Ukraine.. พวกเรารักคุณนะ แต่.. ไม่มากพอที่จะเอาคุณเข้าก๊วน ...นั่นคือความรู้สึกจากใจชาว EU ที่แสดงออกได้มากที่สุดขณะนี้
คำว่ารักคงยังไม่พอ...วาทะประชดประชันแบบนี้ แม้อาจจะดูตลก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทาง EU ให้ได้มากที่สุดในขณะนี้ และ ทางยูเครนก็คงจะรับรู้ถึงความจริงใจของกลุ่ม EU ที่มีมากขนาดไหน ในช่วงที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่มีปฏิบัตืทางการทหารพิเศษจากรัสเซียที่มีต่อยูเครนเป็นปฏิบัติการทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ความพยายามช่วงชิงความได้เปรียบของทาง EU ต่อสงครามนี้ทั้งการช่วยเหลือทางอาวุธ และการล้อมรัสเซียด้วยการ Sanction นับวันยิ่งดูเสียเปรียบและเริ่มขาดทุนไปเรื่อยๆ
เมื่อวันที่ 8 เมษายน President of the European Commission Ursula von der Leyen ประธานกรรมาธิการสหภาพ EU ได้เข้าไปที่กรุงเคียฟเพื่อพบประธานาธิบดี Zelensky รับไปสัญญาปากเปล่ากับทางยูเครนว่าจะทำ fast track ให้เพื่อให้ยูเครนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ EU
ทางประธานาธิบดีสหภาพ EU ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า " ท่านโวโลดิเมียร์ สิ่งที่ชัดเจนที่ฉันจะสื่อสารในวันนี้คือ ยูเครนเป็นครอบครัวและส่วนหนึ่งของ EU "
Dear Volodymyr, my message today is clear: Ukraine belongs in the European family
President of the European Commission Ursula von der Leyen
ข้อความชัดเจนขนาดนี้ทำให้ทางประธานาธิบดียูเครนค่อนข้างมั่นใจในสถานะของตนเองและมั่นใจในความช่วยเหลือที่ท่านอียูจะมีมาให้กับทางยูเครน
แต่ภายหลังจากนั้นไม่นาน ความมั่นใจและความฝันของทางยูเครนกำลังจะสอ่แววมีปัญหา German Chancellor Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีของเยอรมัน ประกาศดับฝันของทางยูเครน เรื่อง fast track ของทางยูเครนนั้นดูจะไม่แฟร์กับทางประเทศในเขตตะวันตกคาบสมุทร Balkan ที่พวกเขารออยู่หน้าประตูมาหลายปีแล้วยังไม่ได้เข้าเลย
มันไม่มีหรอกนะทางลัดสำหรับการเข้ามาเป็นสมาชิก EU เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาหลายปี ในการพิจารณา
ต่อด้วย French president Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาย้ำอีกทีหลังจากนั้นว่าต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการพิจารณาเรื่องนี้อย่าเอาเรื่องนี้มาด่วนสรุป
Emily Channell-Justice, ผู้สันทัดกรณีโดยเฉพาะเกี่ยวกับทางด้านยูเครนใน Havard ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอรู้สึกผิดหวังแต่ก็เข้าใจและไม่แปลกใจ เธอแสดงความผิดหวังว่าอย่างน้อย EU น่าจะช่วยแสดงความจริงใจในการที่จะช่วยเหลือทางยูเครนเพื่อจะให้เข้ามาในสหภาพ EU ให้มันมากกว่านี้
แต่อย่างที่ทางนายกรัฐมนตรีโอลาฟของทางเยอรมันกล่าวไว้ว่า 6 ประเทศเหล่านี้เขาใช้เวลานานมากในการพยายามจะปรับปรุงโครงสร้างทุกอย่าง เพื่อให้ตรงตามความสิ่งที่ควรจะเป็นก่อนที่จะมาเป็นสมาชิกภาพของ EU
และยังกล่าวเพิ่มอีกว่ามันไม่ใช่เป็นเพียงแค่เครดิตของทางสหภาพ EU ที่รับปากและสัญญากับประเทศกลุ่มนี้แค่นั้น สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อบูรณาการโครงสร้างต่างประเทศให้เข้ากับความสนใจทางด้านกลยุทธ์ของเราด้วย คือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราใส่ใจคือเหตุการณ์ต่างๆทั้งหมดก่อนที่มาเป็นสมาชิกภาพของสหภาพ EU
จริงๆแล้วเรื่องยูเครนจะเข้าไปในสหภาพ EU นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะว่ามีการทำงานร่วมกันมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว
ทาง Emily Channell-Justice กล่าวว่า จริงๆแล้วเรื่องปัญหาการแซงคิว ก่อนอีก 6 ประเทศที่กำลังรอเข้าสหภาพ EU อย่าง Albania, Bosnia, Serbia, Montenegro, North Macedonia and Kosovo ควรจะเข้าใจว่าสถานภาพที่เป็นอยู่และความจำเป็นของยูเครนว่าทำไมต้องเข้าสหภาพEU ด้วย fast track ทุกคนทราบเหตุผลดีอยู่แล้ว และคงไม่ออกโรงโต้แย้งแน่ๆ
