5 มิ.ย. 2022 เวลา 07:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
OR กำลังรุกอาหารและเครื่องดื่ม ใช้เงิน 1,840 ล้านบาทซื้อธุรกิจอะไรบ้าง
1
หนึ่งในเป้าหมายภารกิจหลักที่สำคัญของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR คือการปรับเพิ่มสัดส่วน EBITDA จากธุรกิจ Non-Oil ให้อยู่ที่ระดับ 30-35% จากของเดิมที่อยู่ในระดับ 20-25% ภายในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ โดยภารกิจดังกล่าวมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ความสามารถในการแข่งขันทางด้านกำไรของ OR สูงขึ้น ด้วยแผนการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการเพื่อต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่
7
โดยก่อนหน้านี้ธุรกิจทางด้าน Non-Oil หรือที่ OR เรียกว่ากลุ่มธุรกิจ Lifestyle ซึ่งมีเครือข่ายทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม มีร้านค้าที่เรารู้จักกันดีอย่าง เช่นร้านคาเฟ อเมซอน , ร้านไก่ทอดเท็กซัส ชิคเกน, ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ,เพิร์ลลี่ที ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และภายใต้แบรนด์ จิฟฟี่ ในประเทศไทย
4
แต่อย่างไรก็ตาม OR มองว่ากลุ่มธุรกิจร้านค้าดังกล่าวที่มีอยู่แต่เดิมนั้น อาจจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ และสร้างให้ EBITDA จากธุรกิจ Non-Oil เป็นไปตามภารกิจที่ให้ไว้กับนักลงทุนได้ จึงยังคงเดินหน้าเข้าซื้อกิจการร้านค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารวางแผนไว้แล้วว่าในปีนี้จะปิดดีลซื้อกิจการเพิ่มอีกหลายแห่ง
1
ดังนั้นในครั้งนี้ Wealthy Thai จึงจะพานักลงทุนมาสำรวจกันว่าตั้งแต่ที่ OR เข้าตลาดหุ้นมาแล้วนั้น ได้ใช้เงินไปกับการซื้อกิจการในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอะไรบ้าง และใช้เงินไปจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงดีลการซื้อกิจการในอนาคตจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอีกหรือไม่
2
ตั้งแต่วันที่ OR เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 11 ก.พ. 64 ใช้เงินลงทุนไปกับการซื้อกิจการในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มรวมกันว่า 1,840 ล้านบาท ซึ่งนับรวมกับดีลการลงทุนล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 โดยทาง OR แจ้งลงทุนในบริษัท โพลาร์แบร์มิชชนั่ จำกัด (“Freshket”) ในวงเงินไม่เกิน 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
5
และในช่วงที่ผ่านมาทาง OR ประกาศเข้าซื้อบริษัท คามุ คามุ จำกัด (KAMU) แบรนด์ธุรกิจเครื่องดื่มชา และเครื่องดื่มอื่นๆ ในวงเงินประมาณ 480 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที OR ถือหุ้นอยู่ 100% จะเป็นตัวแทนเข้าไปถือหุ้น KAMU สัดส่วน 25%
รวมถึงในช่วงปลายปี ได้เข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอาหาร KOUEN บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม สัดส่วน 25% จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมวงเงินไม่เกิน 192 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เข้าลงทุนในร้านกาแฟชื่อดัง Pacamara ซึ่งถือเป็น Specialty Coffee เลยทีเดียว ทั้งนี้ร้านกาแฟ Pacamara มีอยู่ทั้งหมด 10 สาขาทั่วประเทศไทย
1
ปิดท้ายกันที่ดีลการเข้าซื้อหุ้น 20% มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ในบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ และถือเป็นการดำเนินกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการเติบโตจากภายนอก เพื่อเพิ่มผลกำไรในระยะยาว
ติดตามอัพเดตความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
.
Facebook : Wealthy Thai
1
โฆษณา