Andrew Bridge ชายที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นประตูแห่งความหวังสำหรับเด็กที่ถูกอุปถัมภ์ เนื่องจากในอดีต Andrew ใช้เวลา 11 ปีในระบบอุปถัมภ์ ที่ซึ่งทำให้เขาต้องถูกคุมขังอยู่ในศูนย์เด็ก MacLaren ในลอสแองเจลีสเคาน์ตี้ สถานที่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสถานที่ที่มีการปฏิบัติต่อเด็กรุนแรงมากเกินไป ทว่าหลังจากนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ต้องปิดตัวลงตามคำสั่งศาล .
ชีวิตหลังจากนั้น......Andrew ได้รับทุนการศึกษาให้เข้าเรียนที่ Wesleyan University และกลายเป็นนักวิชาการของ Fulbright Scholar
ซึ่งเป็นทุนการศึกษาแบบให้เปล่าจาก Rockefeller Foundation Bellagio Resident, Stueben Schultz Gesellschaft Scholar เขาจึงสามารถเข้าเรียนต่อที่ Harvard Law School จนจบการศึกษาได้
การศึกษา
และภายใต้การนำของ Andrew วันรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาจึงเกิดขึ้น นอกจากนี้ Andrew ยังเข้าร่วม Broad Foundation เพื่อกำหนดขอบเขตด้านการเงิน การดูแลในบ้านอุปถัมภ์ของรัฐบาลกลาง ลอสแองเจลีสเคาน์ตี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการระดมทุนสนับสนุนเด็ก ๆ เพิ่มมากขึ้น
Andrew เริ่มต้นอาชีพนักกฎหมายจากการเป็นตัวแทนของเด็ก ๆ ในโรงพยาบาลจิตเวชของรัฐแอละแบมา และสถานบริการด้านสุขภาพจิตภายใต้การดำเนินการระดับรัฐบาลกลางในเมือง Wyatt v. Poundstone
ส่วนงานที่ Broad Foundation เขาก็ยังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐอิลลินอยส์เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ต่อไป
ผู้อาวุโส
ทว่าระหว่างที่ทำงานเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน The New Village Charter School for Girls ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์แห่งแรกของแคลิฟอร์เนีย Andrew ก็ต้องพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรงมะเร็ง
ปัจจุบัน Andrew Bridge เป็นนักเขียนหนังสือขายดีอย่าง Hope's Boy เป็นทนายความ เป็นกรรมการบริหารของ New York Times Best Selling ของ Alliance for Children's Rights และผู้อำนวยการมูลนิธิ Diane & Bruce Halle ซึ่งอุทิศตนเพื่อความก้าวหน้าทางศิลปะและการพัฒนาชีวิตให้ที่ดีขึ้นสำหรับผู้หญิง เด็ก และผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