25 พ.ค. 2022 เวลา 07:34 • ปรัชญา
การเกิด..คนเราได้กายพ่อแม่มา ..ก็ต้องมาหัดเรียนรู้กันใหม่ เริ่มต้นกันใหม่ ไปเกิดตรงไหนมุมไหน ในป่าในเขา ชาตินั้นชาตินี้ คนดำคนขาว ก็ต้องเรียนรู้จัก ภาษาพูด อาหารการกินไปตามถิ่นที่อยู่อาศัย ถ้าหูมันหนวก ตาบอด จะเรียนรู้ยังไง
คนที่เกิดมาเพียบพร้อมด้วยอาการ สามสิบสอง ก็ค่อยเรียนรู้ขึ้น ค่อยรู้จักเรื่องราวต่างๆ เหตุผลอะไร มากขึ้น ที่เด็กมักมีคำถามนั้นอะไร นี่อะไร ทำไมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมพูดอย่างนี้แบบนี้ไม่ดี ไม่เพราะ ทำอย่างนี้ เรียกว่ามีมารยาท ทำไมต้องทำความสะอาด แปรงฟัน
มีคำถามมากมายที่เด็กต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิต ที่เป็นพื้นฐานในการใช้กายไปทำมาหากิน เสาะแสวงหาหาปัจจัยร่วมกับผู้อื่นที่เกิดมาในโลก ที่ต้องดิ้นรน เสาะแสวงหามาดำเนินชีวิต บางคนเรียนรง่าย บางคนก็เรียนรู้อยาก ก็มีการเรียนการสอนตามๆกันไป ในเรื่องของการทำมาหากิน ทรัพย์สมบัติเงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ ยศฐานบรรดาศักดิ์ ทำอย่างไรจะได้ในสิ่งเหล่านั้น ก็มีคนที่สมหวัง ไม่สมหวัง ตามที่ใจปรารถนา อยากได้.
คราวนี้ ..มันมีอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เรื่องราว ของการสร้างบุญสร้างกุศลบารมี ที่เป็นเรื่องราว ของคำว่า กาย อารมณ์ จิต คนเรานั้น ยากที่จะรู้จักกายตน ยากที่จะรู้จักอารมณ์ ยากที่จะรู้จักจิตของตน มันเป็นเรื่องราวที่ยากมาก ที่เราจะรู้จักจิตของตนเอง เพราะมันมีเรื่องราว ของคำว่า กรรม ..กรรมที่คอยปกปิดจิต เป็นลักษณะของอารมณ์นึกคิดอะไรต่าง ความยึดถือต่างๆ ที่จิตเรายึดถืออยู่
เคย..คุยกันเล่น ..ว่า รู้จักคำว่าจิตมั้ย จิตอยู่ตรงไหน ในร่างกายนี้ ใครก็พูดได้ คำว่าจิต ..แต่ก็ไม่มีใครรู้จักน่ะ นิสัย ตัวตนของจิต เพราะมันอาศัยอยในกายของแต่ละคน ที่จุติมาอาศัยกายพ่อแม่อย เมื่ออยากจะรู้จักจิต รู้จักตนเอง..ที่แท้จริง ว่าเป็นผู้มาอาศัยเรือนกายนี้อยู่ จิตเราตัวเราเป็นผู้ใช้เรือนกายนี้อยู่
เมื่อเราจะค้นตน ค้นจิตของตน ก็ค้นที่กายนี้ ในเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น เค้าเพียงแต่บอกว่า ให้ประพฤติปฏิบัติธรรมขึ้นน่ะ สร้างบุญสร้างกุศลด้วยตัวเราเองน่ะ ฝึกหัดให้รู้จักคำว่าสติของจิตน่ะ จิตเรามันยังอ่อนอยู่น่ะ อารมณ์เค้าอยู่เหนือจิตเราน่ะ เค้าก็เพียงแต่ชี้ให้ ให้เราไปประพฤติปฏิบัติธรรมขึ้นเอง
เค้าเพียงแต่แนะนำ เค้าไม่ได้บอกให้เชื่อ เชื่อแล้วไม่ทำมันไม่มีประโยชน์อะไร มันจึงอยู่..กับเหตุผลที่ผู้รับฟังจะพิจารณา..เอง ..ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่นเรื่องอารมณ์นึกคิด มันไม่ใช่เรื่องที่จิตจะไปยึดถือ จริงจัง .
เราเป็นผู้อาศัยกายนี้เท่านั้น ..ใครๆก็พูดได้ทั้งบ้านทั้งเมือง แต่หาคนที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมให้จิตของตน เข้าไปถึง ..ความจริง..ที่พูดอุปโลกน์กัน ..ความจริงนั้นคือ อะไร
ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยจิต ของตนเท่านั้นที่จะเป็นผู้ที่ตอบคำถามเหล่านี้ให้แก่จิตของตนได้ ว่าทำไมต้องเกิด ทำไมถึงเกิด ทำอย่างไรจะไม่เกิด มันจะค่อยประจักษ์ด้วยจิตของตน ว่าจิตของตนอยู่ในขั้นตอนไหน ..แล้วจะต้องทำอย่างไร เพื่อหยุดเกิด
โฆษณา