Preview ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค 2021/2022 ระหว่าง ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ความพร้อมของนักเตะลิเวอร์พูล
- ●ฟาบิญโญ่ และ โกเมซ สามารถซ้อมกับเพื่อนๆคนอื่นๆได้แล้ว และคาดว่าจะได้ลงสนามในนัดชิงนี้
- ●ส่วน ติอาโก้ ยังต้องซ้อมแยกกับเพื่อนๆ คาดว่าน่าจะยังไม่พร้อมลงสนามแต่อาจจะมีชื่อสำรอง
- ●โม ซาล่าห์ และ ฟานไดจ์ พร้อมสำหรับเกมในค่ำคืนนี้ หลังจากได้พักจากเกมก่อนๆ
- ●ส่วน3แนวหน้าคาดว่า ฟีร์มีโน่ และ โชต้า น่าจะยังต้องอยู่ในม้านั่งสำรอง
ความพร้อมของนักเตะ เรอัลมาดริด
- ●ดาบิด อลาบา ไม่ได้ลงแข่งขันจาก6นัดหลังสุดด้วยอาการบาดเจ็บ สื่อคาดว่าอาจจะต้องใช้ Nacho ลงตัวจริง
- ●กามาแวงกา มีผลงานน่าประทับใจในเกมที่ผ่านมา แต่คาดว่า โทนี่โครสน่าจะได้ชื่อเป็นตัวจริง
- ●โรดรีโก เป็นส่วนหนึ่งในการเข้ารอบของเรอัลมาดริด ผลงานน่าประทับใจ แต่คาดว่า ตัวจริงอาจจะใช้เป็น บัลเบเด้
คาด 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
วิเคราะห์
ส่วนตัวผมคิดว่าในเกมนัดชิงชนะเลิศแบบนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด สามารถจบภายใน 90 นาทีได้เลยมั้ย ในเกมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกดดันแบบนี้ แต่คาดว่าลิเวอร์พูลจะมาด้วยแพชชั่นบางอย่าง ที่พวกเขานั้นเคยพ่ายให้เรอัลมาดริดใน ปีนัดชิงชนะเลิศที่พบกับเรอัลมาดริด 2018 เกมในวันนั้นลิเวอร์พูลแพ้ให้กับเรอัลมาดริด 3-1
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ลิเวอร์พูล มีแผลในใจ ที่ส่งผลมาถึงนัดนี้ที่หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เกมในครั้งนั้น กุนซือของมาดริด เป็น ซีดาน ส่วนนักเตะหลายๆคนในทีมชุดนั้นก็ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนของลิเวอร์พูล นักเตะที่เล่นในวันนั้นยังอยู่กันหลายคน ทำให้ในเกมคืนนี้จะเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลมีแพชชั่นอย่างมากเลยครับ
ส่วนเส้นทางของทั้งสองทีม ต้องบอกว่า มาดริดพลิกชะตามาได้หลายหน ทั้งพลิกเอาชนะ ปารีส พลิกเอาชนะ เชลซี รวมถึง พลิกกลับมาชนะแมนซิตี้มาได้ นั่นถือว่าเป็นคาแรกเตอร์ของทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของเรอัลมาดริดหรือเจ้าแห่งยุโรป
ส่วนเส้นทางของลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะง่ายกว่าแต่จริงๆแล้วก็หืดจับอยู่เหมือนที่ เยอร์เก้นคล็อปป์ต้องแก้เกมในครึ่งหลังในเกมที่เจอกับ บียาร์เรอัล นั่นก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของคล็อปป์ที่สามารถแก้เกมได้ดีในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ถ้าจะให้อธิบายว่าเกมนัดนี้จะจบลงยังไง ก็คิดว่า ลิเวอร์พูลนั้นมีจุดนึงที่เหนือกว่านั่นก็คือ ทรัพยากรนัดเตะนั้นดูได้เปรียบกว่า มีตัวที่จะลงมาแก้เกม รูปแบบการเล่นของลิเวอร์พูลนั้นมีความดุดันในเชิงรุกมากกว่า แต่มาดริดเองก็สามารถขจัดความกดดันได้ดีและคนที่อันตรายมากที่สุดก็คงเป็น F1 อย่างคาริมเบนเซมา
คาริมเบนเซมา ในรายการยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค ลงเล่น11นัด 15 ประตู 2 แอสซิส ในวัย 34 ปีแต่ยังคงความอันตรายได้ขนาดนี้นี่ถือว่าเป็นศูนย์หน้าระดับโลกอย่างแท้จริง และลิเวอร์พูลอย่าปล่อยให้เขานั้นง้างเท้ายิงแม้แต่ครั้งเดียวเลยแหละครับ
เกมในค่ำคืนนี้จะเป็นเกมที่สนุกและคุณภาพอย่างแน่นอน จะต้องมีช่วงพลิกไปพลิกมาส่วนจะมีดราม่าเกิดขึ้นมั้ยนั้นต้องมารอดูกันครับ
ขอฟันธงในเกมค่ำคืนนี้ ลิเวอร์พูล สามารถแก้แค้นได้ 2-0 และจะเป็นถ้วยใบที่3 ของลิเวอร์พูลในฤดุกาล 2021/2022 ครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
