22 พ.ค. 2022 เวลา 06:00 • กีฬา
นัดสุดท้ายกับกิจแฝงของสตีวี่จี
“เราจะออกไปลุยในสุดสัปดาห์นี้และทุ่มเททุกอย่างเพื่อคว้าคะแนนให้กับ Aston Villa และแฟนบอลของเรา และถ้าสิ่งนั้นเป็นการช่วย Liverpool อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันก็คงจะวิเศษมาก" บทสัมภาษณ์สุดสตรองของ Steven Gerrard เมื่อวานที่ผ่านมา นับว่าเป็นประกาศิตสุดท้ายของเขาก่อนนำทีมเจอจ่าฝูงเย็นนี้
สวัสดียามบ่ายวันอาทิตย์คุณผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่ผมห่างเหินไปนาน กับเพจ “G B K – รู้อะไรดีก่อนบอลเตะ” ที่มีทั้งช่องทางนี้ และ Facebook ก็ขอเชิญชวนทุกท่านไปร่วมกด Like และ Follow ผลงานของผมกันครับ หรือ สามารถ Search โดยใช้คำว่า https://www.facebook.com/GuideBeforeKickOff กันได้เลย และผมก็ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมติดตามผลงานและให้กำลังใจกับของเพจเล็กๆ ของผมเสมอมานะครับ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วของการแข่งขันฟุตบอล EPL ประจำฤดูกาล 2021/22 ซึ่งจะเตะพร้อมกันในเวลา 2200 พร้อมกันทั้ง 10 คู่ เพื่อป้องกันเหตุล้มบอลที่อาจเกิดขึ้น โดยวันนี้มีลุ้นกันถึง 3 อย่าง คือ ลุ้นแชมป์ (Manchester City กับ Liverpool) ลุ้นอันดับสี่ (Tottenham Hotspur กับ Arsenal) และลุ้นหนีตกชั้น (Burnley กับ Leeds United) ซึ่งมีหลายสนามให้น่าจับตามอง
วันนี้ ผมจะขอเจาะไปที่ทีมลุ้นแชมป์ ที่น่าจะมีคนสนใจอย่างมากที่สุดอย่างสองทีมดัง ได้แก่ สโมสร Manchester City จ่าฝูง ที่มี 90 คะแนน และ สโมสร Liverpool รองจ่าฝูง ที่มี 89 คะแนน แต่พกแชมป์มาแล้วสองรายการในฤดูกาลนี้อย่าง แชมป์ FA Cup และ แชมป์ EFL Cup
คู่ที่ผมจะไปพรีวิวกันนั่นคือที่สนาม Etihad Stadium สโมสร Manchester City จะลงที่สนามแห่งนี้ ณ บ้านของตัวเอง พบกับผู้มาเยือนอย่าง สโมสร Aston Villa ที่มี Steven Gerrard คุมทัพมา ซึ่งจะถ่ายทอดสดทางช่อง TFL HD 1 (600)
ที่จริงหากมองกันเผินๆ การเจอกันของสองทีมนี้ มันก็เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว ทีมจ่าฝูงเหนือกว่าทั้งผู้เล่น ศักยภาพทีม รวมถึงผลงาน ซึ่งมันก็ไม่น่ายากถ้าพวกเขาจะเก็บ 3 แต้ม และคว้าแชมป์ EPL สมัยที่ 6 หรือแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 8 ไปครองได้ แต่กุนซือคู่แข่ง คือ ชายที่พร้อมจะช่วยทีมเก่าของเขาหยุดจ่าฝูง และแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองในอดีตให้ได้ ซึ่งเขาก็ต้องภาวนาให้ทีมเก่าของเขาคว้า 3 แต้มให้ได้ด้วยเช่นกัน
