28 พ.ค. 2022 เวลา 14:35 • กีฬา
เจตจำนงแห่งไฟ
ชื่อบทความ ไม่ได้หมายถึงหมู่บ้าน Konoha หรอกนะครับ แต่มันคือไฟแค้น ไฟแห่งความหวัง และไฟดวงที่สามที่กำลังต้องการจุติของเหล่า The Kop ในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะชายที่มีชื่อว่า Mohammed Salah
สวัสดียามดึกคุณผู้อ่านทุกท่าน หลังห่างเหินจากการเขียนศึก UCL ไปนานหลายเดือน ก็เดินทางมาถึงนัดชิง UCL 2021/22 กันแล้ว มันประจวบเหมาะพอดีที่ทั้งสองสโมสรนี้กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 4 ปีเลยทีเดียวหล่ะ
ก่อนอื่นขอประชาสัมพันธ์ช่องทางการเผยแพร่บทความนอกเหนือจาก Blockdit กันอย่างต่อเนื่อง อย่าง Facebook Fanpage “G B K – รู้อะไรดีก่อนบอลเตะ” อีกช่องทางหนึ่ง ทุกท่านสามารถไปร่วมกด Like และ Follow ผลงานของผมกันครับ
หากหาไม่พบ สามารถ Search โดยใช้คำว่า https://www.facebook.com/GuideBeforeKickOff กันได้เลย และก็ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมติดตามผลงานของเพจเล็กๆ ของผมเสมอมานะครับ ซึ่งหลังจบศึก UCL แล้ว จะมีเรื่องราวฟุตบอลเรื่องให้ได้ติดตามกันต่อ จะเป็นอะไร ก็ขอให้ติดตามกันต่อนะครับ
ก่อนที่จะไปเริ่มต้นคู่ต้องขอแสดงความยินดีกันอีกรอบของสองทีมดังจากประเทศ Germany และ Italy ที่ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโรปถ้วยรองทั้งสองหลายการไปอย่าง รายการ Europa League และ UEFA Europa Conference League ตามลำดับ
รายการแรกเป็นของสโมสร Eintracht Frankfurt ที่เอาชนะสโมสร Glasgow Rangers จากประเทศ Scotland จากการดวลจุดโทษไป 5-4 หลังเสมอในเวลา 1-1 ภายใต้การนำทัพของ Oliver Glasner กุนซือชาว Austria จากการคว้าแชมป์ ทำให้ได้เป็นทีมวางรอบ Group State ศึก UCL 2022/23 นับว่าเป็นสมัยที่สองของสโมสร หลังเคยได้สมัยยังใช้ชื่อรายการว่า UEFA Cup เมื่อปี 1979/80 ต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ
สำหรับรายการที่สองเป็นของสโมสร AS Roma ที่เอาชนะสโมสร Feyenoord จากประเทศ Netherlands ไป 1-0 ภายใต้การนำทัพของ José Mourinho กุนซือมากความสามารถชาว Portugal ทำให้ได้เป็นทีมวางรอบ Group State ในศึก Europa League 2022/23 นับเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง พร้อมส่งให้ José Mourinho คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยหลักของทวีปไปครบทั้ง 3 รายการเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ต้องขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ
The tear of José Mourinho
อย่างที่เกริ่นกันไปว่า ฟุตบอลถ้วยยุโรปถ้วยสุดท้าย ซึ่งเป็นถ้วยที่ใหญ่ที่สุด ได้เดินทางมาถึงรอบชิงกันแล้ว โดยเป็นการพบกันระหว่าง สโมสร Liverpool แชมป์ 6 สมัย กับ สโมสร Real Madrid แชมป์ 13 สมัย ซึ่งมากที่สุดในทุกสโมสร ณ สนาม Stade de France ประเทศ France ในคืนพรุ่งนี้เช้ามืด เวลา 0200 ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN Sports1
คู่นี้มีเรื่องให้เล่าเยอะมาก เดิมทีทีแรก การเจอกันของทั้งคู่ มันไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าการเจอกันของทีมชั้นนำของยุโรป เสมือนว่ามันเป็นศึก Big Match ธรรมดาๆ คู่หนึ่งที่คนให้ความสนใจ ทว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนในนัดชิง UCL 2017/18 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2018
วันนั้น ทั้งคู่แจอกันในนัดชิงชนะเลิศที่สนาม NSC Olimpiyskiy Stadium ประเทศ Ukraine ดูจากเพียงผลสกอร์นั้น ก็เป็นสโมสร Real Madrid คว้าชัยไปครอง ด้วยชัยชนะเหนือสโมสร Liverpool 3-1 ซึ่งเป็นสมัยที่ 13 ของพวกเขา และเป็นครั้งล่าสุดที่พวกเขาได้แชมป์ แต่ในเกมกลับมีประเด็นให้พูดถึงกัน
สิ่งๆ นั้นคือ ในนาทีที่ 25 ในขณะที่ยังเสมอกัน 0-0 และทั้งสองกำลังแลกเกมกันสนุก Sergio Ramos ปราการหลังทีมชาติ Spain ของสโมสร Paris Saint-Germain ที่ในขณะนั้นค้าแข้งกับสโมสร Real Madrid ไปล็อคแขนของ Mohamed Salah ดาวยิงทีมชาติ Egypt คนเก่งของสโมสร Liverpool จนล้มลงกับพื้นทั้งคู่
ด้วยความที่โดนล็อคแขน ทำให้ Salah ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวไหล่ ซึ่งแม้เขาพยายามฝึนเล่นต่อแล้ว แต่ก็ได้เพียง 4 นาทีเท่านั้น จนต้องเปลี่ยนตัวออกไป ทำให้หลังจากนั้น Real Madrid กลับมาโหมบุกฝ่ายเดียวจนกระทั่ง จบเกม พวกเขาจึงชนะไป 3-1
Mohamed Salah arm was locked by Sergio Ramos on 26 May 2018
หลายคนบอกว่า ถ้า Salah ยังอยู่ Liverpool อาจไม่แพ้ หรือถ้าแพ้ก็ไม่ขาดขนาดนั้น ซึ่งตัวเขาเองได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาหลังปราบสโมสร Villarreal ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 5-2 ว่า “เขาอยากเจอสโมสร Real Madrid ในรอบชิงมากกว่า เพราะต้องการถอนแค้นที่แพ้ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 2018”
หลังจากนั้น 1 วัน สโมสร Real Madrid ก็พลิกนรก เปิดบ้านเอาชนะสโมสร Manchester City ในช่วงต่อเวลาพิเศษไป 3-1 รวมสองนัดชนะ 6-5 ผ่านเข้าชิงชนะตามมาได้จริงๆ
หลังจากเข้าชิงแล้ว เมื่อ 5 วันก่อน Fede Valverde มิดฟิลด์ตัวกลางทีมชาติ Uruguay ของสโมสร Real Madrid ได้ออกมาตอบโต้คำสัมภาษณ์ของ Salah ที่พูดไว้ก่อนหน้านั้นว่า “คำสัมภาษณ์ของ Salah เป็นการหยามสโมสรของเขา และจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้พวกเขาคว้าแชมป์สมัยที่ 14 มาครองเพื่อแฟนบอลของพวกเขาให้ได้”