เธอเสริมว่าจริงๆแล้วก็คงรู้สึกผิดหวังจริงๆกับเรื่องนี้ จริงๆแล้ว เรื่องการเข้ามาเป็นสมาชิกภาพของสหภาพ EU ถูกจับเป็นประเด็นในยูเครนตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ที่ผ่านมาช่วงปี 2014 กระแสเรื่องการเข้าสหภาพ EU ในยูเครนก็เป็นกระแสมากขึ้นและพวกเขาก็พยายามเริ่มต้นในการทำงานและปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานของการสมัครเข้าสหภาพ EU
เธอย้ำว่า .. ประชาชนของพวกเขาต้องการเข้าสหภาพ EU ก็เพื่อโอกาสในชีวิตของพวกเขาที่ดีขึ้น ความตั้งใจในการที่จะสามารถหางานที่ดีขึ้น โอกาสในธุรกิจในชีวิตที่ดีขึ้นจากการเข้ามาเป็นสมาชิกของสหภาพ EU ประชาชนชาวยูเครนไม่ได้ต้องการอะไรเกี่ยวกับการเมืองเลย พวกเขาเพียงแค่ต้องการชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น
หากพวกคุณมองในมุมนี้พวกคุณจะรู้สึกเลยว่าสิ่งที่สหภาพ EU กำลังทำต่อยูเครนนั้นค่อนข้างที่จะโหดร้ายมาก ทางยูเครนเหมือนถูกทาง EU หลอกลวงมาตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะทางกลุ่ม EU ได้สร้างความมั่นใจก่อนที่ทาง Zelensky จะทำการตัดสินใจในการคว่ำการเจรจาในช่วงแรก
เพราะถ้าหากทางยูเครนรู้ว่าตัวเองจะถูกหักหลัง วิธีการเจรจากับทางรัสเซียในช่วงแรกของสงครามนั้นอาจจะไม่เป็นแบบนี้ และผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะไม่เป็นแบบนี้
ในส่วนนี้ทาง EU ก็ได้แจกแจงออกมาว่า ถึงแม้ว่าทางยูเครนจะไม่ได้เป็นสมาชิกภาพของทางสหภาพ EU ก็ตามแต่ แต่ทาง EU ก็ไม่ได้ทอดทิ้งทางยูเครนเลย ผู้อพยพจากสงครามจากทางยูเครนทั้งหลายทางสหภาพ EU ก็ต้อนรับด้วยดี ทั้งเงินช่วยเหลือจำนวนมาก และค่าใช้จ่ายทางอาวุธสงครามที่ผ่านมาทาง EU ก็สนับสนุนช่วยเหลือมาตลอด
แต่ความช่วยเหลือทั้งหลายก็จำกัดได้แค่เพียงเท่านี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรไปได้มากกว่านี้
หากเรามองในมุมเป็นกลางผู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะทราบดีว่ากลุ่มสหภาพ EU ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ม ดังนั้นประเทศใดที่ต้องการเข้ามาเป็นสมาชิกภาพจำเป็นต้องมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับประเทศกลุ่มเดิมที่อยู่ในสหภาพ EU อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ดังนั้นจึงไม่ผิดหรอกที่ทางกลุ่มสหภาพ EU จะช่วยเหลือได้เท่าที่จำเป็น การนำยูเครนเข้ามาเป็นสมาชิกจะมีผลทางกฎหมายทันทีที่ทางประเทศในกลุ่มหลักๆทั้งหลายจะต้องเข้ามาช่วยเหลือยูเครนแบบถาวร ทำให้เงินยูโรและเศรษฐกิจในกลุ่มถูกถ่วงด้วยลูกตุ้มขนาดใหญ่จากยูเครน
และในความเป็นจริงแล้วท่าทีของรัสเซียเองก็ไม่ได้ห้ามให้ทางยูเครนเข้าไปเป็น สมาชิกของสหภาพ EU แต่เงื่อนไขในการเข้าไปปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียคือสถานะความเป็นกลางของยูเครนในเรื่องทางการทหารและต้องไม่เป็นสมาชิกอาโต้แบบถาวร
การตัดสินใจผิดไปแล้วของทางยูเครนทำให้ทางยูเครนเสียผลประโยชน์ไปมาก ทำให้ทางออกที่เหลือในปัจจุบันจึงเหลือน้อยลงไปทุกที
หลังจากนี้ต้องมาดูกันว่ามติที่ประชุมในสภาของสหภาพยุโรปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30-31 พฤษภาคมนี้จะออกมาอย่างไร เพราะขณะนี้ประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปได้แบ่งออกเป็น 2 ขั้วชัดเจนทั้งฝ่ายที่ยืนยันที่จะตั้งหลักต่อสู้ร่วมกับยูเครนต่อและอีกฝ่ายที่ต้องการหยุดสู้แล้วให้หันมาเจรจาสันติภาพแทน
ด้วยความสัตย์จริง ผมมีความเห็นใจในยูเครนมากที่โดนกระทำจากทั้งสองฝ่าย ไม่คเยมีมิตรแท้ ในการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อไหร่ที่หมดผลประโยชน์ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันที
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
