Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องนี้เคยดูแล้ว
•
ติดตาม
30 พ.ค. 2022 เวลา 13:32 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
"Mudbound" 2017
เรื่องราวดราม่าสะเทือนอารมณ์ของคนผิวสีและคนผิวขาว
ความแตกต่างของชาติพันธ์ทั้งที่เหยียบอยู่บนผืนดินเดียวกัน
Mudbound
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ดราม่าน้ำดี ผลงานกำกับของ Dee Rees ผู้กำกับสาวชาวผิวสีคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขา ทั้งกำกับภาพยอดเยี่ยม, บทดัดแปลงยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และยังถุกเสนอชื่อเข้าชิงในอีกหลายรายการ ก่อนจะกวาดรางวัลไปไม่น้อย ทั้งยังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกอย่างล้นหลาม แทบจะถูกกล่าวขานว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2017
เรื่องราวเล่าผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเหล่าชายกรรจ์ต้องไปเป็นทหารรับใช้ชาติ เจมี่ (Garrett Hedlund) หนุ่มเพลย์บอยจากครอบครัวคนผิวขาวที่มีพ่อกับพี่ชายเป็นพวกเหยียดผิว เจมี่ต้องไปออกรบในกองทัพทหารอากาศ ส่วนรอนเซล (Jason Mitchell) เด็กหนุ่มชาวผิวสีจากครอบครัวชนชั้นแรงงานได้ไปออกรบกับกองทัพบก ทั้งสองได้กลับมาพบกันที่บ้านเกิดหลังชนะสงคราม ในมิสซิสซิปปี้ ดินแดนที่คนผิวสียังคงถูกกดขี่
แต่มันกลับไม่ใช่ปัญหาของเจมี่และรอนเซล เมื่อมิตรภาพนั้นเริ่มก่อตัว แต่สังคมกลับไม่ยอมรับ เมื่อครอบครัวของรอนเซลที่ทำไร่ทำสวนต้องเช่าที่จากครอบครัวของเจมี่ ทั้งยังถูกเฮนรี่ (Jason Clarke) พี่ชายของเขาเรียกไปใช้งานราวกับทาส ที่หนักสุดๆคือ แพปปี้ (Jonathan Banks) คนพ่อที่ทั้งเหยียดผิวและยังหัวรุนแรง เขาต้องทนเห็นครอบครัวทำงานอย่างยากลำบากโดยไม่คุ้มค่าผลตอบแทน
รอนเซลวีรบุรุษสงครามที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปรบสู้เพื่อปกป้องประเทศ กลับต้องมากัดฟันโดนกดขี่ข่มเหงในดินแดนที่เรียกว่าบ้านเกิด ชะตากรรมของสองครอบครัวในผืนแผ่นดินเดียวกันจึงได้เริ่มต้นขึ้น..
ประเด็นการเหยียดผิวแบ่งชนชั้นนั้นไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้สัมผัสมันกลับสร้างความเจ็บปวดและสะเทือนใจอยู่เสมอ Mudbound ตีแผ่เรื่องราวสะท้อนชีวิตในชนบทของชนชั้นแรงงานได้อย่างชัดเจน ทั้งที่เป็นคนเหมือนกันแต่ถูกปฏิบัติราวกับสัตว์ กลายเป็นวัฒนธรรมผิดๆที่ส่งต่อกันมา
หนังนำเสนอได้ดี ค่อยๆปูพื้นตัวละคร บรรยากาศต่างๆ ค่อยๆนวด บิ้วอารมณ์คนดูเรื่อยๆ แล้วมาระเบิดดราม่าในไคล์แมกซ์ แม้จะพอเดาๆทางหนังได้แต่ก็ยังคงสะเทือนใจและอดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมอยู่ดี
ด้านการแสดงแต่ละคนเล่นได้อย่างสมบทบาท แทบจะเป็นตัวเอกกันทุกคนเลย แต่ที่สื่ออารมณ์ได้ดีไม่แพ้ใครก็คือ แมรี่เจ (Mary J. Blige) ในบทแม่ของรอนเซล เห็นแววตาอมทุกข์แกทีไรก็รู้สึกสงสารทุกครั้ง ไม่แปลกที่จะได้เข้าชิงนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
และอีกคนเลยที่ตีบทแตกจะไม่พูดถึงไม่ได้อย่างป๋า โจนาธาน แบงค์ ในบทแพปพ่อของเจมี่ แม้จะได้ออกไม่กี่ฉากแต่ทรงพลังทุกซีน ทั้งแววตาท่าทาง การดูถูก เหยียดหยามที่กระทำต่อคนผิวสี ทำเอาซะเราเกลียดตัวละครนี้เข้าไส้สุดๆไปเลย (ลืมบทลุงไมค์ใน Breaking Bad ไปเลย)
เป็นอีกเรื่องที่ดีมากๆพาซึ้งและอินไปตามๆกัน หนังเลือกจบแบบไม่โหดร้ายเกินไป ซึ่งมันก็ส่งผลดีต่อคนดูอย่างเราๆแหละ แต่ถ้าหากขยี้ให้มันโหดกว่านี้จะต้องเป็นที่จดจำแน่นอน ถือเป็นหนังดราม่าเข้มข้นชั้นดีที่นอกจากจะสะเทือนอารมณ์แล้วหนังยังมอบความอบอุ่นและอิสรภาพให้อีกด้วย เป็นอีกงานคุณภาพที่ไม่ควรพลาดจริงๆ
ภาพยนตร์
รีวิวหนัง
ดราม่า
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย