20 พ.ค. 2022 เวลา 04:46 • ยานยนต์
บิ๊กไบค์ มีกี่ประเภท ? ต่างกันอย่างไร ? ประเภทไหนเหมาะกับคุณ ?
บิ๊กไบค์ ในปัจจุบันเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากรูปทรงที่สวยงาม และสมรรถนะที่ดีเยียม ทำให้รถจักรยานยนต์ประเภทดังกล่าว เป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้ชื่นชอบรักสองล้อในทุกเพศทุกวัย แต่อย่างไรก็ตาม บิ๊กไบค์ ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นมาในหลากหลายลักษณะ ตามการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ
แบบไหนที่เหมาะสมกับเรา ?
สำหรับคนที่กำลังสนใจ Bigbike เรียกว่าเป็นมือใหม่ที่กำลังอยากเล่นบิ๊กไบค์ซักคัน คงกำลังมองหาความแตกต่างแต่ละประเภทอยู่ โดยต้องบอกเอาไว้เลยว่าบิ๊กไบค์นั้นมีหลายๆประเภท ส่วนแต่ละคนนั้นจะชอบประเภทไหน ส่วนใหญ่ก็มักจะดูจากภายนอกเป็นหลัก แล้วในเรื่องของความแรง ก็ค่อยมาดูทีหลังได้ เพราะว่าบิ๊กไบค์แต่ละประเภทนั้นก็มีความแรงหลายระดับให้เลือกขับขี่กัน ที่สำคัญมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก
บิ๊กไบค์ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร ?
แต่ละแบรนด์ก็ผลิต บิ๊กไบค์ รูปแบบต่างๆ ประเภทต่างๆมาฟาดฟันกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ เครื่องยนต์ ความคุ้มค่า ราคา การใช้งานต่างๆแบบเต็มที่ และทำให้ทุกวันนี้ มีหลากหลายประเภทจนวงการตลาดรถได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ไม่รู้จักประเภท Bigbike เดี๋ยวมาดูกันว่ามีบิ๊กไบค์มีกี่ประเภท และมีประเภทอะไรบ้าง
1. สปอร์ตไบค์ (Sport Bike)
สำหรับคนที่ชื่นชอบความเป็นสปอร์ต ความเร็ว แรง ก็ต้องเลือกสปอร์ตไบค์กันเลย โดยรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ประเภทนี้ จะเน้นดีไซน์ที่ดูสปอร์ต หรูหรา และมีระดับความแรงให้เลือกหลายระดับด้วยกัน ซึ่งก็เป็นประเภทที่กำลังได้รับความนิยมสูงมาก และด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา จึงทำให้ขับขี่และควบคุมทิศทางของตัวรถได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมหรือการตรวจสภาพรถ เพราะในไทยก็มีบิ๊กไบค์หลายยี่ห้อให้เลือก
2. เน็คเก็ดไบค์ (Naked Bike)
รูปทรงแบบสตรีท ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตเป็นที่สุด ซึ่งก็เหมาะสำหรับนักบิด บิ๊กไบค์ประเภทนี้ สามารถขับโต้ลมด้วยความเร็ว แรงได้เป็นอย่างดี และยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายขนาดด้วย สำหรับดีไซน์ของตัวรถ ก็ต้องบอกเลยว่าโดนใจใครหลายคนอย่างแน่นอน เพราะเปิดเผยให้เห็นโครงสร้างของเครื่องยนต์แบบดิบ ๆ ดูเท่ มีสไตล์ ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อม เพราะมีอะไหล่บิ๊กไบค์ขายตามร้านในไทยด้วยนั่นเอง
3. ทัวริ่งไบค์ (Touring Bike)
บิ๊กไบค์ประเภทนี้เป็น Bigbike ที่มีความอึดทน สามารถใช้ขับขี่ในระยะทางไกลได้แบบสบาย ๆ โดยเบาะนั่งจะมีขนาดใหญ่ สามารถซ้อนท้ายได้มากถึงสองคน ทั้งยังมีช่วงล่างที่นุ่มนวล จึงขับขี่ได้อย่างง่ายดาย ไม่กระตุก แม้บนทางถนนลูกรัง หรือถนนที่มีพื้นผิวไม่เรียบสม่ำเสมอก็ตาม นอกจากนี้ก็มีกระเป๋าเอนกประสงค์ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคุณมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถบรรจุของลงไปได้เยอะ และไม่เกะกะตัวรถอีกด้วย
4. เอ็นดูโร่ไบค์ (Enduro Bike)
เอาใจนักบิดขาลุย กับเอ็นดูโร่ไบค์ ที่พร้อมจะพาคุณไปลุยแบบวิบากได้ทุกพื้นที่ โดยรถประเภทนี้ก็มีความสูงพอสมควร เพื่อให้สามารถขับไปบนเส้นทางที่ลำบาก ลุยน้ำ ลุยโคลนได้โดยไม่มีปัญหา ทั้งยังมีดีไซน์การออกแบบที่ดูปราดเปรียวและมีความแข็งแรงมาก แต่ไม่เหมาะกับการขับขี่ไปบนพื้นถนนเรียบ ๆ มากนัก ซึ่งหากจำเป็นก็สามารถขับได้ เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากกว่าเดิมสักนิด
5. โมโตครอสไบค์ (Motocross Bike)
ออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันวิบากโดยเฉพาะดีไซน์ของตัวรถ ไม่มีไฟหน้า และมาตราวัดความเร็ว จึงไม่เหมาะที่จะนำไปขับขี่บนถนน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งรถประเภทนี้ก็โดดเด่นด้วยช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ยางล้อรถขนาดใหญ่ และตัวถังน้ำมันขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถใช้ขับขี่ในการแข่งขันได้อย่างปราดเปรียวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมีน้ำหนักเบามาก จึงสามารถควบคุมตัวรถและทิศทางในการขับขี่ได้อย่างง่ายดายที่สุด
6. ช็อปเปอร์ (Chopper)
มอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิค ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มชมรมรถคลาสสิคทั้งหลาย ซึ่งก็มีความโดดเด่นในเรื่องของความเร็ว แรง ตัวเครื่องมีความเงางามสะดุดตา และให้ความรู้สึกที่ดูเท่ โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อหนุ่มๆ นักบิดอย่างแท้จริง ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความคลาสสิค ก็ห้ามพลาดที่จะจับจองช็อปเปอร์มาเป็นเจ้าของเลยเชียว
7. โมตาร์ดไบค์ (Motard Bike)
มอเตอร์ไซค์ที่เอาใจขาซิ่ง ด้วยความพิเศษในการเกาะพื้นถนนได้ดีมาก จึงสามารถขับขี่ด้วยความเร็วได้โดยไม่ต้องกังวล ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้จะนิยมใช้ขับขี่ไปบนพื้นถนนที่เป็นทางเรียบมากกว่า ไม่เหมาะกับการใช้ลุยไปบนเส้นทางที่เป็นดิน หินลูกรังมากนัก ทั้งยังสามารถขับขี่ในระยะทางไกลได้อีกด้วย จึงเป็นรถอีกหนึ่งประเภทที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไกลเป็นที่สุด
8. ดูออล เพอร์โพส ไบค์ (Dual Purpose Bike)
ถูกออกแบบโดยผสมผสานระหว่างรถประเภทโมตาร์ดกับเอ็นดูโร่เข้าด้วยกัน ทำให้มีดีไซน์ที่ดูสวยโดดเด่น และมีสมรรถนะในการขับขี่ไปบนท้องถนนได้อย่างดีเยี่ยม ประกอบกับล้อรถขนาดใหญ่ จึงสามารถขับขี่ได้อย่างปราดเปรียว แม้ต้องขับขี่ในระยะทางไกลก็ตาม ใครที่ชื่นชอบการขับขี่รถบิ๊กไบค์จนเป็นชีวิตจิตใจ Dual Purpose Bike ก็เป็น Bigbike อีกหนึ่งประเภท ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของที่สุด
9. สกู๊ตเตอร์ไบค์ (SCOOTER BIKE)
ประเภทนี้มีหลายรุ่นด้วยกันที่ได้รับความนิยมเป็นสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์ขนาดเล็กขึ้นไป มีเบาะนั่งขนาดใหญ่ ใช้ระบบเกียร์ออโตเมติค ดีไซน์สปอร์ตสวยงาม ล้ำสมัย มีที่เก็บของขนาดใหญ่ เรียกว่าเป็นบิ๊กไบค์ที่เน้นความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นอย่างมาก เครื่องยนต์ไม่เน้นแรงเท่าไหร่ แต่เน้นการขับขี่ที่สบายเป็นหลัก
โฆษณา