ข้อผิดพลาดของชายที่ชื่อ Steven Gerrard หรือสตีวี่จีคืออะไร หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่า เขาเป็นนักเตะเก่ง มีคุณภาพ คว้าแชมป์กับสโมรสมามากมาย แต่แชมป์เดียวของ Gerrard ที่ไม่เคยได้สมัยเป็นผู้เล่น นั่นคือ แชมป์ EPL นั่นเอง และล่าสุดที่เขากับสโมสรมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ นั่นคือ ฤดูกาล 2013/14 นั่นเอง
ในวันนั้น เป็นนัดที่ 35 ของฤดูกาล Liverpool นำเป็นจ่าฝูงอยู่ มี 80 คะแนน นำอับดับสองอย่าง Chelsea ที่แข่งเท่ากันอยู่ถึง 5 แต้ม และนำอันดับสามอย่าง Manchester City ที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด 6 แต้ม ดูๆ แล้ว ยังไง Liverpool ก็ไม่น่าจะพลาดแชมป์ได้เลย เพราะ 3 นัดที่เหลือ พวกเขาชนะ 2 เสมอ 1 แชม์ EPL สมัยแรกก็ไม่หนีไปไหน
ทว่าเหตุการณ์มันเกิดจากชายที่ Gerrard นี่แหละ ในวันที่ 27 เมษายน 2014 ซึ่งนัดที่ 36 พวกเขาเปิดบ้านเจอ Chelsea รองจ่าฝูง ดูๆ ไปแล้วยังไงพวกเขาก็ไม่น่าพลาด 3 แต้ม เพราะพวกเขาโหมบุกตลอดทั้งเกมเพื่อหวังคว้า 3 แต้ม
แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก Mamadou Sakho ปราการหลังทีมชาติ France ได้ส่งบอลให้ Gerrard แต่เขากลับลื่นล้ม และพลาดในการจับบอล ส่งผลให้โดน Demba Ba ดาวยิง Chelsea ทีมชาติ Senegal ฉกไปยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก และครึ่งแม้พวกเขาจะโหมบุกเหมือนเดิม สุดท้ายก็ยิงไม่ได้ แถมมาโดนลูกสอง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังอีก จบเกมพ่ายคาบ้านไป 2-0
หลังจบนัดที่ 36 ของทั้ง 3 ทีมนำนั่น กลายเป็น Manchester City ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงด้วย 80 แต้มเท่า Liverpool แต่ลูกได้เสียดีกว่าเยอะ ส่วนอันดับสาม Chelsea มี 78 คะแนน
นัดที่ 37 พวกเขาก็พลาดบุกไปเสมอสโมสร Crystal Palace 3-3 อีก ในขณะที่ Manchester City เก็บชัยได้ทำให้ แต้มตามถึง 2 แต้ม และในนัดสุดท้าย พวกเขาชนะทั้งคู่ ทำให้ Liverpool เป็นแชมป์ถึงแค่นัดที่ 35 แต่จบฤดูกาลทั้ง 38 นัด เป็น Manchester City ที่คว้าแชมป์ไปครองอย่างเหลือเชื่อ
Gerrard Slipped on the ground on 27 April 2014 EPL 2013/14
นัดนี้จึงสำคัญกับ Gerard มากที่นอกจากจะพยายามให้ Aston Villa มีแต้มจาก Manchester City เพราะมองยังไง ทีมเก่าของเขาก็น่าจะทุบสโมสร Wolverhampton Wonderers ในบ้านได้ไม่ยาก เพราะสองวันที่ผ่านมา ที่พวกเขาเปิดบ้านเสมอสโมสร Burnley ไป 1-1 นั้น เขาก็เก็บผู้เล่นสำคัญๆ ไว้ฉะกับทีมจ่าฝูง โดยเฉพาะด้วย
ทีนี้เมื่อหันกลับมาดูสถิติการเจอกันของทั้งคู่กันต่อ โดยทั้งคู่เจอกันมาในเกมอย่างเป็นทางการ จำนวน 176 ครั้ง แบ่งเป็น สโมสร Manchester City ชนะ 78 ครั้ง สโมสร Aston Villa ชนะ 57 ครั้ง และเสมอกันไป 41 ครั้ง การเจอกันครั้งแรกในฤดูกาลนี้ในบ้านของสโมสร Aston Villa พวกเขาพ่ายคาบ้านไป 2-1
