1) ช่วงนี้ได้ตามดูรายการที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ไป debate เยอะมาก ยอมรับว่าคึกคัก บรรยากาศการพูดคุย ประชันมันสอมง ไหวพริบ วิธีคิด และทัศนคติแน่นมาก จนบางทีกดดัน และตึงเครียดมากอยู่เหมือนกัน แต่ปรากฏว่าคุณ Woody ทำรายการออกมาเป็น Lifestyle ในแนวทางที่ฉีกจากการสัมภาษณ์ หรือโต้วาที ขึ้นชกตามสไตล์ของรายการอื่นๆ มันทำให้เราได้เห็นเสน่ห์ของผู้สมัครแต่ละคนอีกแบบ
2) การได้รู้จักตัวตนของผู้สมัคร ที่เป็น self-identity หรือความเป็นเขาในแบบที่อยากจะนำเสนอออกมาเป็นสาระเบาๆบ้าง ก็ทำให้คนได้เข้าถึงตัวผู้สมัครมากขึ้น และดูเหมือนว่าทุกคนจะมีโอกาสสร้างเสน่ห์ในแบบของตนเองได้อย่างน่าสนใจทีเดียว ว่าจะงัดอะไรออกมาขายในเวลา airtime ที่ได้รับ แล้วมันเป็นรายการสด ที่ไม่ได้ script แน่นๆ ทำให้เราเห็นการประชันกันบนโต๊ะอาหารในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และชวนหิว
3) เราชอบเมนูอาหารที่คุณวิโรจน์เลือก โดยที่เราไม่รู้สึกว่าที่เขาพูดมันไม่ประดักประเดิด แล้วโคตรเป็นการนำเสนอตัวตนของเขาออกมาทั้งหมดผ่านอาหารจานเดียว คือ ไข่เจียว ซึ่งมันเล่า concept ของวิธีคิดเรื่อง "คนเท่ากัน และความเสมอภาคทางโอกาส" ผ่านเมนูที่เขาต้องการจะเล่าเรื่อง
4) เรารู้เลยว่าคนคนนี้เป็นคนที่คิดเชิงกลยุทธ์ตลอดเวลา แม้รายการจะมีมุมเบาสมอง แต่ก็หาจังหวะที่จะ hook ประเด็นในการนำเสนอตัวเองได้อย่างชาญฉลาด แม้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างแค่การสั่งอาหาร ก็ยังเอาไข่เจียวมาเล่าความเป็นไปบนโต๊ะอหาร ที่ทุกคนเข้าถึงเมนูเดียวกันได้ ผ่านวิธีคิดของเขา แบบเข้าใจง่ายๆ
5) การมองไข่เจียว แทนตัวคนคนหนึ่ง เราเห็นอะไรได้บ้าง?
- ความง่ายของไข่เจียว คือ down-to-earth ความติดดิน กินง่าย ทำง่าย อยู่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน เรียบง่าย
- เป็นคนเข้าถึงง่าย easy accessibility ด้วยเมนูที่ทุกคน ทุกศาสนากินร่วมกันได้บน platform เดียวกัน ไม่ต้องสั่งแยกกันกิน join กันได้ในจานเดียว
- ถ้าเลือกแก้ปัญหาได้ วิธีคิดแบบวิโรจน์ ก็คือการเลือกสิ่งที่ทำได้ง่าย ทำได้ก่อน ทำได้เลยทันที และทำให้ซับซ้อนน้อยสุด เพื่อทำให้งานเดินหน้า
- ไข่เจียว คือสัญลักษณ์ของการไม่สร้างกำแพงทางโอกาสให้กับใครเลย เชื่อในการเอาอุปสรรคออก หาวิธีที่จะขจัดปัญหา เพื่อทำให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งทรัพยากรเดียวกันคือ จานไข่เจียว โดยไม่เลือกชนชั้น หรือกลุ่มคนทาน
- หัวใจของไข่เจียวจานนี้ คือ "การกินที่คิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ พร้อมแบ่งปัน และสร้างพื้นที่บนโต๊ะอาหารร่วมกัน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะมองคนเท่ากัน"
6) เราว่า Best Presenting กับแค่เรื่องเมนูอาหาร เราก็คิดว่า เขามีไหวพริบในการขายตัวเองเก่งคนหนึ่งเลย คือถ้าเป็น Super Sales Representative ในบริษัท ก็คิดว่าน่าจะเป็น Superstar ในองค์กร เพราะขนาดแค่ขายตัวเอง ยังขายได้ดีขนาดนี้เลย เข้าใจง่าย คมชัด ตรงประเด็น คิดวางแผนมาแล้วว่าจะเล่าเรื่องอะไรให้คนฟัง รู้จักเขาผ่านเมนูเดียวที่จะเลือกทาน ทุกอาชีพต้องขายเป็นขายเก่ง ก็นับว่าคุณวิโรจน์ขายเก่งจริงๆครับ
7) เราไม่รู้หรอกว่า "ใครพูดนโยบาย แล้วจะทำได้จริงไหม?"
เพราะการเลือกตั้ง มันคือความเสี่ยง เราต่างลุ้น และได้เรียนรู้กับคนที่เราเลือก แต่ความตั้งใจว่าจะทำ หรือความพยายามที่จะเล่าเรื่องว่าอยากแก้ไข แล้วจะแก้อย่างไร อย่างน้อยเราเห็น Leader's Vision ในตัวบุคคลแล้วว่า "มีเป้าหมายจะทำอะไรให้สำเร็จ?" มันก็คือขายฝันนั่นแหละ แต่ฝันของใครมีเหตุมีผล มี support ที่น่าจะไปสู่ solution แก้สำเร็จได้จริง คงต้องดูที่น่างานจริงตอนได้เห็นผลงาน
ดังนั้น การเลือกตั้ง ที่มีการขายนโยบาย เราไม่สามารถไปดูถูกนโยบายใครได้ เพราะทุกคนมันก็ขาย idea ด้วยกันทั้งนั้น มันก็แค่ว่าชอบไอเดียคนไหน เราซื้อมุมมองใครแค่นั้น ไม่ได้หมายความว่า ต้องไปด้อยค่าความเชื่อมั่น และความพยายามของใคร
8 ) เรามองการเลือกตั้งผู้ว่ฯ กทม. เที่ยวนี้ มีสีสันมาก เราว่ามีคนเก่งๆหลายคนที่น่าจับตามอง แล้วเราอยากเห็นภาพคนเก่งๆแบบนี้ไปดูแลคนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แย่งกันทำดีเพื่อประชาชน แย่งกันนำเสนอ อยากช่วยเหลือ ออกไดเดีย 108 อย่างเอามาแก้ปัญหาประเทศ ภาพผู้ว่าฯ เก่งๆ มันควรมีมากกว่าแค่กรุงเทพมหานคร มันควรมีทุกจังหวัด ที่ประชาชนมีโอกาสเลือกคนเก่งไปทำงานให้พวกเขา
22 พฤษภานี้ คงดุเดือดมากทีเดียว ตอนนี้หิวไข่เจียวแล้วฮะ :)
(เดี๋ยวแปะ Link รายการไว้ใน comment นะครับ)
IG : Tootsyreview
TW : ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review
#ThinkTalkLoud
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
