Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนเกิร์ล
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
21 พ.ค. 2022 เวลา 03:30 • ศิลปะ & ออกแบบ
รู้จัก ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลัง “CRYBABY” ของเล่นสะสมหลักแสน ฝีมือคนไทย
ทำไมคนเราถึงต้องแสดงความสุข ให้ผู้อื่นเห็นเพียงด้านเดียว ? แล้วหากรู้สึกเศร้าหรืออ่อนแอ เราต้องซ่อนความรู้สึกเหล่านี้ไว้เหรอ ?
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาไปพบกับนิทรรศการ “Cry Me A River” งานศิลปะที่เต็มไปด้วยน้ำตา ที่จะทำให้เรารู้จักกับความเศร้าหลายรูปแบบ รวมถึงรู้สึกว่า ร้องไห้บ้างก็ไม่เป็นไร
ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังนิทรรศการนี้ ก็คือคุณมด-นิสา ศรีคำดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คุณมอลลี่” ผู้สร้างสรรค์ผลงาน “ของเล่นสะสมไทย” ให้ดังไกลถึงเมืองนอก
โดยคุณมอลลี่ มีชื่อเสียงในวงการของเล่นสะสม ในระดับเอเชียเลยทีเดียว
2
เรื่องราวของคุณมอลลี่ น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณมอลลี่ เป็นศิลปินผู้ผลิตของเล่นสะสม ที่มีแครักเตอร์หลัก คือ “CRYBABY” หรือ เด็กน้อยที่ทำหน้าตาเศร้าสร้อย ที่มาพร้อมกับหยดน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา
หลาย ๆ คนมักสงสัยว่าทำไมแครักเตอร์นี้ถึงต้องมีน้ำตา ?
คำตอบก็คือ จริง ๆ แล้ว คุณมอลลี่เป็นคนที่ชอบมูฟเมนต์ของ “น้ำตา” และมักจะจดบันทึกเรื่องราวความเศร้าไว้ในไดอารีเสมอมา
4
ดังนั้น “น้ำตา” จึงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแครักเตอร์ของเธอ
นอกจากนั้นเธอยังคิดว่า การหลั่งน้ำตาออกมาหนึ่งครั้ง ต้องผ่านกระบวนการคิดหลากหลายมิติ
1
ซึ่งบางครั้ง น้ำตาก็ไม่ได้เกิดขึ้น แค่ตอนที่เราเศร้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจหลั่งออกมาพร้อมกับความตื้นตัน ดีใจ รวมถึงตอนที่มีความสุขได้เช่นกัน
ดังนั้น การร้องไห้ จึงไม่ได้หมายความว่าเราอ่อนแอเสมอไป
และถึงแม้ว่าเราจะอ่อนแอจริง ๆ การแสดงด้านนั้นออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
ซึ่งในนิทรรศการ “Cry Me A River” ตัวแครักเตอร์ CRYBABY นี้ ก็ถูกใช้เป็นตัวแสดงหลักในงานด้วยเช่นกัน
โดยมาพร้อมคอนเซปต์ “พื้นที่สำหรับทุกคน ได้มาแชร์ความเศร้า และร้องไห้ไปด้วยกัน” ผ่านการจัดแสดงผลงานภาพวาด, รูปปั้น และของสะสมแครักเตอร์ CRYBABY ในท่าทางต่าง ๆ เกือบ 20 ชิ้น
ที่น่าสนใจก็คือผลงานเหล่านี้ ถูกจับจองเกือบหมด ภายในเวลาไม่ถึงนาที หลังจากเปิดตัวนิทรรศการ โดยแต่ละชิ้นงานก็มีมูลค่าตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาท
และหากเราลองคำนวณคร่าว ๆ ผลงานทั้งหมดในนิทรรศการนี้ จะมีมูลค่ารวมกัน มากกว่าสิบล้านบาทเลยทีเดียว
ที่สำคัญงานนี้ ยังเป็นการจัดนิทรรศการเดี่ยว ครั้งแรกของคุณมอลลี่อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ถือว่าคุณมอลลี่เป็นหนึ่งในศิลปินของเล่นสะสม ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า คุณมอลลี่เพิ่งเริ่มต้นสร้าง CRYBABY ได้เพียง 5 ปี และก่อนหน้านั้น งานที่เธอทำก็ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ของเล่นอีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน หลังจากที่คุณมอลลี่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์
1
คุณมอลลี่ ได้เลือกไปทำงานทางสายออกแบบและกราฟิกดีไซน์ ของบริษัทวางแผนจัดการสำหรับงานแต่ง
ซึ่งเธอทำงานตรงนี้มานานกว่า 7 ปี จนกระทั่งช่วงปี 2559 ที่ต้องงดงานรื่นเริงทุกประเภท เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้งานแต่งและงานอิเวนต์ ที่เป็นหัวใจหลักของบริษัท ถูกยกเลิกทั้งหมด
แม้เหตุการณ์นี้ จะทำให้คุณมอลลี่ ต้องหยุดพักจากงาน และขาดรายได้หลักไป แต่ช่วงเวลานี้เอง ที่เธอได้หันกลับมาให้เวลากับตัวเอง และงานอดิเรกที่เธอรักมากขึ้น
นั่นก็คือการสร้างสรรค์ “งานคราฟต์” และ “งานปั้น” ที่เธอชอบทำมาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งจริง ๆ แล้ว เธอก็โหยหาอยากกลับไปทำงานเหล่านั้นตลอดมา เพียงแต่ไม่มีเวลาได้ลงมือทำเสียที
จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ CRYBABY ของเล่นสะสมชิ้นแรกจึงเริ่มต้นขึ้น โดยที่เธอก็ไม่รู้เลยว่า งานชิ้นนี้ จะกลายเป็นประตูสู่อาชีพใหม่ในอนาคตของเธอ
หลังจากว่างงานเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนเต็ม คุณมอลลี่ได้ลองปั้นตุ๊กตา CRYBABY และโพสต์ลงบนบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวเล่น ๆ โดยไม่ได้หวังจะทำเป็นธุรกิจ
แต่ผลงานชิ้นนี้กลับไปถูกใจนักสะสมของเล่นชาวจีน ที่ต้องการซื้อผลงานของเธอ ทั้ง ๆ ที่ผลงานชิ้นนี้ เป็นเพียงงานต้นแบบ หรืองานโปรโตไทป์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกคุณมอลลี่ไม่ได้คิดที่จะขายผลงานชิ้นนี้ เพราะเธอทำขึ้นจากความหลงใหลในของเล่นเท่านั้น รวมทั้งเธอยังไม่มีความรู้ในตลาดของเล่นสะสม
1
แต่ลูกค้าคนนี้ก็ไม่ย่อท้อ และตามตื๊อขอซื้อผลงานของเธอนานเกือบเดือน จนวันหนึ่งเมื่อคุณมอลลี่พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่วงการของเล่นสะสม เธอจึงตัดสินใจขายผลงานชิ้นแรก
หลังจากนั้น ผลงานชิ้นที่สอง สาม และสี่ก็ตามมาเรื่อย ๆ
จนในปี 2560 CRYBABY คอลเลกชันแรก จึงได้คลอดออกมาอย่างเป็นทางการ
1
ปัจจุบัน CRYBABY กลายเป็นสินค้าที่รู้จักในวงการของเล่นสะสมในหลายประเทศ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากทางแถบเอเชีย เช่น ประเทศจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และสิงคโปร์
ทำให้คุณมอลลี่ผ่านประสบการณ์จัดแสดงผลงานศิลปะ ทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายต่อหลายครั้ง
และล่าสุดในปี 2564 ที่ผ่านมา คุณมอลลี่ก็สามารถก่อตั้งบริษัทของตัวเอง ในชื่อว่า บริษัท มอลลี่ แฟ็กทอรี่ จำกัด
1
โดยสินค้าที่ผลิตในบริษัทนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ
1. Mass Production หรือสินค้าจำนวนมากที่ผลิตจากโรงงาน
2. Handmade ซึ่งเป็นสินค้างานคราฟต์ทำมือทุกชิ้น ที่จะผลิตครั้งละไม่กี่ชิ้น และเปิดเพียงไม่กี่รอบต่อปี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยทุก ๆ รอบที่เปิดขาย สินค้าก็จะหมดตั้งแต่นาทีแรกเสมอ
