19 พ.ค. 2022 เวลา 04:00 • สิ่งแวดล้อม
จะสูงเกินไปแล้ว! ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์พุ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์แล้ว
แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์จากหลากหลายองค์กรจะออกมาเตือนและรายงานผลการศึกษาเรื่องค่าวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และแม้จะมีการจัดประชุมหลายครั้งหรือสร้างนโยบายควบคุมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็ไม่อาจหยุดยั้งปริมาณของก๊าซที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
จนในวันนี้ วันที่ไม่คาดคิดก็มาถึง บันทึกรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือนกำลังบอกกับเราว่า ระดับคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมกำลังขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสำคัญ
ข้อมลใหม่จาก National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) แสดงให้เห็นว่าความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยรายสัปดาห์ที่หอดูดาว Mauna Loa ในฮาวาย เพิ่มสูงขึ้นถึง 421.13 ส่วนต่อล้าน (ppm/Part Per Million หน่วยวัดค่ามลพิษทางอากาศ) ตั้งแต่วันที่ 8-14 พฤษภาคม 2022 ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยบันทึกไว้
ระดับคาร์บอนไดออกไซด์รายสัปดาห์ Cr.NOAA
นอกจากนี้ยังเพิ่มขึ้นจากเดิม 418.34 ppm ภายในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และจากเดิม 397.38 เมื่อหนึ่งศตวรรษที่แล้ว (100ปี)
จากข้อมูลของ NOAA ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่อวันที่ Mauna Loa พุ่งถึง 422.04 ppm ในวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าสถิติตลอดกาลที่วัดได้สูงสุดในหมวดของรายวันที่ 422.06 ppm เมื่อวันที่ 26 เมษายน ห่างกันเพียง 0.02 ppm เท่านั้น
นอกจากนี้ นักวิจัยจาก Scripps Institution of Oceanography ที่มหาวิทยาลัยซานดิอาโก วัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 421.68 ppm ที่ Mauna Loa เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งก็ถือว่าเป็นปริมาณที่สูงมากสำหรับหมวดบันทึกประจำวัน
การวัดรายวันและรายสัปดาห์ที่ทำลายสถิติเกิดขึ้นหลังจากความเข้มข้นของ CO² เฉลี่ยรายเดือนที่ Mauna Loa เกิน 420 ppm เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดย NOAA สังเกตค่าคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 420.23 ppm ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับ Scripps ที่ 420.02 ppm
ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่บันทึกได้ตั้งแต่ปี 1960-2021 Cr.NOAA
“เราแค่ไม่รู้จักดาวเคราะห์ดวงนี้ดีพอ เรากำลังอยู่ในสภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ” นักอุตุนิยมวิทยา Eric Holthaus กล่าวเมื่อวันจันทร์
Pieter Tans นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของ NOAA เพิ่งบอกกับ Axios ว่า “ยังมีแนวโน้มอีกว่า เดือนพฤษภาคมจะยังคงระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นเรื่อยๆ”
American Clean Power ก็ออกมาเตือนด้วยเช่นกันว่า “การเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดจะช่วยลดการปล่อยมลพิษและช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคต”
20 ปีที่แล้วความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยรายเดือนสูงสุดคือ 375.93 ppm ตามข้อมูลจาก NOAA ในปี 1958 ที่นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มต้นเก็บรวบรวมข้อมูลคาร์บอนไดออกไซด์เป็นปีแรกที่ Mauna Loa ซึ่งค่าเฉลี่ยขณะนั้นจะอยู่ที่ 317.51 ppm
เจมส์ แฮนเซน นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ ได้แจ้งเตือนสมาชิกรัฐสภาที่อันตรายถึงชีวิตจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในปี 1988 ด้วยการเรียกร้องให้ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศให้ต่ำกว่า 350 ppm และขณะนี้มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ความน่าอยู่ของดาวเคราะห์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ในช่วง 6 ศตวรรษ (600 ปี) ที่ผ่านมานั้นเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นก่อนหน้าถึงราว ๆ 100 เท่า ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อหลายพันปีก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชั้นบรรยากาศโลก มีโอกาสในการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและทำให้โอโซนในชั้นบรรยากาศเป็นรูโหว่ อันตรายต่อมนุษย์อย่างรุนแรง
นอกจากนี้ รายงานจากเว็บไซต์ Global Carbon Atlas.org ได้แสดงผลอย่างเป็นทางการของค่าเฉลี่ยโดยรวมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยในปี 2020 ประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ จีน สหรัฐอเมริกาและอินเดีย ตามลำดับ โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24
อันดับประเทศที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด Cr.globalcarbonatlas.org
เมื่อเร็วๆ นี้ Tans กล่าวกับ Financial Times ว่า "เรากำลังไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ด้วยความเร็วสูงสุด"
โจ แซนเบิร์ก นักเคลื่อนไหวในแคลิฟอร์เนียกล่าวอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“เป็นเรื่องน่าตกใจที่เรากำลังมองลงมาที่อัตวิบากกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญมา และเรายังไม่ผ่านข้อตกลงใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เวลากำลังจะหมดลง ไม่ว่าเราจะผลักดันอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลให้สูญพันธุ์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่สูญพันธุ์อาจไม่ใช่อุตสาหกรรม แต่เป็นอารยธรรมของมนุษย์เอง"
โฆษณา