2 มิ.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
“ธุรกิจตลาดสายมู” – เมื่อความเชื่อ ความศรัทธา เป็นโอกาสในการทำธุรกิจ
📌 มูเตลู
ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในไทยนั้นมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งอาจจะเคยได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลถึงเรื่องการดูฤกษ์งามยามดีในวันมงคลต่างๆ การไหว้ การบูชา การบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล หรือแม้แต่การพยากรณ์อนาคต เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ความมั่นใจให้ตัวบุคคล ซึ่งในสมัยนี้เราจะคุ้นเคยในชื่อเรียกกันว่า “มูเตลู”
1
ทุกวันนี้การมูเตลูเป็นที่กว้างขวางในสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนเสียขวัญกำลังใจ รู้สึกไม่มีที่พึ่ง จะเห็นได้ชัดในช่วงโควิดที่ผ่านมา ที่หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในชีวิต บางคนจึงเลือกการมูเป็นอีกหนึ่งหนทางในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
จากข้อมูลของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดเผยว่าผู้คนต่างมีความกังวลและรับรู้ถึงความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนในชีวิตของคนไทยที่สุดในตอนนี้ คือ
  • 1.
    ผลกระทบจากโรคระบาดโควิดคิดเป็นร้อยละ 76.8
  • 2.
    ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น PM2.5 ปัญหาขยะล้นโลก ร้อยละ 74.6
  • 3.
    ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและความเห็นที่ต่างกันในสังคม ร้อยละ 65
  • 4.
    ด้านเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูง ร้อยละ 64
  • 5.
    ปัญหาการไม่สามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีได้ทัน ร้อยละ 62.8
  • 6.
    ปัญหาด้านการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ร้อยละ 62.6
1
ด้วยสถานการณ์ที่เราต่างยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนเหล่านี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้การมูเตลูเป็นทางเลือกในการจัดการความรู้สึกของหลาย ๆ คน โดยจากข้อมูล Marketing in the Uncertain World ของ CMMU สำรวจพบว่ามีมากถึง 80% ของประชากรไทยที่เชื่อและศรัทธาการมูเตลู หรือกว่า 52 ล้านคนเลยทีเดียว
  • 1.
    การพยากรณ์ เช่น โหราศาสตร์ การดูลายมือ เปิดไพ่ยิปซี
  • 2.
    พระเครื่อง วัตถุมงคล
  • 3.
    สีมงคล
  • 4.
    ตัวเลขมงคล เช่น เบอร์มือถือ ทะเบียนรถ
  • 5.
    เรื่องเหนือธรรมชาติ เช่น ถ้ำนาคา
📌 มูเตลูที่พึ่งทางใจและโอกาสทางธุรกิจ
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด มีจำนวนธุรกิจไม่น้อยที่เผชิญปัญหา มียอดขายซบเซา แต่สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมูเตลู กลับสวนทาง และบางบริษัทมีแนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้นอีกเสียด้วย
1
ดังนั้นจึงมีหลายบริษัทที่หันมาจับกลุ่มลูกค้าสายมูเตลูมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย รวมไปถึงมีธุรกิจเกิดใหม่ที่มีสินค้าและบริการสำหรับสายมูเตลูโดยเฉพาะ ด้วยเหตุผลที่ทำให้หลายธุรกิจหันมาจับกลุ่มลูกค้าสายมูกันมากขึ้นคงหนีไม่พ้นจำนวนฐานลูกค้าที่มีจำนวนมากถึง 52 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่กระจายอยู่ในทุกชนชั้น
โดยจากข้อมูลของ บจ.ดีโค๊ดเดอร์159 ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเบอร์มงคลได้แชร์ข้อมูลว่าปัจจุบันธุรกิจจำหน่ายเบอร์มงคลมีมูลค่าตลาดกว่าหลักพันล้านบาท และมีการเติบโตทุกปี ที่ปีละ 5-10%