นอกจากสินค้าที่ดูแลโดยบริษัทของเธอเองแล้ว คุณมอลลี่ยังได้ร่วมงานกับ POPMART บริษัทขายของเล่นแบบกล่องสุ่ม ชื่อดังจากประเทศจีน
1
ซึ่งการเซ็นสัญญาร่วมงานกับ POPMART ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะศิลปินที่ผลิตงานกับทางบริษัทนี้ จะต้องเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง และมีกระแสในตลาดนักสะสม
โดยคุณมอลลี่ ถือเป็นศิลปินไทยคนแรกและคนเดียว ที่ได้เซ็นสัญญากับทาง POPMART และมีผลงานลิขสิทธิ์จำหน่ายกับแบรนด์นี้ นั่นก็คือ CRYBABY แครักเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับที่ประเทศจีนอยู่แล้ว
1
สำหรับการร่วมงานกับ POPMART ศิลปินจะมีหน้าที่เพียงแค่ออกแบบผลงานเท่านั้น ส่วนหน้าที่ในการโปรโมตสินค้า และวางแผนการตลาดก็จะเป็นหน้าที่ของบริษัท
ดังนั้น จึงเรียกได้ว่า นี่คือใบเบิกทางสู่สายตานักสะสมของเล่นทั่วโลก
แล้วคุณมอลลี่เพิ่มมูลค่า และสร้างแบรนด์ของ CRYBABY อย่างไร ?
อันดับแรกคือ ศึกษาตลาดของเล่นสะสม
การสร้างสรรค์ผลงานของคุณมอลลี่ ส่วนใหญ่เริ่มต้นมาจากแรงบันดาลใจ และความชอบส่วนตัวในการขับเคลื่อนผลงาน
แต่นอกจากเรื่องความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินแล้ว การวิเคราะห์ตลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน
ดังนั้น แครักเตอร์ของเธอในแต่ละคอลเลกชัน จึงมาจากการวิเคราะห์ความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้า และตลาด ควบคู่ไปด้วย
ต่อมาสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ “คุณภาพ”
ถ้าขึ้นชื่อว่ามาจากมอลลี่ แฟ็กทอรี่แล้ว สินค้าทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานคราฟต์ หรือสินค้าแมส โปรดักต์จะต้องเนี้ยบ สวยงาม และถูกควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน
1
และเมื่อสินค้าเป็นที่ต้องการในตลาด มีคนให้คุณค่า
มูลค่าของสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งในปัจจุบันเราต้องยอมรับว่า คนไทยหลาย ๆ คนเริ่มหันมาซื้อของเล่นสะสมกันมากขึ้น ทั้งสะสมด้วยความชอบ และสะสมไว้เพื่อเก็งกำไร ทำให้ในบางครั้งราคาของเล่น ก็มีราคาสูงไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
เหมือนอย่างผลงาน CRYBABY ของคุณมอลลี่ ที่บางคอลเลกชัน ก็ถูกนำไปขายรีเซล ในราคาสูงถึงหลักแสนบาท
โดยหากถามว่า อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จนี้
คำตอบสำหรับกรณีของคุณมอลลี่ ก็คงไม่ซับซ้อน
และนั่นคือ การลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ นั่นเอง..
2
สำหรับใครที่ต้องการไปเยี่ยมชมงานนิทรรศการ “Cry Me A River” ก็สามารถแวะไปชมได้ที่ 333 Anywhere ในโครงการ Warehouse 30 ได้จนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2565
ซึ่งงานนี้ก็ไม่ได้แค่นำ CRYBABY มาตั้งโชว์เฉย ๆ เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกันตลอดทั้งเดือนอีกด้วย
Reference:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณมด-นิสา ศรีคำดี
ของสะสม
37 บันทึก
25
48
37
25
48
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย