31 พ.ค. 2022 เวลา 03:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กรุงเทพเมืองเทพสร้าง แต่ไม่ได้สร้างไว้ให้เรา? 🤔
กรุงเทพติด Top 5 เมือง Work-Life Balance พัง: OT เก่ง-วันลาขั้นต่ำน้อยสุด-เมืองปลอดภัยรั้งท้าย
กรุงเทพมหานคร ติด 1 ใน 5 เมืองที่มีปัญหาเรื่อง Work-Life Balance มากที่สุดในปี 2022 วัดจาก Work-Life Balance Index ที่จัดทำขึ้นโดย Kisi บริษัทเทคโนโลยีให้คำปรึกษาด้านการทำงาน เก็บข้อมูลเกี่ยวกับสมดุลชีวิต-การทำงานหลากหลายด้านของ 100 เมือง โดยบริษัทได้เริ่มต้นวิจัยและจัดอันดับมาตั้งแต่ปี 2019
[ กรุงเทพเมืองเทพสร้าง? แต่คนทำงานไม่ได้เจอชีวิตที่ดีอย่างที่คิด ]
กรุงเทพ คือเมืองที่มีคะแนน Work-Life Balance Index ในปี 2022 น้อยเป็นอันดับที่ 96 จากทั้งหมด 100 เมือง (หรือแย่เป็นอันดับ 5)
หล่นลงมาจากอันดับ 49 จากการวิจัยเมื่อปี 2021 ซึ่งถ้าเป็นฟุตบอลก็คงต้องพูดว่าเป็นการร่วงจากกลางตารางสู่โซนตกชั้นเลยทีเดียว
เอาเข้าจริงแล้ว Kisi ระบุว่ากรุงเทพคือเมืองผู้คนน่ารัก กิจกรรมหลากหลาย แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้กรุงเทพอยู่ในโซนรั้งท้ายคือเรื่องงานหนักและความน่าอยู่ของเมือง
กรุงเทพคือเมืองที่มีความปลอดภัยอันดับ 97 จาก 100 เมืองที่ทำการศึกษา ที่สำคัญคือได้คะแนนเรื่องของการทำงานที่ต่ำเอามากๆ เพราะงานที่ทำทางไกลได้มีสัดส่วนแค่ 16.84% ซึ่งถือว่าน้อยที่สุด มีวันลาขั้นต่ำน้อยที่สุด แถมสัดส่วนคนทำงานล่วงเวลาก็มากเป็นอันดับ 7
[ ส่องกล้องมองสังคมการทำงานระดับโลก ]
ทั้งนี้ 5 เมืองที่มี Work-Life Balance แย่ที่สุด ได้แก่
เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ 🇿🇦
ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 🇦🇪
กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 🇲🇾
เซาเปาโล ประเทศบราซิล 🇧🇷
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 🇹🇭
ส่วน 5 เมืองที่มี Work-Life Balance ดีที่สุด ได้แก่
ออสโล ประเทศนอร์เวย์ 🇳🇴
เบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 🇨🇭
เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ 🇫🇮
ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 🇨🇭
โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก 🇩🇰
[ Work-Life Balance วัดผลจากทุกมิติของชีวิต ]
Kisi ทำการเก็บข้อมูลของแต่ละเมือง 3 หมวด คือ ความหนักของงาน (Work Intensity) สังคมและสถาบัน (Society and Institutions) และ ความน่าอยู่ของเมือง (City Liveability) โดยในแต่ละด้านจะมีการเก็บข้อมูลในมิติต่างๆ ดังนี้
📍 ความหนักของงาน: สัดส่วนงานที่ทำทางไกลได้, สัดส่วนประชากรที่ทำงานล่วงเวลา, จำนวนวันลาขั้นต่ำ, จำนวนวันลาที่ถูกใช้, การว่างงาน, สัดส่วนคนทำงานมากกว่า 1 งาน, อัตราเงินเฟ้อ และจำนวนวันลาคลอด
📍 สังคมและสถาบัน: ผลกระทบจากโควิด-19, ความช่วยเหลือเรื่องโควิด, ระบบสาธารณสุข, การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต และความเท่าเทียม
📍 ความน่าอยู่ของเมือง: ค่าใช้จ่าย, ความสุข วัฒนธรรม และกิจกรรมนันทนาการ, ความปลอดภัยของเมือง, พื้นที่กลางแจ้ง, คุณภาพอากาศ และความเป็นอยู่ด้านสุขภาพ
เห็นได้ชัดว่าเมื่อพูดถึง Work-Life Balance งานไม่ได้เป็นแค่เรื่องเดียวที่ต้องคิด แต่ปัจจัยอื่นๆ ในชีวิต เช่น สุขภาพจิต ความเท่าเทียม วัฒนธรรม คุณภาพอากาศ ไปจนถึงความปลอดภัยของเมืองก็ส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดี (หรือไม่ดี) ของคนในเมืองเช่นกัน
โฆษณา