สำหรับราคาเบอร์มงคลในตลาดที่ขายอยู่ปัจจุบันนี้มีตั้งแต่หลักร้อยบาท และสามารถทำราคาสูงถึงหลักหลายล้านบาท แต่แม้ว่าราคาจะสูงมากแค่ไหน ก็ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากยินดีที่จะจ่าย โดย Demand ของเบอร์มงคลนี้นอกจากจะมาจากผู้ใช้ที่เป็นผู้บริโภคแล้ว ยังได้รับแรงหนุนโดยพ่อค้าคนกลางที่มองเห็นโอกาสในการขายเบอร์มงคล จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจเบอร์มงคลยังสามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ ในปัจจุบัน
1
📌 เครื่องประดับกาย และที่พึ่งทางใจของสายมูเตลู
นอกจากเบอร์มงคลแล้ว เราจะเห็นกระแสความเชื่อของสายมูเตลูในการบูชาสร้อยข้อมือ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ เราจึงเห็นการปรับเปลี่ยนธุรกิจเครื่องประดับแบรนด์ RAVIPA ที่แต่เดิมผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับ หันมาจับกลุ่มลูกค้าสายมูเตลู
โดยสินค้ายังคงเป็นเครื่องประดับแต่ออกแบบและดีไซน์ในรูปแบบองค์เทพต่าง ๆ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่น่าสนใจ คือ ยอดขายของบริษัทเติบโตทุกปีสวนทางกับเศรษฐกิจในช่วงโควิด โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งถูกจัดเป็นประเภทเครื่องประดับที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในทุกแพลตฟอร์ม
1
โดยในปีที่ผ่านมา (ยังไม่มีข้อมูลตัวเลขงบการเงินแสดงใน DBDDataWarehouse) บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ถึง 2,000% อีกด้วย (ข้อมูลอ้างอิงจากรายการ The Secret Sauce สัมภาษณ์คุณธนิสา วีระศักดิ์ศรี ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ “ระวิภา”)
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่จับสินค้าและบริการเพื่อการมูเตลูโดยเฉพาะ อย่าง บจ.โฮโรโซไซตี้ ซึ่งเดิมเน้นการทำคอนเทนต์และให้คำปรึกษากลยุทธ์การตลาดให้แบรนด์สายมูเตลูต่าง ๆ ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อให้กับบริษัท คือ Wallpaper โทรศัพท์เสริมดวง
โดยใช้นักพยากรณ์ชื่อดังมาร่วมออกแบบ Wallpaper ซึ่งบริษัทสามารถทำยอดขายเฉพาะ Wallpaper เสริมดวง ได้มากถึง 500-600 ออเดอร์ต่อวัน ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำรายได้สูงสุดถึง 7 หลัก ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน (ข้อมูลอ้างอิงจาก มูเตเวิร์ล สัมภาษณ์ บจ. โฮโรโซไซตี้)
1
📌 มูเตลูกับอานิสงส์ภาคการท่องเที่ยว
นอกเหนือจากบริษัทต่างๆที่หันมาปรับตัวจับกลุ่มลูกค้าสายมูเตลูมากขึ้นแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวในบางจังหวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นกระแสสำหรับสายมู ยังได้รับอานิสงส์จากการที่มีกลุ่มคนเดินทางไปสักการะบูชา อย่างเช่น ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ โดยจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวเปิดเผยว่ามีตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดบึงกาฬในปี 2565 (ม.ค. - มี.ค.) เพิ่มขึ้น 141.83% YoY
โดยในช่วง ม.ค. - มี.ค. 2564 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัด 80,683 ราย
และในช่วง ม.ค. - มี.ค.2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดรวม 195,114 ราย
และมีรายได้จากผู้เยี่ยมเยียนโตเพิ่มขึ้นถึง 109.84% YoY
โดยรายได้ในช่วง ม.ค. - มี.ค. 2564 อยู่ที่ 118 ล้านบาท
ขณะที่ในช่วง ม.ค. - มี.ค. 2565 มีรายได้รวมสะสม 247 ล้านบาท
และจากข้อมูลของ ททท. พบว่ามีอัตราการเข้าพักที่จังหวัดบึงกาฬเต็มเกือบ 100% อีกทั้งจังหวัดที่อยู่ใกล้ ๆ เช่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
และอีก 1 จังหวัดที่ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มสายมูเตลูที่เดินทาง เพื่อไปสักการะไอ้ไข่วัดเจดีย์ นั่นคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจากข้อมูลของ ททท.