แน่นอนว่าหลังจากการทำสงครามจิตวิทยาของทั้งคู่ มันก็มีข่าวระหว่างกันออกมาเรื่อยๆ มากมาย มันทำให้เกมคู่นี้ลุกเป็นไฟ เดือดขึ้นอย่างมหาศาล ถึงขนาดเหล่ากุนซือ อดีตนักเตะ และนักวิเคราะห์ รวมถึงโค้ชหลายคนต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จัดตั้งทีมเชียร์และพร้อมผลักดันให้สโมสรที่พวกเขาเชียร์ได้แชมป์นี้ไปครอง
ฝั่ง Liverpool นำทัพมาโดย Jamie Carragher นักวิเคราะห์ Sky Sports ตำนานสโมสร Liverpool, Micheal Owen อดีตดาวเตะชื่อดังของทั้งสโมสร Liverpool, Real Madrid และ Manchester United เจ้าของรางวัล Ballon d'Or 2001, Ronaldinho ตำนานทีมชาติ Brazil อดีตแชมป์ World Cup 2002 และเจ้าของรางวัล Ballon d'Or 2005, Paul Merson ตำนานสโมสร Arsenal, Steven Gerrard กุนซือสโมสร Aston Villa และตำนานสโมสร Liverpool
ฝั่ง Real Madrid นำทัพมาโดย Gary Neville นักวิเคราะห์ Sky Sports ตำนานสโมสร Manchester United, Iker Casillas ตำนานสโมสร Real Madrid และทีมชาติ Spain อดีตแชมป์ World Cup 2010 และ Euro 2008, 2012
Micheal Owen the former both players of Liverpool and Real Madrid
โหมโรงนักเตะและกองเชียร์แต่ละฝ่ายไปแล้ว ทีนี้มาดูสถิติการเจอกันของสองกุนซือกันต่ออย่าง Jurgen Klopp กุนซือชาว Germany ของ Liverpool และ Carlo Ancelotti กุนซือชาว Italy ของ Real Madrid โดยทั้งสองคุมทีมเจอกันในทุกสโมสรรวมแล้ว 10 ครั้ง Klopp ชนะ 3 ครั้ง Ancelotti ชนะ 4 ครั้ง และเสมอกันไป 3 ครั้ง โดย Klopp ได้ถ้วยกับทุกสโมสรที่คุมรวมแล้ว 11 ถ้วย จาก 2 สโมสร ส่วน Ancelotti มี 21 ถ้วย จาก 6 สโมสร
ทีนี้มาดูสถิติการเจอกันของทั้งสองสโมสรกันต่อ โดยทั้งคู่เจอกันมาทั้งหมด 8 ครั้ง แบ่งเป็น Liverpool ชนะ 3 ครั้ง Real Madrid ชนะ 4 ครั้ง และเสมอกันไป 1 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ทั้งสองเจอกัน คือเกม UCL 2020/21 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ที่สนาม Anfield บ้านของสโมสร Liverpool ที่จบกันไป 0-0 ทำให้สกอร์รวม Real Madrid ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยสกอร์ 3-1
มาดูที่ฝั่ง ทีมสีแดงกันก่อน พวกเขาเป็นเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด England 19 สมัย จากแชมป์ EPL 1 สมัย และ Division 1 เดิม 18 สมัย โดยในรอบ Group State พวกเขาเป็น 1 ใน 3 ทีม เคียงคู่สโมสร Ajax Amsterdam และ สโมสร Bayern Munich ที่เก็บได้ 18 แต้มเต็มจากการชนะรวด
ส่วนผลงานตั้งแต่รอบ 16 ทีมจนถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเขาชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยพ่ายให้กับสโมสร Inter Milan จาก Italy ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สองไป 1-0 ปัจจุบัน พวกเขาเป็นทีมอันดับ 2 ของโลก ในฤดูกาลนี้ แม้จะจบรองแชมป์ EPL แต่ก็สามารถการันตีถ้วยมาได้แล้ว 2 ถ้วย คือ Carabao Cup และ FA Cup
