24 พ.ค. 2022 เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
นำเงินไปลงทุน vs โปะหนี้ ควรเลือกอะไร ?
1
หลังจากที่เราเริ่มมีเงินเก็บออมประมาณหนึ่งจนสามารถนำไปบริหารจัดการต่อได้แล้ว สิ่งที่เป็นคำถามที่หลายคนให้ความสนใจมาก คือ ถ้าหากเรามีเงินก้อนหนึ่ง เราควรนำเงินไปลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย หรือนำเงินไปเคลียร์หนี้มากกว่ากัน
ถ้าหากเราเลือกที่จะนำเงินไปโปะหนี้สิน ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายที่เราจะไม่ได้มีโอกาสทำให้เงินงอกเงยในอนาคต หรือถ้าหากเลือกนำเงินไปลงทุนก็กลัวว่าจะมีความเสี่ยงในการขาดทุน แทนที่จะนำเงินไปเคลียร์ภาระหนี้สินก็จะสามารถจัดการลดภาระหนี้ได้แบบ 100%
2
เราลองมาดูและหาคำตอบกันดีกว่าว่า ทางเลือกในลักษณะนี้ เราควรนำเงินไปทำอะไรมากกว่ากัน
2
  • เริ่มต้นจาก เปรียบเทียบ “อัตราดอกเบี้ย” กับ “ผลตอบแทนคาดหวังจากการลงทุน”
โดยทั่วไปแล้ว คนเรามีเงินอย่างจำกัด เราจึงต้องบริหารให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้น เราจำเป็นต้องเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่าง 2 ทางเลือกว่า หากเรานำเงินไปจัดการหนี้สินเราจะได้ประโยชน์อะไร และหากเรานำเงินไปลงทุนเราจะได้ประโยชน์อะไรหากเรานำเงินไปจัดการหนี้สิน แน่นอนว่าเราก็จะสามารถ “ลดภาระดอกเบี้ย” ได้ในกรณีที่หนี้นั้นเป็นหนี้ประเภท “ลดต้นลดดอก (Effective Rate)”
แต่ถ้าเรานำเงินไปลงทุน สิ่งที่เราจะได้รับ คือ “ผลตอบแทนคาดหวัง (Expected Return)” จากการลงทุน เหตุผลที่ใช้คำว่าผลตอบแทนคาดหวังก็เพราะว่า การลงทุนมีความเสี่ยง แปลว่ามีโอกาสที่เราจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าคาด ต่ำกว่าคาดหรือเท่ากับที่คาดการณ์ไว้นั่นเอง
ในกรณีที่เราเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดหรือหนี้นอกระบบจำพวกนั้น อย่างที่เรารู้กันว่าหนี้เหล่านั้น มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ซึ่งการที่เราจะไปลงทุนแล้วให้ได้ผลตอบแทนระดับ 18% ขึ้นไปตลอดทุกปี
ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร ดังนั้น การนำเงินไปโปะหนี้เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เพราะถ้าเลือกนำเงินไปลงทุนให้ได้มากกว่าดอกเบี้ย จะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง โอกาสที่จะสูญเสียเงินลงทุนก็ยิ่งมีสูงเช่นกัน
แต่ถ้าหนี้ที่เรามีเป็นหนี้ที่มีการคิด “ดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate)” ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยจะสูงแค่ไหนก็ตามก็ไม่ควรจัดการเคลียร์หนี้ประเภทนี้ เพราะไม่ได้ทำให้ภาระดอกเบี้ยน้อยลงนั่นเอง
ในกรณีเป็นหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย เราสามารถทำการรีไฟแนนซ์เพื่อให้ดอกเบี้ยกลับเข้าสู่ช่วงโปรโมชั่นประมาณ 2-4% ต่อปีได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการนำเงินไปลงทุนในระยะยาวแล้ว ก็ดูเหมือนว่าการลงทุนจะดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะในระยะยาว การหาผลตอบแทนที่สูงกว่า 4% ต่อปี ยังสามารถทำได้ไม่ยากจนเกินไป
1
แต่สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่า การลงทุนจะช่วยสร้างผลตอบแทนได้หรือไม่ แนะนำว่าอาจจะใช้วิธีการแบ่งไปจัดการหนี้สิน และลงทุนพร้อมกัน เพื่อลดความเสี่ยงไปในตัวก็สามารถทำได้เช่นกัน
  • การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง
สิ่งสำคัญสำหรับการลงทุน คือ ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าสินทรัพย์ที่เราลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอย่างไร เพราะถึงแม้การลงทุนจะดูเหมือนได้ผลตอบแทนที่ดีและสูงกว่าดอกเบี้ยจากหนี้ในหลาย ๆ ประเภทก็ตาม
แต่การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ นั้นมักมีความเสี่ยงและความผันผวนตามมาด้วยเสมอ ทำให้เมื่อเวลาที่เราต้องการใช้เงิน และต้องการถอนเงินออกมาก่อนในช่วงเวลาฉุกเฉินนั้น เราอาจจะไม่ได้รับเงินหรือผลตอบแทนตามที่คาดหวังเอาไว้ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
โฆษณา