ทำไม ฟรังก์สวิส ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน สินทรัพย์ปลอดภัยของโลก
ในภาวะตลาดผันผวน นักลงทุนจำนวนมากจะย้ายเงินทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย
หรือที่เรียกกันว่า “Safe Haven” เพื่อปกป้องมูลค่าทรัพย์สินของตัวเองไว้
นอกเหนือจาก ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินดอลลาร์สหรัฐแล้ว
อีกหนึ่งสินทรัพย์ ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีความเสี่ยงต่ำเช่นกัน
คือ สกุลเงิน “ฟรังก์สวิส” ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แล้วทำไมฟรังก์สวิส ถูกยกให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปฝั่งตะวันตก เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
มีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยถึง 13 เท่า และมีประชากรเพียง 8.6 ล้านคน
แต่ถ้ามาดูในแง่ของเศรษฐกิจในปี 2020
ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้มี GDP มากถึง 26 ล้านล้านบาท
ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวสวิส เท่ากับ 3 ล้านบาทต่อปี
เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุด เป็นอันดับที่ 5 ของโลก
นอกจากความร่ำรวยระดับโลกแล้ว ฟรังก์สวิส ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ปลอดภัย ที่นักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่น และครอบครองเมื่อตลาดผันผวน
โดยปัจจัยที่ทำให้ฟรังก์สวิส เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีอยู่ 4 ข้อหลัก ๆ ด้วยกัน
นั่นก็คือ
1. ระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง และมีความน่าเชื่อถือ
ทำให้คนรวยทั่วโลก ฝากเงินอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นจำนวนมาก
นอกจากการเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมธนาคารแล้ว ธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังมีชื่อเสียงด้านการเก็บรักษาความลับของลูกค้ามายาวนานกว่า 300 ปี
อีกทั้งกฎหมายภาษีที่ไม่เข้มงวดกับผู้ที่นำทรัพย์สินมาฝากไว้ในธนาคาร รวมถึงภูมิประเทศที่เป็นภูเขาโอบล้อม กลายเป็นปราการธรรมชาติที่มีความปลอดภัย
ทำให้มหาเศรษฐีทั่วโลก ต่างโยกย้ายทรัพย์สินจำนวนมาก มาฝากไว้ที่ธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สะท้อนให้เห็นจากอุตสาหกรรม Private Banking ของธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการข้ามชาติกว่า 273 ล้านล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 4 ของสินทรัพย์กลุ่มนี้ทั้งหมดทั่วโลก เลยทีเดียว
2. ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น
- ประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกมาโดยตลอด
- อัตราการว่างงาน และอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำ
- ตัวเลขดุลการค้า ที่เป็นบวกมาตั้งแต่ปี 1984
- ประชากรมีการศึกษาในระดับสูง โดยเป็นอันดับ 1 จากการจัดอันดับโดยดัชนีความรู้โลก หรือ Global Knowledge Index (GKI) ในปี 2021
- เป็นอันดับ 1 ด้านนวัตกรรมจากการจัดอันดับโดย Global Innovation Index มาตั้งแต่ปี 2011
รวมถึงยังมีโครงสร้างรายได้ในรูปแบบของประเทศพัฒนาแล้ว โดยมีรายได้จากภาคบริการ
อย่างเช่น ธุรกิจการธนาคาร ธุรกิจประกันภัย และการท่องเที่ยว สูงถึง 71% ของ GDP
3. ความเป็นเอกภาพ และเสถียรภาพทางการเมือง
ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความมั่นใจให้กับเศรษฐีและนักลงทุนทั่วโลก
จากการที่ไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มสหภาพยุโรป ทำให้นโยบายทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความเป็นเอกภาพ ไม่เชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญกับยุโรป
อีกทั้งการเมืองภายในที่มีเสถียรภาพ โดยตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญเป็นของตัวเองในปี 1848 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่เลย
ซึ่งในปี 2021 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากที่สุดในโลก
จากการจัดอันดับโดย Wharton School จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
4. ปัจจัยสุดท้ายคือ สถานะความเป็นกลางของประเทศ
ในอดีตประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในชาติยุโรปที่มีความแข็งแกร่ง และเชี่ยวชาญในการสงครามเป็นอย่างมาก
แต่จากการพ่ายแพ้สงครามต่อฝรั่งเศสในปี 1515 ก็ได้ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจละทิ้งนโยบายการทำสงคราม และพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับชาติอื่น ๆ มาโดยตลอด
จนกระทั่งในปี 1815 ในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนา เพื่อจัดระเบียบทวีปยุโรปขึ้นมาใหม่นั้น
ก็ได้มีความเห็นร่วมกัน และประกาศให้สวิตเซอร์แลนด์มีสถานะ
เป็นประเทศ Perpetual Neutrality หรือก็คือ “เป็นกลางตลอดไป”
ด้วยความที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทวีปยุโรป จึงสามารถที่จะเป็นรัฐกันชนระหว่างฝรั่งเศสและออสเตรียได้
ดังนั้น การที่สวิตเซอร์แลนด์มีสถานะเป็นกลาง จึงสามารถช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับทวีปยุโรปได้ด้วยเช่นกัน
จากสถานะความเป็นกลาง ไม่เลือกข้างในภาวะสงครามนี้เอง ทำให้หลากหลายประเทศต่างเชื่อใจที่จะเก็บรักษาทรัพย์สินของตัวเอง และถือครองเงินฟรังก์สวิสไว้เป็นสินทรัพย์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนล่าสุด การที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ประกาศแช่แข็งทรัพย์สินของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมถึงตอบรับมาตรการของกลุ่มสหภาพยุโรป
ก็ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงสถานะความเป็นกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีมากว่า 207 ปี
แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นการปกป้องลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคาร เพราะหากไม่แบนรัสเซีย ธนาคารต่าง ๆ ในประเทศอาจถูกตรวจสอบมากขึ้น เกี่ยวกับทรัพย์สินของประธานาธิบดีปูติน และลูกค้าคนอื่น ๆ ก็อาจจะโดนตรวจสอบไปด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมฟรังก์สวิส
ถึงสามารถเก็บรักษาความมั่งคั่ง และเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ปลอดภัยที่ทั่วโลกยอมรับมาอย่างยาวนาน
แต่ทุกการลงทุน ย่อมมีความเสี่ยงอยู่ควบคู่กัน
และคำว่าปลอดภัย ก็ไม่ได้หมายความว่า ความเสี่ยงจะเท่ากับศูนย์
อย่างน้อยก็สำหรับเศรษฐีรัสเซียหลายคน
ที่ปัจจุบัน ยังไม่สามารถถอนเงินของตัวเอง ออกจากธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้เลย..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
References
- 59
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
