22 พ.ค. 2022 เวลา 03:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ
6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Inverse ETFs..
ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
เรียบเรียงบทความโดย เพจ สองหมอขอลงทุน
Inverse ETFs ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ตรงกันข้ามกับดัชนีอ้างอิงพื้นฐาน แม้ว่ากองทุนเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ไม่เหมือนใคร
1️⃣Inverse ETFs คืออะไร
Inverse ETFs คือกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ใช้การขายชอร์ต อนุพันธ์ ฟิวเจอร์ส หรือเทคนิคการใช้ประโยชน์จากอื่น ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ตรงกันข้ามกับดัชนีอ้างอิง ตัวอย่างเช่น Inverse ETFs สามารถช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เป็นบวกเมื่อดัชนีอ้างอิงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตามมีผลตอบแทนติดลบ
2️⃣ Inverse ETFs ทำงานอย่างไร
Inverse ETFs อาศัยอนุพันธ์ เช่น ฟิวเจอร์ส เพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ทำให้หลักทรัพย์อ้างอิงสั้นลง เป้าหมายของผู้จัดการกองทุน ETF ผกผันคือการบรรลุผลตอบแทนรายวันที่ตรงกันข้ามหรือตรงกันข้ามกับดัชนีอ้างอิงเช่น S&P 500
ตัวอย่างเช่น หากดัชนี S&P 500 มีผลตอบแทนรายวัน -1% Inverse ETFs S&P 500 ควรให้ผลตอบแทนประมาณ +1% เพื่อให้บรรลุผลตอบแทนผกผันนี้ ผู้จัดการกองทุนอาจใช้เทคนิคและเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์จาก เช่น การขายชอร์ต หรือการซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
เนื่องจากมูลค่าของมันเพิ่มขึ้นเมื่อราคาในตลาดลดลง Inverse ETFs มักจะเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาดหมีหรือเมื่อนักลงทุนมีความกังวลสูง เนื่องจาก Inverse ETFs ใช้การขายชอร์ตเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ นักลงทุนอาจประสบกับความสูญเสียอย่างไม่จำกัด ด้วยเหตุนี้ Inverse ETFs จึงถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ trader และนักลงทุนระยะสั้นอื่นๆ
คำเตือน: โดยทั่วไปแล้ว Inverse ETFs จะใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านเวลาของตลาด เนื่องจากอนุพันธ์ที่ใช้ในการบรรลุผลตอบแทนผกผันมีการซื้อและขายทุกวัน Inverse ETFs จึงไม่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
3️⃣ประเภทของ Inverse ETFs
มี Inverse ETFs หลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อทำกำไรจากการขาดทุนในตลาด เช่นเดียวกับที่มี ETF แบบดั้งเดิมหลายประเภท มี Inverse ETFs ที่หลากหลายซึ่งติดตามดัชนีตลาดต่างๆ มี Inverse ETFs สำหรับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น
(i) สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทอง เงิน ฯลฯ)
(ii) พันธบัตร (ผลตอบแทนสูง คลัง ฯลฯ) และ (iii) สกุลเงิน นอกจากนี้ยังมี Inverse ETFs ที่ออกแบบมาเพื่อทำกำไรจากการลดลงในภาคตลาดเฉพาะ (เช่น การเงิน เทคโนโลยีชีวภาพ ฯลฯ) หรือตลาดในวงกว้าง (เช่น S&P 500, Russell 2000 หรือ Nasdaq 100)
4️⃣แล้วทางเลือกแทน Inverse ETFs ไหม?
ยังมี ETF ที่ออกแบบมาเพื่อขยายประสิทธิภาพผกผัน (leveraged inverse ETFs )เช่น ผลตอบแทนผกผันรายวันสองหรือสามเท่าของดัชนีอ้างอิง นักลงทุนอาจเลือกใช้กลยุทธ์การขายชอร์ตของตนเอง ซึ่งต้องใช้บัญชีมาร์จิ้น
Tips: ความแตกต่างระหว่าง inverse ETFs และ leveraged inverse ETFs นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เข้าใจง่าย inverse ETFs จะสร้างผลตอบแทนรายวันที่ 1:1 ผกผันกับดัชนีมาตรฐาน ตัวอย่างเช่น หากดัชนีอ้างอิงลดลง 1% inverse ETFs จะเพิ่มขึ้น 1%
แต่ ด้วย leveraged inverse ETFs มักจะมีความสัมพันธ์ผกผัน 2:1 หรือ 3:1 ดังนั้น ETF แบบผกผัน 2:1 จะเพิ่มขึ้น 2% หากดัชนีอ้างอิงลดลง 1%
5️⃣ ข้อดีและข้อเสียของ inverse ETFs
👉ข้อดีของ inverse ETFs
การป้องกันความเสี่ยง: นักลงทุนสามารถพยายามป้องกันความเสี่ยงจากสถานะซื้อด้วย inverse ETFs หากพวกเขากังวลว่ามูลค่าตลาดอาจลดลง แต่พวกเขาไม่ต้องการขายหุ้นของตนเอง
ทางเลือกแทนอนุพันธ์: inverse ETFs ให้การเข้าถึงอนุพันธ์ทางการเงินทางอ้อม เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งอาจมีราคาแพงสำหรับการค้าหรือไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับนักลงทุน daytrade
เข้าถึงได้ง่าย: เช่นเดียวกับ ETF ทั่วไป หุ้นของ inverse ETFs จะซื้อขายในตลาดเปิดเช่นหุ้น นักลงทุนอาจใช้ inverse ETFs ในบัญชีซึ่งโดยทั่วไปจะไม่อนุญาตให้ซื้อขายอนุพันธ์หรือขายชอร์ต
👉 ข้อเสียของ inverse ETFs
ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น: เนื่องจากการจัดการประจำวันและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับอนุพันธ์ทางการเงิน inverse ETFs จึงมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ ETF แบบเดิม
ข้อผิดพลาดในการติดตามระยะยาว: เนื่องจาก inverse ETFs กำหนดเป้าหมายที่ผกผันของระดับรายวัน ดังนั้นประสิทธิภาพระยะยาวจะไม่ให้ผลตอบแทนเท่ากัน
ข้อผิดพลาดในการติดตามรายวัน: กลยุทธ์ที่ใช้ใน inverse ETFs อาจไม่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวผกผันที่แม่นยำแม้ในแต่ละวัน
6️⃣บทสรุป
Inverse ETFs สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้น แต่ไม่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจาก คือการกำไรในตลาดขาลง นักลงทุนบางคนจึงใช้ ETF เหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันความเสี่ยงหรือเพื่อกำหนดเวลาของตลาด อย่างไรก็ตาม ETF เหล่านี้มีความเสี่ยงเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับ ETF แบบเดิม
Source:
โฆษณา