สรุปประเด็นที่น่าสนใจ : CareTalk x CareClubhouse
เปิดใจโทนี่ เบื้องหลังรัฐประหารที่ไม่เคยเล่า
ก็อย่างที่เรารู้กันว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นวันครบรอบแปดปีรัฐประหาร
ที่นำโดย พลเอก ประยุทธ์
เข้ายึดอำนาจของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในวันนี้ทางกลุ่ม Care จึงเชิญคุณโทนี่มาพูดถึงเบื้องหลังการรัฐประหารที่ตนเคยเจอเมื่อในอดีด
จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไปอ่านกันครับ
มุมมองคุณโทนี่ต่อการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
คุณโทนี่ให้ความเห็นต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมาว่าเป็นปรากฎการณ์ที่น่าเหลือเชื่อนอกจากเรื่องที่คุณชัชชาติได้คะแนนแบบถล่มทลายแล้วยังมีอีกเรื่อง คือเรื่องการซื้อเสียง
คุณโทนี่บอกว่าได้ยินข่าวมาว่ามีบางคนหรือบางพรรคซื้อเสียงเป็นเงินจำนวนมากกว่าหัวละ 1,000 บาท แต่พรรคหรือคนที่ซื้อเสียงได้คะแนนน้อยมาก
แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ต่อให้มีเงินก็ซื้อคนไทยไม่ได้แล้ว คนไทยหันมาสนใจประชาธิปไตยและปากท้องกันมากกว่าสนใจเงินจากนักการเมืองแล้ว (รับตังแต่ไม่เลือก)
หาทางออกในวิกฤตอาหาร
คุณโทนี่ฝากถึงรัฐบาลว่าตอนนี้ทั่วโลกต่างกำลังเผชิญกับวิกฤตอาหาร แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอาหาร อยากให้รัฐบาลตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อจัดการกับเรื่องนี้ ทำยังไงให้ไทยไม่ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ
เร่งช่วยเกษตรกรในการพยุงราคาต้นทุนและผลผลิตอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นมันจะพังลงทั้งระบบ
ก่อนการเกิดรัฐประหาร
การปฏิวัติรัฐบาลของคุณโทนี่มีขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่คุณโทนี่บอกว่าสัญญาณการปฏิวัติมันมีก่อนหน้านั้นแล้วนั่นคือการที่ตนถูกรอบสังหารโดยทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ
การรอบสังหารครั้งแรกที่ลำปาง วันนั้นคุณโทนี่มีคิวไปปราศัยที่จังหวัดลำปางและที่นั่นมีมือสไนเปอร์ซุ่มรอคุณโทนี่อยู่ แต่คุณโทนี่เปลี่ยนแผนไปเชียงรายกระทันหันเลยรอดไป
การรอบสังหารครั้งที่สองที่สนามหลวง วันนั้นเป็นวันปราศัยใหญ่ของพรรค คุณโทนี่บอกว่ามือสไนเปอร์พยายามจะซุ่มยิงคุณโทนี่จากตึกของคณะรัฐศาสตร์จากมหาลัยแห่งหนึ่ง แต่โชคดีที่วันนั้นตนขึ้นปราศัยเร็วเพราะมีงานต่อและบนตึกเรียนก็มีนักศึกษาเดินผ่านไปผ่านมาเยอะ ทำให้มือสไนเปอร์ไม่สามารถตั้งปืนได้
การรอบสังหารครั้งที่สาม คาร์บอม ครั้งนั้นรถยนต์ยี่ห้อฮุนไดได้ไปจอดดักคุณโทนี่ที่สนามบินแต่บอร์ดี้การ์ดของคุณโทนี่ได้รับแจ้งข่าวมาก่อนจึงบอกให้คุณโทนี่เปลี่ยนเส้นทางเดินรถ
คุณโทนี่บอกต่อว่า ได้พยายามให้คนขับรถขับวนๆดูว่ารถฮุนไดต้องสงสัยอยู่ที่ไหนและเป็นของใคร สุดท้ายไปเจอรถต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร)
การรอบสังหารครั้งที่สี่ รถยนต์ฮุนไดคันดังกล่าวมาจอดไว้บริเวณบ้านของคุณโทนี่ แต่ตำรวจที่ดูแลคุณโทนี่อยู่จำรถคันดังกล่าวได้จึงทำการโทรเรียกตำรวจคนอื่นๆที่คุ้มกันบ้านออกมาปิดล้อมและตรวจค้นรถคันดังกล่าว
พบว่าท้ายรถเต็มไปด้วยระเบิด C4 และ TNT ก็คือถ้าระเบิดก็หายไปทั้งแถบเลย
หลังจากนั้นก็มีการจับกุมและมีคนมาสารภาพกับคุณโทนี่ว่า เหตุการณ์ทุกอย่างถูกวางแผนโดยนายพลระดับสูงคนหนึ่ง นายพลคนนั้นวางแผนที่จะฆ่าคุณโทนี่ให้ได้ เพราะถ้าฆ่าคุณโทนี่ไม่ได้การปฏิวัติก็จะต้องเกิดขึ้น
และหากเกิดการปฏิวัติพวกเขาก็วางตัวหมากไว้แล้วว่าใครจะขึ้นเป็นนายกฯ และก็เป็นตามนั้นจริงๆ //เรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามาเกิดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคม 2549
คุณโทนี่ยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดเป็นความจริง
และได้อัดเสียงทุกคนที่มาสารภาพไว้หมดแล้ว
ที่ไม่เอามาเผยเพราะเห็นแก่บ้านเมืองไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย
แต่ถ้าวันหนึ่งต้องใช้หลักฐานพวกนี้จริงๆก็พร้อมที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ
วันที่เกิดรัฐประหาร ตอนนั้นคุณโทนี่ไปร่วมงานที่สหรัฐหลังจากที่รู้ว่าเกิดรัฐประหารตนจึงจะขอให้เครื่องบินของการบินไทยไปส่งตนที่อังกฤษ
แต่ปรากฎว่าเครื่องบินของการบินไทยไม่ยอมขึ้นบินเพราะได้รับคำสั่งจากคณะรัฐประหารในขณะนั้นว่าห้ามขึ้นบิน (กลัวคุณโทนี่กลับกรุงเทพฯ) คุณโทนี่ใช้เวลาเจรจาสักพักและยืนยันว่าจะไม่กลับไทยแน่ๆ จะไปอังกฤษ ทางคณะรัฐประหารจึงอนุญาตให้ขึ้นบิน
มิตรภาพของผู้นำประเทศ
ในวันที่เกิดการรัฐประหารขึ้นอย่างที่บอกว่าตอนนั้นคุณโทนี่อยู่สหรัฐ หลังจากที่ผู้นำประเทศต่างๆได้รับรู้ว่าคุณโทนี่ถูกทหารปฏิวัติ พวกเขาหลายคนก็สายตรงมาหาคุณโทนี่ทันที
คนหนึ่งบอกว่า ฉันมีเครื่องบินส่วนตัวจอดอยู่ที่ xxx นายสามารถเอาไปใช้ได้เลยนะฉันติดต่อหานักบินไว้ให้แล้ว นายสามารถเอาไปที่ไหนก็ได้ในโลกนี้
อีกคนบอกว่า จะให้ช่วยเดินเรื่องหรือจัดการปัญหานี้ให้ไหม
แต่ตนห่วงความปลอดภัยของลูกและภรรยาที่อยู่ประเทศไทยจึงทำการปฏิเสธไป
และคุณโทนี่ยังบอกอีกว่า ตนได้สายตรงไปหา
พลเอก วินัย (พ่อคุณสกลธี) มีการพูดคุยกันว่าห้ามให้ทหารของคณะปฏิวัติแม้แต่คนเดียวเข้าไปค้นบ้านของตนและห้ามยุ่งกับลูกและภรรยาของตนเด็ดขาด
ไม่อย่างนั้นทหารที่เฝ้าบ้านคุณโทนี่ก็จะทำการยิงสวนทันที และสุดท้ายก็ไม่มีทหารของคณะปฏิวัติเข้าไปในบ้านของคุณโทนี่แม้แต่คนเดียว
และทิ้งท้ายว่าบ้านเมืองจะสงบมันไม่มีทางจบที่ทหาร
แต่มันจะจบก็ต่อเมื่อบ้านเมืองมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเท่านั้น ..
ขอบคุณข้อมูลและรับชม/รับฟังเพิ่มเติมได้ที่
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