พวกเขานำทัพมาโดย Jordan Henderson มิดฟิลด์ตัวกลางทีมชาติ England พร้อมขันเกมรับที่แน่นขึ้นจากเมื่อ 4 ปีก่อนอย่าง Alisson Becker ผู้รักษาประตูทีมชาติ Brazil, Ibrahima Konaté ปราการหลังทีมชาติ France ชุด U-21 ที่ได้เล่นที่บ้านเกิดที่ France รวมถึง Virgil van Dijk ปราการหลังทีมชาติ Netherlands ที่มาพร้อมกับฟอร์มที่ปึ๊กขึ้น
ส่วนแนวรุกและตัวทำเกม Thiago Alcântara มิดฟิลด์ตัวกลางทีมชาติ Spain ที่มีการจ่ายบอลที่แม่นยำสลัดอาการบาดเจ็บกลับมา สองแนวรุกสุดฮอต Mohamed Salah ดาวยิงทีมชาติ Egypt ดาวซัลโวของสโมสรใน UCL ที่ 8 ประตู พร้อมข่าวดีที่เขายืนยันว่าจะอยู่ต่อฤดูกาลหน้าอยู่ ส่วนอีกคนคือ Sadio Mane ดาวยิงทีมชาติ Senegal ที่ข่าวว่าเตรียมย้ายไปค้าแข้งกับสโมสร Bayern Munich ในฤดูกาลหน้า นัดนี้อาจเป็นนัดสุดท้ายกับ Liverpool
1
Thiago Alcântara
ด้านฝั่งทีมสีขาว พวกเขาเป็นเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด Spain อย่าง La Liga ที่ 35 สมัย โดยในรอบ Group State พวกเขาทำผลงานได้ดีทีเดียว ด้วยชัยชนะ 5 แพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้น
ส่วนผลงานตั้งแต่รอบ 16 ทีมจนถึงรอบรองชนะเลิศ ต้องบอกว่า พวกเขาเป็นทีมที่มีปาฏิหารย์มาก เพราะจะแพ้ในเกมแรกก่อน และเกมที่สองพลิกกลับมาชนะ โดยมีสถิติ ชนะ 3 แพ้ 3 ต่อทั้งสามสโมสรที่เจอกันมาอย่าง สโมสร Paris Saint-Germain สโมสร Chelsea และ สโมสร Manchester City ปัจจุบัน พวกเขาเป็นทีมอันดับ 5 ของโลก ในฤดูกาลนี้ พวกเขาการันตีแชมป์มาแล้ว 2 ถ้วยเช่นกัน คือ La Liga และ Supercopa de España
พวกเขานำทัพมาโดย Marcelo แบ๊กซ้ายอดีตทีมชาติ Brazil พร้อมขันเกมรับให้โดนเจาะได้น้อยที่สุดเฉกเช่นที่เจอกันฤดูกาลก่อน Thibaut Courtois ผู้รักษาประตูทีมชาติ Belgium, David Alaba ปราการหลังทีมชาติ Austria และ Éder Militão ปราการหลังทีมชาติ Brazil
ส่วนแนวรุกและตัวทำเกม จะนำทัพโดย Karim Benzema ดาวยิงวัยเก๋าทีมชาติ France รองกัปตันสโมสรที่ได้เล่นในประเทศ France บ้านเกิดเช่นกัน แถมพกสถิติ ดาวซัลโว UCL และ La Liga ในฤดูกาลนี้มาด้วยที่ 15 และ 27 ประตูตามลำดับ Luka Modrić มิดฟิลด์ตัวกลางวัยเก๋าทีมชาติ Croatia เจ้าของราวัล Ballon d'Or 2018 และ Vinícius Júnior ดาวยิงจอมพริ้วทีมชาติ Brazil
Karim Benzema
เป็นคู่ Big Match ที่น่าจับตามองจริงๆ เพราะหากใครชนะ มีโอกาสสูงที่เจ้าของรางวัล Ballon d'Or ปีนี้จะอยู่กับหนึ่งในนักเตะของทีมที่ชนะ แล้วเราจะมาดูกันว่า เกมนี้เจตจำนงแห่งไฟจะเกิดหรือจะโดนมอดดับ อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้คงได้รู้กันครับ
ขอบคุณรูปภาพ (A special thanks to a photos)
ขอบคุณข้อมูล (A special thanks to a details)
โฆษณา