31 พ.ค. 2022 เวลา 12:56 • หนังสือ
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ในยุคที่โรคระบาดต่างๆ ทำให้เราทุกคนมีความยากลำบากในการใช้ชีวิต การกินการอยู่ รวมถึงการทำงานต่างๆ สุขภาพกายก็ต้องระมัดระวัง สุขภาพจิตก็ต้องดูแล แม้ว่าโรคต่างๆเหล่านี้จะไม่หายไปจากโลกเรา ทำให้เราต้องปรับตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับโรคเหล่านี้ให้ได้
ดิฉันจึงมีหนังสือสองเล่มที่จะมาแนะนำให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อที่ว่าเมื่อท่านได้อ่านแล้ว น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถอยู่กับสถานการณ์การแพร่ของโรคเหล่านี้ไปได้อย่างไม่เป็นทุกข์มากนัก และปรับตัวได้ดีขึ้นค่ะ
ในตอนที่ดิฉันซื้อหนังสือสองเล่มนี้มาก็ด้วยความน่าสนใจของเนื้อหาในหนังสือ และเมื่อได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่า เป็นหนังสือที่เข้ากับยุคสมัยนี้มาก และน่าจะมีประโยชน์กับผู้คนในสังคมได้มากทีเดียว เมื่ออ่านจบจึงรู้สึกว่าฉันต้องแนะนำหนังสือสองเล่มนี้ผ่านบทความที่ฉันเขียนให้ได้
หนังสือเล่มแรกที่ดิฉันอยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านก็คือ 'ล้ม ลุก เรียน รู้' หรือ ในชื่อภาษาอังกฤษว่า 'Fail and Learn' ที่เขียนโดย คุณธนา เธียรอัจฉริยะ เป็นหนังสือ How to จากประสบการณ์จริงของคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วดิฉันชอบหนังสือ How to ที่เขียนโดยคนไทย มากกว่าที่แปลจากภาษาต่างประเทศ
เนื่องจากเนื้อหา การยกตัวอย่างต่างๆ จะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย และภาษาการเขียนก็อ่านง่ายกว่าหนังสือที่แปลจากภาษาต่างประเทศ
แต่ดิฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่อ่านหนังสือแปลเลยนะคะ ก็มีอ่านอยู่ค่ะ แต่ก็จะเลือกเฉพาะที่อ่านแล้วไม่งง หรือเข้าถึงได้ง่ายหน่อยค่ะ ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะอ่านเป็นภาษาอังกฤษไปเลย เพื่อที่จะให้ได้อรรถรสที่แท้จริงจากผู้เขียนโดยตรงค่ะ
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บ Naiin.com
สำหรับผู้เขียนหนังสือ 'ล้ม ลุก เรียน รู้' นี้ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ เคยเป็นผู้บริหารในบริษัทโทรคมนาคมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งมาก่อน และเคยเขียนหนังสือชื่อ 'คนพลิกแบรนด์ แบรนด์พลิกคน' ที่ได้รับความนิยมมาก ดิฉันยังไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ แต่พอได้อ่านหนังสือ 'ล้ม ลุก เรียน รู้' แล้ว ดิฉันไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมหนังสือเล่มก่อนหน้านี้ของคุณธนา ถึงได้รับความนิยมมากมาย
เนื้อหาของหนังสือ 'ล้ม ลุก เรียน รู้ ' นี้ ได้บอกเล่าจากประสบการณ์จริงในการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจของทั้งคุณธนาเอง และที่คุณธนาได้นำประสบการณ์ของคนที่คุณธนารู้จักคนอื่นๆ มาเขียนเล่าให้เราได้รับทราบ และได้เรียนรู้ไปด้วยในตัว โดยไม่จำเป็นต้องเผชิญประสบการณ์นั้นๆโดยตรงด้วยตัวของเราเอง ซึ่งเป็นทางลัดชีวิตที่มีค่ายิ่ง อีกทั้งการเขียนยังอ่านง่าย และอ่านได้เพลินเลยค่ะ
ดิฉันของนำคำโปรยด้านหน้าของหนังสือเล่มนี้มาให้ท่านผู้อ่าน เพื่อที่จะได้เห็นภาพคร่าวๆ ของหนังสือเล่มนี้นะคะ ดังนี้ค่ะ "เคล็ดวิชาชีวิตผ่านประสบการณ์จริง ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา และการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก" ดิฉันจึงมีความเห็นว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะอ่านทั้งในยุคโรคระบาดนี้ และแม้เมื่อชีวิตเราไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆก็ตามค่ะ เพราะชีวิต ยังไงก็ต้องเรียนรู้กันต่อไปค่ะ
สำหรับหนังสือเล่มที่สอง ที่ดิฉันเพิ่งอ่านจบในวันที่เขียนบทความนี้เลย สดๆ ร้อนๆ ก็คือ หนังสือชื่อเรื่องว่า 'ทุกข์กระทบ ใจไม่กระเทือน' ของท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติ และพระนักเทศน์ที่เราทุกคนรู้จักกันอย่างกว้างขวาง ท่านได้เขียนหนังสือมาแล้วหลายเล่ม ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ได้ยากไปเลยสำหรับพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บ Naiin.com
เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ท่านได้เขียนถึงวิธีที่ ถ้าเราปฏิบัติตามแล้ว จะสามารถทำให้เรามีความสุขได้ เป็นวิธีหรือคำสอนที่เราสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องทำได้เฉพาะเมื่อเข้าวัดเท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลทั่วไป ที่อาจจะไม่มีเวลา ไม่สามารถไปปฏิบัติธรรมที่วัดได้ และท่านยังเขียนให้อ่านเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ต่างๆ ให้เราได้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น
ดิฉันจึงขอนำเสนอหนังสือเล่มนี้ ให้เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เหมาะสมกับในยุคที่สินค้าต่างๆขยันขึ้นราคากัน นำมาซึ่งความยากลำบากในการใช้ชีวิต เป็นหนังสือที่เมื่อคุณอ่านแล้วจะช่วยให้ความทุกข์ของคุณเบาบางลงได้บ้าง หากเราได้ปฏิบัติตามคำสอนของท่านในหนังสือ ไม่มากก็น้อย แต่ขยันทำอย่างต่อเนื่อง
แล้วเราจะได้เป็นคนที่ ทุกข์กระทบ แต่ใจไม่กระเทือนค่ะ ให้เราใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยไม่ยากลำบากนักในสถานการณ์ดังเช่นปัจจุบันนี้ค่ะ
โฆษณา