24 พ.ค. 2022 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
มหากาพย์ตอนที่ 12 สงความรัสเซีย-ยูเครนยุติได้ง่ายๆด้วยวิธีนี้
Credit ABP LIVE - ABP News
ขอบอกตามตรงว่ามองไม่ออกจริงๆว่าสงครามครั้งนี้จะยุติลงเมื่อไร สมมุติว่ายูเครนยอมแพ้แต่กองกำลังที่ต่อสู้อยู่ไม่เอาด้วย สงครามก็ยังดำเนินต่อไปอีกอยู่ดี แต่คงเป็นสงครามย่อยๆ ที่รัสเซียอาจจะใช้วิธีเดียวกันในประเทศซีเรีย ที่ทำเอากลุ่ม ISIS แทบจะสูญพันธุ์ไปเลย แต่ดูแล้วหากรัสเซียจะลุยเอาจริงๆ ISIS คงไม่หลงเหลืออยู่ในโลกเป็นแน่
แต่ที่สงครามจะไม่จบก็เพราะอเมริกาไม่อยากให้จบมากกว่า กรณีนี้สงครามจะยืดเยื้อกินระยะเวลายาวนานออกไปอีก อาจจะอีกหลายปีเลยก็ว่าได้ สภาพบ้านเมืองของยูเครนคงจะไม่แตกต่างจากอัฟกานิสถาน จากประเทศที่เกือบรวยอยู่แล้วก็จจะกลายเป็นประเทศที่ล้มละลาย เพราะต้องให้หนี้ค่าอาวุธที่จัดหามาจากอเมริกาหัวโต ทรัพยากรของประเทศก็ต้องยกให้เขา ไม่สามารถเอามาทำมาหากินล้างหนี้ได้
Source: ycharts.com
กรณีหลังที่เกิดจากอเมริกาดูแล้วน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะพี่กันมองเห็นทรัพยากรอันล้ำค่าที่จะสามารถนำมาใช้ได้อย่างสบายใจจากยูเครน เพราะยิ่งรบรายได้ก้อนงามยิ่งเข้าประเทศ ทั้งจากการขายอาวุธและการบังคับขายพลังงานให้ยุโรป (ดูได้จากมูลค่าหุ้นของบริษัทค้าอาวุธและพลังงานของอเมริกา ที่เติบโตขึ้นหลายเท่าในช่วงเวลานี้ ทั้งที่เศรษฐกิจในประเทศซบเซา)
หากสงครามยุติลงไปยูเครนก็ต้องใช้หนี้คืนอเมริกาและพันธมิตร ดูแล้วก็ไม่น่าจะหาเงินคืนได้ คงต้องนำทรัพยากรและรัฐวิสาหกิจมาใช้หนี้แทน นอกจากสภาพบ้านเมืองจะไม่ต่างกับอัฟกานิสถาน สถานภาพทางการเงินก็คงไม่ต่างจากอาเจนตินาด้วย
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน แทบจะปฏิเสธ์ไม่ได้เลยว่า อเมริกามีส่วนที่ทำให้เกิดขึ้นด้วย จากการยั่วยุรัสเซีย ดูได้จากท่าทีและการปฏิบัติต่อรัสเซียทั้งก่อนหน้านี้และในปัจจุบัน
https://www.middleeasteye.net/opinion/russia-ukraine-war-invasion-madman-script-same
สงครามทั่วโลกจะเกิดอย่างเป็นประจำเมื่ออเมริกาได้คนที่เป็นนักการเมืองอาชีพมารับตำแหน่งผู้นำประเทศ เพราะคนกลุ่มนี้คิดได้เพียงว่าจะทำอย่างไรที่จะใช้อำนาจจากแสงยานุภาพทางการทหาร ทางการข่าวและสื่อในมือ มาแสวงหาผลประโยชน์ผ่านการค้าอาวุธและการเข้ายึดแหล่งพลังงานธรรมชาติทั่วโลก
1
หากจะลองสังเกตเราจะเห็นว่าในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง โลกเราแทบไม่มีสงครามเลยก็ว่าได้ ที่ยังมีอยู่ก็เป็นที่ๆมีการรบอยู่แต่เดิมแล้ว จะมีก็เพียงสงครามทางการค้าเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้อาวุธหรือกองกำลังทหารเข้าไปดำเนินการเป็นหลัก
นั่นก็เพราะว่าโดนัลด์ ทรัมป์ คือนักธุรกิจหรือพ่อค้า ความถนัดของเขาก็คือการใช้ความได้เปรียบของชั้นเชิงทางการค้ามาหาเงินเข้าประเทศ ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการให้เกิดการสู้รบอยู่แล้ว เนื่องมาจากจะเกิดความเสียหายในวงกว้าง ซึ่งอาจจะไม่สามารถควบคุมได้ สู้ใช้วิธีการแบบพ่อค้าดีกว่าทรัพยากรก็ไม่ถูกทำลาย ส่งผลให้ได้เงินในแบบที่ไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรและกำลังพล ดูแล้วจะได้มากกว่าการขายอาวุธและพลังงานด้วยซ้ำ
Source: ABC
หากเราดูดีๆเราจะเห็นว่าจีนให้วิธีทางการค้าในการขยายอำนาจไปทั่วโลก มากกว่าที่จะเลือกใช้กำลังทางการทหาร ทั้งที่จะทำก็ทำได้อยู่แล้ว
ยิ่งได้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มาบริหารประเทศ การค้าของโลกยิ่งจะเติบโต สงครามก็ยิ่งจะเล็กลง แต่เปลี่ยนมาเป็นสงครามทางการค้าแทน ซึ่งดูแล้วยังไงก็คุ้มค่ากว่าการก่อสงคราม
เมื่อมหาอำนาจเบอร์ 1 และ 2 ใช้กรอบคิดแบบพ่อค้า นอกจากจะทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติได้แล้ว สงครามทั่วโลกก็เบาบางลงไปด้วย หากเปลี่ยนจากโจ ไบเดน มาเป็นโดนัลด์ ทรัมป์
Source: The Scotsman
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา