#เตือนจับตาดู #ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ
ความ 'โค' ยังไม่ทันหาย ความ 'ใหญ่' กำลังจะเข้ามา
ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ดูเหมือนจะทรงตัว บ้านเมืองเริ่มเปิดแล้ว การเดินทางเริ่มทำได้แล้ว ที่สำคัญ 'โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว' เด็ก ๆ ไปโรงเรียนและทำกิจกรรมคล้ายสภาพปกติเมื่อเกือบสามปีก่อนได้แล้ว ยกเว้นเพียงมาตรการการป้องกันการติดเชื้อที่ยังใช้กันอยู่
สิ่งที่เป็นผลพวงที่ตามมากับมาตรการกินร้อน ช้อนกู ถูมือ ถือตัว และสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการเรียนออนไลน์-ออนไซต์ ปิด ๆ เปิด ๆ มานานก็คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นลดลงอย่างมาก
โรคมือเท้าปาก การติดเชื้ออาร์เอสวี โรคเฮอร์แปงไจน่า และแน่นอน โรคประจำถิ่นของทุกพื้นที่ในโลกนี้อย่าง 'โรคไข้หวัดใหญ่' ทั้งสายพันธุ์ เอ และ บี ลดลงอย่างมากจนถึงขนาดที่ไม่ได้ยินชื่อมาสักระยะแล้ว ว่าไหมครับ (อนึ่งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C อาการไม่รุนแรงและไม่แพร่ระบาดในวงกว้าง ส่วนสายพันธุ์ D ก่อโรคในวัวควายเป็นหลัก เลยไม่ได้ยินสายพันธุ์ซีและดีนัก)
เอาล่ะ ... วันนี้ก็แค่จะบอกว่า
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มาแล้วนะฮะ
ทั้งหมออายุรกรรม และหมอเด็กบางพื้นที่อย่างภาคตะวันออกและภาคกลางเริ่มบอกกันแล้วว่า "มันกำลังจะกลับ" เริ่มมีเคสไข้หวัดใหญ่กลับเข้ามาใน รพ. กันแล้ว และไม่แน่ใจว่ามันจะกลับมาทวงศักดิ์ศรีความเป็นโรคประจำถิ่นของมันหรือเปล่า เหอะ ๆ
หากใครมีลูกอายุราว 3-5 ขวบ หลายคนคงพอทราบฤทธิ์เดชของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ ดีว่าลูกนั้นยมแค่ไหน ทั้งไข้สูง ทั้งปวดเมื่อยตามตัว เด็กเล็กอาจกินไม่ได้เบื่ออาหารเยอะ (พูดไทยทุกคำเนาะ)
สิ่งที่ต้องรู้คือ #เด็กยิ่งเล็กอาการยิ่งเยอะ (ต่างจากเจ้าโควิดที่เด็กเล็กอาการน้อย) โดยเฉพาะในเด็กเล็กต่ำกว่า 1 ปี บางคนอาจจะมีแต่ไข้อย่างเดียวก็ได้ โดยไม่ต้องมีไอจามน้ำมูกนะครับ บางคนอาจจะบ่นว่า #ปวดหูและมีอาการตาแดง ก็ได้ และที่สำคัญไข้ที่สูงจากไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการ #ชักจากไข้สูงได้
#ภาวะแทรกซ้อน - หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ ไอเสียงก้อง (croup) ปอดบวม (pneumonia) หรืออาจลงปอดแล้วมีเสียงวี๊ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบ (bronchiolitis) ก็ยังได้ กลุ่มคนที่น่ากังวลที่สุดก็คือ #เด็กเล็กต่ำกว่า2ขวบที่มีโรคประจำตัว และ #คนสูงอายุที่มีโรคประจำตัว
การรักษาเน้นตามอาการก่อน คือ กินพาราเซตามอลลดไข้ ดื่มน้ำ/นมให้มาก กินข้าวเท่าที่กินได้ อย่าให้ขาดน้ำ นอกจากนั้นก็คือ การได้ยาต้านไวรัสตามข้อบ่งชี้ (ข้อดีคือมียาเฉพาะในการรักษาไข้หวัดใหญ่นี่แหละ)
และเรื่องสุดท้ายที่จะบอกก็คือ
ตั้งแต่ 1 พ.ค. - 31 ส.ค. 65 ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง* ไปรับวัคซีนฟรีได้ที่ รพ. รัฐใกล้บ้านได้เลยตามสิทธิ์ ส่วนผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงและคนอื่น ๆ ก็สามารถไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่ รพ. หรือคลินิกใกล้บ้าน (อันนี้จ่ายเงินกันเองนะครับ) วัคซีนตอนนี้คือ วัคซีนสายพันธุ์ขั้วโลกใต้ (Southern Hemisphere Influenza Vaccine) สำหรับปี 2022 นี้ครับ รายละเอียดสอบถามที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้นะจ๊ะ
#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ
ปล. สั่งหนังสือของหมอวินทั้ง 5 เล่มได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ หรือที่
อินบอกซ์ http://m.me/tamjaimorbooks
A. เลี้ยงลูกให้กินง่าย แก้ไขเด็กกินยาก * ((เล่มล่าสุด))
B. อย่าปล่อยให้พ่อแม่รังแกฉัน (การเลี้ยงลูกเชิงบวก)
C. เลี้ยงลูกทางสายกลาง (คู่มือการดูแลเด็กเล็ก)
D. เส้นทางสายนมแม่
E. เลี้ยงลูกให้ไกลโรค (ความรู้เรื่องสุขภาพ อาการ โรคและยาในเด็ก
*กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 2 ปี ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน คนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป
โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
