับยูนิฟอร์ม 2 ชม.ได้เงิน ดีงาม 😊 นี่คือความแฟร์และเป็นระบบที่ดีของเค้า เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังว่าการทำงานกับคนญี่ปุ่นแท้ๆทุกคนที่ประเทศญี่ปุ่นแท้ๆมันเป็นยังไง วันนี้จบเรื่องการสมัครงานพิเศษแค่นี้ก่อน
#shittyme
โฆษณา