"ปัจจุบันมันเป็นอย่างไร อนาคตมันก็เป็นอย่างนั้น"
พระพุทธเจ้า ท่านสอนเรา เมื่อเรามีความสุขแล้ว เราก็อย่ามาหลงในความสุข เพลิดเพลินในความสุข เพราะคนเราต้องเดินก้าวไปเรื่อย ๆ ถ้าเรามาหลงอยู่ติดอยู่เราก็ก้าวไปไม่ได้ เราไม่ได้พัฒนาจิตใจของตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองหลงในความสุข หมกมุ่นในความสุข มันเสียเวลา
จิตใจต้องเข้มแข็งมากๆ จิตใจต้องมีปัญญาอย่างเฉลียวฉลาดให้เต็มที่ ต้องทิ้งอดีตให้ได้ ให้ใจอยู่กับปัจจุบัน ถ้าใจของเรามีความสุขในการทำงานในปัจจุบัน บาปกรรมที่เคยกระทำ ที่เป็นอดีตมันจะไม่สามารถติดตามเราได้ เพราะใจของเรามีความสุข ใจของเราจะมีอานุภาพใจของเรามีรัศมี
ถ้าเรามีความสุขในการทำงานในการปฏิบัติธรรม ถ้าใจของเราอยู่กับอดีตก็เหมือนกับเราบริโภคอาหารเก่า กินแต่อาหารบูด อาหารเน่า อาหารเสีย เราพากันมาติดมาหลงอยู่ในอวิชชา ในความหลง มันเป็นสัญชาตญาณ สัญชาตญาณก็ได้แก่ความยึดมั่นถือมั่น เป็นการเวียนว่ายตายเกิดเป็นการต่อความทุกข์อยู่ในใจเพราะเราไปต่อเติมความทุกข์ในใจของเราเอง อย่างไม่มีที่จบที่สิ้น
อดีตที่ผ่านมาแล้วเราอย่าไปหลงอยู่จมอยู่ คนเราน่ะ อดีตที่ผ่านมาเอาคืนมาไม่ได้นะ อนาคตเราก็ไม่ต้องไปคิดถึงมัน เน้นปัจจุบันให้เต็มที่ เอาศักยภาพที่ประเสริฐที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ออกมาใช้งาน เอาศีลออกมาใช้มาปฏิบัติให้เต็มที่ เอาสมาธิออกมาใช้มาปฏิบัติให้เต็มที่ เอาปัญญาออกมาใช้มาปฏิบัติให้เต็มที่ อย่าไปหลง อย่าไปเซ่อ อย่าไปเบลอ ต้องรู้ตื่นเบิกบานในธรรมะอยู่ตลอดกาล เน้นลงที่ปัจจุบันนี้เดี๋ยวนี้
เพื่อให้เกิดรูปธรรม นามธรรม ไม่ให้ความรู้ความเข้าใจนั้นเนี่ย แล้วไม่ได้เอาออกมาใช้งาน ออกมาประพฤติมาปฏิบัติให้เกิดผลประโยชน์ให้เข้าถึงความสุขความดับทุกข์ที่แท้จริงนะ
เราลองคิดดูซิ ว่าไม่มีพระอรหันต์องค์ไหนหมกมุ่น หลงอยู่ติดอยู่จมอยู่ในเรื่องอดีต มีความทุกข์ หน้าตาเหมือนคนปวดท้องปวดหัว ท่านมีแต่ความสุข มีแต่ความเบิกความบาน เพราะท่านไม่หลงอยู่จมอยู่ในอดีต
หลาย ๆ คนก็ชอบมาถามหลวงพ่อน่ะ อนาคตจะเป็นอย่างไร หลวงพ่อตอบว่า อนาคตช่างหัวมัน ปัจจุบันมันเป็นอย่างไร อนาคตมันก็เป็นอย่างนั้นน่ะ ถ้าปัจจุบันมันดีเท่านี้ อนาคตมันก็ต้องดีกว่านี้ เพราะว่ามันเป็นสันตติ มันติดต่อกัน
ก้าวไปด้วยความสุขความดับทุกข์ เกิดมานี้เกิดมาเพื่อฉลาดจริงๆ เพื่อมีสติจริงๆ มีปัญญาจริงๆ ไม่หลงงมงายจมอยู่กับสัญชาตญาณ สัญชาตญาณได้แก่ความเห็นแก่ตัว ความยึดมั่นถือมั่น ตั้งอยู่ในความประมาท ติดสุขติดสบาย ติดขี้เกียจขี้คร้าน อยากทำอะไรตามใจตามอารมณ์อย่างนี้เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าสัญชาตญาณ
ชื่อภาพช่างหัวมัน
เราต้องเอาชีวิตที่ประเสริฐนี้มาปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราไม่ต้องตามสัญชาตญาณ ได้แก่การเวียนว่ายตายเกิด เรามามีความสุขในการทำงาน มีความสุขในการเสียสละ มีความสุขในการมีศีลห้า ปัญหาต่างๆ ถือว่าไม่มีปัญหา ที่มีปัญหาเพราะว่าเราเห็นแก่ตัว ปัญหาทุกอย่างนั้น หากใจของเราสบายเราสามารถหาแง่มุมที่จะแก้ปัญหาได้
คนเราคิดดีๆ นะ เกิดมาไม่ได้เอาอะไรมาด้วยนะ เวลาตายไปก็ไม่ได้เอาอะไรไป เราต้องมีความสุขในการทำงานในการปฏิบัติธรรม คนเราอยู่ดีๆ หัวมันไม่ปวดนะ ไม่เป็นโรคประสาทเป็นโรคเครียดนะ แต่เราไม่รู้จัก ไปหาเรื่องให้ตัวเองปวดหัว ชื่อว่ายังไม่ฉลาดนะ
บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
#ธรรมะใจดีใจสบาย
#ธรรมะวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม วังน้ำเขียว นครราชสีมา
#ธรรมะของพระพุทธเจ้า
#ธรรมะขององค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
