28 พ.ค. 2022 เวลา 10:44 • นิยาย เรื่องสั้น
โศกนาฏกรรมความรักแสนเศร้า…
มองเรื่องราวพระลอ-พระเพื่อน-พระแพง กับโรมิโอแอนด์จูเลียต
ความคล้ายที่จบลงด้วยความตาย!!
ขึ้นชื่อว่า “ความรัก” เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ยิ่งถ้าเป็นรักแบบหลงหัวปักหัวปำก็อาจเป็นดั่งคำเขาว่า “ความรักทำให้คนตาบอด” ได้
แปลกที่เรื่องราวจากวรรณคดีไทยเรื่อง "ลิลิตพระลอ" กับวรรณกรรมระดับโลกเรื่อง "โรมิโอแอนด์จูเลียต" ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ นักประพันธ์ชื่อก้องชาวอังกฤษ มี "ความคล้ายคลึง" ในเรื่องมหากาพย์แห่งความรักความใคร่จนสุดท้ายทั้งพระเอกและนางเอกก็ต้องสังเวยชีวิตในตอนจบเหมือนกัน
เรียกว่าจบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งเหมือนคู่พระคู่นางทั่วๆไปทั้งในหนังสือหรือในภาพยนตร์
เป็นโศกนาฏกรรมที่อาจทำให้คนใจอ่อนต้องหลั่งน้ำตาเพราะอินในอารมณ์กับความน่ารันทดนั้น
อนุสาวรีย์ พระลอ พระเพื่อน-พระแพง
เค้าโครงเรื่องของลิลิตพระลอและโรมิโอแอนด์จูเลียตละม้ายคล้ายกันอย่างน่าพิศวงยิ่งนัก กล่าวคือผู้ประพันธ์กำหนดให้ตัวละครเอกของทั้งสองฝ่ายเกิดจิตผูกพัน วาบหวิว และไหวหวั่นซึ่งกันและกัน แม้เพียงแค่แรกเห็น หรือแรกได้ยินกิตติศัพท์ เรียกได้ว่า "เมื่อแรกพบประสบพักตร์ก็สุดรักเธอเสียแล้ว" ต่อมาก็ยอมพลีใจกายถวายชีวิตให้กันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังอะไร
เรียกว่าสมหวังเพียงแค่ได้มีอะไรกันเท่านั้น…แต่มิอาจสมหวังในการได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน  สุดท้ายต้องพบจุดจบนั่นคือความตายแบบโศกนาฏกรรมตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว  อันเนื่องมาจากความขัดแย้งชิงชังกันระหว่างสองตระกูล
โรมิโอแอนด์จูเลียต
เป็นที่น่าสังเกตว่าเชกสเปียร์ประพันธ์โรมิโอแอนด์จูเลียตในปี  ค.ศ.1595  (พ.ศ.2138)  เมื่อเทียบแล้วตรงกับสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  แห่งกรุงศรีอยุธยาครองราชย์พอดี  (พ.ศ. 2133-2148)
ขณะที่ลิลิตพระลอแต่งก่อนหน้านั้นราว  80  ปีถึงหนึ่งศตวรรษ  คือราว  พ.ศ. 2030-2060  หรือหากนับย้อนจากปัจจุบัน  ก็อาจกล่าวได้ว่า ลิลิตพระลอประพันธ์มาแล้วประมาณ 500 กว่าปี ส่วนโรมิโอแอนด์จูเลียตอยู่คู่กาลเวลามาได้ 420 กว่าปี
อันนี้ถือว่าเราแต่งก่อน ส่วนจะถือเป็นความภาคภูมิใจหรือไม่ก็สุดแท้แต่ความคิดแห่งปัจเจกชน
ภาพวาดสุดสะเทือนใจฝีมือ อ.เหม เวชกร
แต่ที่แน่ๆสำหรับคนไทยว่ากันว่าเรื่อง "ลิลิตพระลอถือว่าเป็นสุดยอดของลิลิต  ความไพเราะจับใจ และความนิยมชมชอบถือว่าเหนือกว่าอีก 2 เรื่องคือ "ลิลิตยวนพ่าย" กับ "ลิลิตตะเลงพ่าย" แต่ทั้ง 3 เรื่องก็ถือว่าสุดยอดของลิลิตแล้ว
และไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไทยหรือของเทศ โครงเรื่องลักษณะเช่นนี้มักสร้างอารมณ์สะเทือนใจให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกหวั่นไหวเจ็บปวดได้มากกว่าเรื่องที่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งหรือจบแบบ "สุขนาฏกรรม”
คราวนี้มาถึงเรื่องที่พระลอ พระเพื่อน-พระแพง มักถูกประณามหยามเหยียดจากนักอ่านที่ออกไปในแนวอนุรักษ์นิยมโดยทั้ง 3 คนถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมุ่งอยู่แต่ในเรื่องใต้สะดือ รักๆใคร่ๆ บทอัศจรรย์แต่ละอันนั้นช่างวาบหวิวชวนหวั่นไหว…
อันนี้ผมว่าต้องลองกลับชาติไปเกิดแล้วสอบถามผู้ประพันธ์กันเองแล้วล่ะมั้ง…เพราะวรรณคดีไทยแต่ละเรื่องมักจะมีบทและฉากออกไปในแนวๆนี้ อันถือเป็นเรื่องที่ไม่ผิดปกติอันใด ส่วนปริมาณจะมากน้อยก็แตกต่างกันไป
ผมว่าเราเลือกเสพย์กันได้นะ…อันไหนมากไปก็เว้นเสีย…
แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือแม้จะมีบทอัศจรรย์ค่อนข้างมาก แต่กระนั้น…ภาษาที่ใช้ในวรรณคดีเรื่อง "ลิลิตพระลอ" นี้ มีความเป็นเลิศไร้ที่ติ งดงาม ลึกซึ้ง เข้าถึงอารมณ์ปุถุชนผู้รักการอ่านวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง ภาษาที่งดงามเลยกลบเนื้อหาสองแง่สองง่ามไป
หากใจเราบริสุทธิ์ซะอย่าง อะไรก็ทำร้ายหัวใจเราไม่ได้...เชื่อสิ
และมีสิ่งที่ผมอยากบอกในที่นี้ก็คือ…ในเรื่องลิลิตพระลอนี้ ผมนับถือน้ำจิตน้ำใจของพระเพื่อน-พระแพง มากนะ
ผมรู้สึกว่าหล่อนทั้งคู่รักพระลอมาก รักแบบรักจริง รักแท้ รักแบบสุดหัวใจซะด้วยสิ…
ภาพและฉากตอนที่ทั้ง 3 คนถูกลูกธนูพุ่งเข้าฝังร่างและจบชีวิตลงพร้อมกันช่างเป็นอะไรที่สะเทือนใจสิ้นดี…
ไม่มีอะไรจะสาธยาย…น้ำตาพาลจะไหล…
ส่วนเรื่องราวโดยละเอียดของเรื่อง "ลิลิตพระลอ" และ "โรมิโอแอนด์จูเลียต"…โศกนาฏกรรมความรักอันแสนเศร้า ใครที่สนใจคงต้องตามหากันเอาเอง ที่เล่ามานี้เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตคร่าวๆเท่านั้น
เพราะกลัวเล่ายาวมากเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อนน่ะสิ…
ศาสตรา สุมาลยศักดิ์ / เรื่อง-เรียบเรียง
เครดิตภาพ /museumthiland.com
วิกิพีเดีย/thaigoodview.com/อ.เหม เวชกร
โฆษณา