แต่เดิมมีเที่ยวบินตรงไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราชเพียง 10 เที่ยวบินต่อวัน ในช่วงสถานการณ์ที่สามารถเดินทางได้ปกติเที่ยวบินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 50 เที่ยวบินต่อวัน มีอัตราการเข้าพัก 75% มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดเฉลี่ย 4-5 แสนคนต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ประมาณ 2,700 บาท/คน/วัน
📌 มูเตลูกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
นอกเหนือจากกลุ่มสายมูเตลูในประเทศไทยแล้ว ยังมีข้อมูลอีกว่ามีชาวต่างชาติที่เป็นสายมูเตลูไม่น้อยที่เชื่อและศรัทธาการมูในประเทศไทย โดยเฉพาะ ประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม ซึ่งแต่เดิมนักท่องเที่ยวสายมูเตลูกลุ่มนี้ เดินทางเข้ามาในไทยเพื่อสักการะ บูชา ตามสถานที่ต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละคน
ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คล้ายกับที่คนไทยไปสักการะที่วัดหวังต้าเซียน ประเทศฮ่องกง เพื่อขอพรเรื่องความรัก แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รูปแบบการมูเตลูของกลุ่มลูกค้าต่างชาติเปลี่ยนไปเป็นช่องทางออนไลน์ มีการเข้าถึงสินค้าเสริมดวง เสริมโชคลาภมากขึ้นผ่าน Online platform ต่าง ๆ
หลายบริษัทเริ่มเห็นโอกาสในการขายสินค้าและบริการในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ อย่างเช่น แบรนด์ RAVIPA ที่ในช่วงโควิด-19 มี Order จากลูกค้าต่างชาติทุกวันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ RAVIPA ได้ตั้งเป้าว่าใน 1 ถึง 2 ปีนี้ จะ Focus ตลาดต่างประเทศมากขึ้น
📌 แนวโน้มธุรกิจมูเตลู
แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจของตลาดสายมูเตลู จะไม่ได้ถูกรวบรวมไว้อย่างชัดเจน แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทที่จำหน่ายและให้บริการด้านมูเตลู หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเดินทางไปเพื่อสักการะ
จะเห็นว่ามีแนวโน้มในทางบวกอย่างมีนัยยะ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าจังหวัดที่มีสถานที่สำหรับมูเตลูมากขึ้น ส่งผลต่ออัตราการเข้าพักแรม และจำนวนเที่ยวบินตรงที่มากขึ้น ซึ่งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนที่สนใจในการมูเตลูช่วง 2 ปีนี้
อาจจะกำลังสะท้อนให้เห็นว่าเมืองไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเรื่องของการมูเตลู ที่น่าลุ้น คือ หากประเทศสามารถรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนได้เป็นปกติ ประเทศไทยน่าจะได้รับอานิสงส์จากการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยวสายมูเตลูอีกไม่น้อย หรือจะมีธุรกิจสายมูเตลูในรูปแบบใหม่แบบไหนเกิดขึ้นอีกบ้าง
รวมไปถึงอนาคตอันใกล้สินค้าที่ช่วยเสริมดวง ที่ผลิตจากประเทศไทย จะสามารถขยายไปยังต่างประเทศได้อีกมากเท่าไร เมื่อในวันนี้เริ่มมีหลายบริษัทเห็นโอกาสในกลุ่มลูกค้าเหล่านี้กันมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายบริษัทปรับตัวเข้าหา และขณะเดียวกันก็ได้รับอานิสงส์ในช่วงโควิดอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง
ผู้เขียน : วรัสชญาน์ วรไชยทรัพย์
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา