เปิดเช้าวันจันทร์มาแบบนี้ หลายคนคงมีความรู้สึกไม่อยากตื่น ไม่อยากไปทำงาน แม้จะยัง WFH แต่ก็ไม่อยากแม้แต่จะเปิดคอม ไม่แน่ว่าคุณอาจมีอาการ Creative Burnout อยู่ก็ได้
Creativity มันเป็นเรื่องเปราะบางมากอยู่ มันจำเป็นต้องใช้แรงบันดาลใจมากเพียงพอ แต่ๆๆ ต้องไม่มากเกินไป ดังนั้นการเสพย์ข้อมูลมากเกินไปก็ทำให้เสียสมดุลได้ ไม่ว่าคุณจะทำงานเป็นดีไซเนอร์ นักเขียน ทำธุรกิจส่วนตัว ช่างภาพ หรือทำงานอะไรก็ตามที่ใช้ความครีเอทีฟ มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ลองเช็คกันดูว่ามีอาการแบบนี้อยู่หรือเปล่า
1. ผัดวันประกันพรุ่ง
การเลื่อนงานออกไปสองสามวัน เพราะรู้สึกว่าไม่อยากทำตอนนี้หรือไม่มีกำลังใจที่จะทำ เป็นเรื่องธรรมดานะ แต่ถ้าเลื่อนงานออกไปในระยะเวลานานกว่านี้จนทะลุเดดไลน์ อันนี้มีปัญหาแล้วล่ะ
2. งานง่ายๆ แต่ทำไมรู้สึกว่ายากขึ้น
รู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันก็เป็นงานธรรมดานะ แต่รู้สึกว่าบังคับตัวเองให้ทำให้มันเสร็จยาก แถมยังใช้เวลานานกว่าเดิม
3. เพลียเป็นกิจวัตร
ถ้าเรานอนน้อยแล้วรู้สึกเพลียในวันรุ่งขึ้น นี่เป็นเรื่องปกติแหละ แต่ถ้าเพลียติดต่อกันนานหลายวันจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ Burnout ได้เหมือนกันนะ
4. เครียดโดยไม่รู้สาเหตุ
งานครีเอทีฟเป็นงานที่เครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเดดไลน์ ความซับซ้อนของโปรเจคต์ต่างๆ แรงกดดันจากเจ้านาย ความจุกจิกของลูกค้า ตัวแปรเยอะมาก แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าเครียดแบบหาต้นตอของมันไม่ได้
5. การเปรียบเทียบที่ไม่ควรทำ
คนที่เป็นครีเอทีฟก็จะเห็นงานของเพื่อนในวงการคนอื่นๆ จากสื่อโซเชียลอยู่แล้ว และอาจเกิดการเปรียบเทียบในใจ “เชิงลบ” ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามว่า ทำไมเราทำไม่ได้ถึงขนาดเขานะ
6. ความไม่สมดุลในการเสพย์เนื้อหา
การทำงานครีเอทีฟต้องรักษาสมดุลในการรับเข้า (Input) และส่งออก (Output) ด้วยนะ บางทีเราอาจดูซีรี่ส์หรือหนังเยอะมาก แต่เราสร้างสรรค์งานที่เป็นครีเอทีฟไม่มากพอ มันก็ทำให้ระดับความครีเอทีฟมันมากหรือน้อยเกินไปในบางที
7. หัวร้อนแต่เช้า
ความเครียด ความโกรธ ความระแวง หรือความรู้สึกที่ไม่ดีตอนเช้า ไม่ว่าจะสาเหตุจากอะไรก็ตามที่ทำให้เริ่มวันด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ดูท่าจะไม่ดีแล้วนะ
8. ละเลยสุขภาพ
กินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ นี่ก็เป็นต้นตอหลักที่ทำให้ระบบในร่างกายของเราทำงานผิดพลาดแล้วก็ทำให้ยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่
9. ขี้หงุดหงิดกว่าที่เคย
เจออะไรก็หงุดหงิด ไม่พอใจไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน แฟน หรือลูก ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ
10. ความมั่นใจหายไป
ความรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีไม่พอ ไม่พอใจในงานที่ทำ หรือสิ่งที่ทำอยู่ไร้ค่าไม่มีความหมาย หรือขาดแรงบันดาลใจอย่างรุนแรง แม้ว่าเราจะเคยทำงานที่ดีและภาคภูมิใจมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
เหล่านี้คืออาการที่ไว้เช็คว่าคุณเป็น Creative Burnout หรือเปล่า
ถ้ามีล่ะก็ เบื้องต้นลองพักจากสิ่งที่ทำอยู่ หาคนคุยด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพิ่มพลังบวกให้กันและกัน พักผ่อนซะบ้าง หาอะไรที่ทำแล้วผ่อนคลาย ทำแล้วมีความสุขทำไปก่อน หรือดูงานเก่าๆ ที่เคยทำแล้วภูมิใจกับมัน
สิ่งสำคัญคือต้องใจดีกับตัวเองนะ มันไม่ใช่ว่าตัวเราเองขี้เกียจ ไม่ใส่ใจงานตัวเอง หรือตัวเองไร้ค่า แต่ Creative Burnout มันเป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่พบเจอ และข่าวดีคือ ถ้ารับมือกับมันได้ถูกวิธี อาการนี้ก็จะหายไป มันไม่อยู่ถาวรตลอดไป :)
บูม Moonday (สุมน เทียรฆโรจนกุล)
( ^ ____________ ^ )
ติดตามเราอีกหนึ่งช่องทาง
Facebook: https://www.facebook.com/creativemoonday
#CreativeMoonday #UnlockCreativity #CreativeExercise
- 84
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