ฝั่งเจ้าบ้าน ฤดูกาลที่แล้ว แม้จะชวดแชมป์ UCL จากการเข้าชิงสมัยแรก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์ EPL มาประดับบารมีได้อีกหนึ่งสมัย ฤดูกาลนี้พวกเขาเหลือแชมป์นี้ให้ลุ้นเพียงแชมป์เดียวเท่านั้น โดย 37 นัดที่ผ่านมา ชนะ 28 เสมอ 6 แพ้ 3 โดยยิงได้มากที่สุดที่ 96 ลูก และเสียประตูก็น้อยที่สุดที่ 24 ลูกเช่นกัน แถมกำลังนำเป็นจ่าฝูงอีก นัดนี้จำเป็นต้องสามแต้มเท่านั้นเพื่อการันตีแชมป์ EPL
พวกเขานำทัพมาโดย Fernandinho กัปตันทีมวัยเก๋า มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติ Brazil ดาวซัลโวของทีมที่ 15 ประตูอย่าง Kevin De Bruyne มิดฟิลด์ตัวรุก ทีมชาติ Belgium และ รองดาวซัลโวที่ 13 ประตู อย่าง Raheem Sterling ปีกซ้าย ทีมชาติ England ซึ่งทั้งหมดจะต้องช่วยกันยิงประตูผู้มาเยือนให้ได้
ในตลาดหน้าหนาว พวกเขานำเข้ามา 5 คน แบ่งเป็น ซื้อมา 1 คน กลับมาจากยืมตัว 4 คน แต่สุดท้ายก็ปล่อยย้ายออกจากทีมไปทั้งหมด 4 คน รวมถึงคนที่ซื้อเข้ามาอย่าง Julián Álvarez ดาวยิงตัวกลาง ทีมชาติ Argentina เจ้าของแชมป์ 2021 Copa América ที่ได้ปล่อยให้ต้นสังกัดเดิมอย่าง สโมสร River Plate ยืมใช้งานต่อจนจบฤดูกาล เท่ากับว่า พวกเขาไม่มีใครมาเพิ่มเลย
Kevin De Bruyne
ฝั่งผู้มาเยือน ฤดูกาลที่แล้ว จบอันดับ 11 ส่วนฤดูกาลนี้ โดย 37 นัดที่ผ่านมา ชนะ 13 เสมอ 6 แพ้ 18 อยู่อันดับ 14 ของตาราง โดยนัดนี้หากชนะ มีโอกาสขยับขึ้นไปสูงถึงอันดับที่ 10 หากทีมอันดับเหนือพวกเขาทำผลงานไม่ดี ทว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แค่ขอมีหนึ่งแต้มออกมาก็มีความสุขแล้ว
พวกเขานำทัพมาโดย Tyrone Mings ปราการหลัง ทีมชาติ England ดาวซัลโวของทีมที่ 11 ประตูอย่าง Ollie Watkins ดาวยิงตัวกลาง ทีมชาติ England และ Emiliano Martínez ผู้รักษาประตู ทีมชาติ Argentina ที่มีดีกรีแชมป์ Copa América ล่าสุดกับทีมชาติมา นัดนี้เขาจะต้องท็อปฟอร์มสุดๆ หากหวังจะกลับมาเก็บ Clean Sheet ให้ได้
ในตลาดหน้าหนาวฤดูกาลนี้ พวกเขานำเข้านักเตะมาสู้ศึก 6 คน โดย ซื้อมา 1 คน ยืมตัวมา 2 คน และ กลับมาจากยืมตัว 3 คน แต่ภายหลังก็ปล่อยทั้ง 3 คนออกจากทั้งทั้งหมด โดยคนที่ซื้อมา คือ Lucas Digne แบ๊กซ้าย ทีมชาติ France จากสโมสร Everton และคนที่ยืมมาและกำลังทำผลงานได้ดีคนหนึ่ง คือ Philippe Coutinho มิดฟิลด์ตัวรุก ทีมชาติ Brazil จากสโมสร FC Barcelona เขาเองก็อยู่ในเกมนั้นกับกุนซือของทีมด้วย
Philippe Coutinho
Gerrard จะทำได้หรือไม่นั่น แฟนบอล Liverpool ก็ไม่ควรที่จะไปโกรธ เพราะต้องโทษว่าพวกเขาเองที่ไม่ดีพอ แต่นัดสุดท้ายแบบนี้กับกิจแฝงของสตีวี่จี เขาเต็มที่แน่นอน และคืนนี้ เราจะไปร่วมลุ้นกันครับ
ขอบคุณรูปภาพ (A special thanks to a photos)
ขอบคุณข้อมูล (A special thanks to a details)
โฆษณา