2 มิ.ย. 2022 เวลา 12:56 • ปรัชญา
เราสูงขึ้นได้ (อีก)
ตอน ผู้นำเริ่มต้นที่ความรัก
สวัสดีทุกท่านที่สนใจในความเป็นผู้นำครับ สำหรับ EP นี้ ผมอยากนำเสนอในเรื่องแรงจูงใจในการเป็นผู้นำต่อจากคราวที่แล้ว สำหรับ EP นี้ผมอยากเขียนสิ่งที่เป็นอุดมคติสักนิด
อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วใน EP ก่อนหน้านี้ว่าเราทุกคนมีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวกันอยู่แล้ว แต่จะดึงกันออกมาใช้อย่างไร และแรงจูงใจในการเป็นผู้นำก็มีทั้งระดับสูง และระดับธรรมดา อย่างที่ผมได้กล่าวไป ว่าถ้าเราต้องการเป็นผู้นำที่แรงจูงใจเป็นทรัพย์ก็ไม่ได้ผิดครับ แต่ที่ผมจะนำเสนอในวันนี้จะเป็นแรงจูงใจสูงในระดับอุดมคตินั่นคือ ‘ความรัก’
ความรักทำให้คนๆ นึงลุกขึ้นมาทำอะไรที่ยากลำบากได้อย่างไร้เงื่อนไข พ่อ แม่ บุพการี คือการเป็นผู้นำที่เรียกได้ว่าชัดเจน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากลูก การที่คนๆ นึงต้องตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อออกไปทำงาน แม้จะเป็นกี่งาน เช้า-บ่าย เย็น-ดึก เข้า 2 กะ 3 กะ ก็สามารถทำได้ และกำลังใจก็มีอยู่เสมอ เพราะลูกเป็นเสมือนพลังงานให้เค้าก้าวออกไป
หลักในการเป็นผู้นำอาจจะต้องมีการถูกฝึกกันมาตั้งแต่เล็กๆ บ้าง จากการเลี้ยงดู หรือบางคนก็โตมาหรือได้รับจากการเห็น และพยายาม ‘เป็น’ ผู้นำ แต่ไม่ว่าจะแบบไหน สุดท้ายก็ต้องมีเป้าหมาย ว่าเราเป็นผู้นำเพื่ออะไรบางอย่าง พ่อ แม่ หรือแม้กระทั่ง พี่ น้อง ที่ต้องลุกขึ้นยืนเพื่อบางสิ่ง สิ่งนั้นอยู่ในตัวของท่าน และของพวกเราทุกคนครับ
การได้ทำในสิ่งที่เรารู้ว่า ‘เพื่อคนอื่น’ คือแรงจูงใจในการเป็นผู้นำที่ดีที่สุด และทำให้ชีวิตของคนคนหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงอีกคนหนึ่ง หรือหลายคนไปอย่างตลอดกาล
คุณพ่อ ของ เซเรนา และ วีนัส วิลเลียม
นักเทนนิสอันดับ 1 ของโลก ที่กวาดแชมป์มาแทบทุกรายการ ริชาร์ด วิลเลียม ได้เริ่มต้นเชื่อว่าลูกของเขามีพรสวรรค์ทางด้านเทนนิส และออกไปติดต่อโค้ชทุกคนที่เคยปั้นแชมป์โลก ตั้งแต่สมัยลูกเขายังเป็นโนวัน (ไม่มีชื่อเสียงและยังไร้อันดับ) พร้อมกับทำงานหนักเพื่อหารายได้มาสนับสนุนลูกทั้ง 2
คุณพ่อของมาเรีย ซาราโปวา
อดีตนักเทนนิสอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน เป็นผู้อพยพชาวรัสเซีย โดยคุณพ่อเห็นพรสวรรค์ด้านเทนนิสในตัวลูกว่าสามารถไประดับโลกได้ จึงได้ขายทรัพย์สินที่มีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ และทุกอย่างที่มี เพื่อนำมาเป็นค่าเทอมโรงเรียนสอนเทนนิสในแคลิฟอร์เนีย ตอนที่ต้องย้ายมาที่อเมริกา และตนเองต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของการเลี้ยงดูลูก จ่ายค่าเรียนเทนนิส และหาเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่ลูกยังไม่มีชื่อเสียง
คุณพ่อของโปรเม และโปรโม
คุณสมบูรณ์ จุฑานุกาล ได้ตัดสินใจขายทุกสิ่ง เอาเงินและเวลาของตนไปให้ลูกทั้งหมด และนำชีวิตของลูกๆ เข้าสู่วงการกอล์ฟ ผลักดันทุกอย่างเพื่อให้เกิดอัจฉริยะหญิงไทยในวงการกอลฟ์ระดับโลกจนท้ายที่สุดก็ไปถึงความฝันได้ (แม้ภาพยนตร์อาจจะเผยด้านไม่ดีของคุณพ่อบ้าง แต่ผมคิดว่าการไประดับโลกก็อาจจะต้องมีการเสียสละ และแรงกดดันภายในครอบครัว)
ทั้งหมดเป็นตัวอย่างของนักเทนนิสระดับโลกที่ปลายทางจบอย่างสวยหรู ...
แต่วันนี้ก่อนจบ EP นี้ผมอยากให้ดูตัวอย่างผู้นำของคนๆ หนึ่ง คือคนที่เป็นพ่อ แม่ ของน้องคนหนึ่งที่เกิดมาเป็นโรคงวงช้าง (ปากแหว่งเพดานโหว่) ชนิดรุนแรง และมีอาการซ้ำซ้อนด้วยการติดเชื้ออย่างอื่น รวมถึงผลจากการใช้ยาบางประเภท ซึ่งคุณแม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเอาออกได้ ตามคำนำแนะของแพทย์ แต่คุณแม่บอกว่า ‘ไม่ใช่ความผิดของน้องเขา ในเมื่อหัวใจของน้องเขาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว’ ...
3
คุณแม่จึงตัดสินใจให้กำเนิด และเลี้ยงดูเขา โดยต้องทนรับกับแรงกดดันต่างๆ จากสังคม และภาระด้านการเงิน ...
คุณแม่ทำงานหลายอย่าง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเห็นเขาก็จะหายเหนื่อย แม้คุณหมอจะบอกว่าไม่รู้จะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ ไม่สามารถบอกได้ แต่คุณแม่บอกว่าตราบใดที่แม่ หรือลูก ยังมีลมหายใจ จะทำทุกวันให้ดีที่สุด
ผู้นำที่ดีที่สุด... แรงจูงใจมาจากความรักครับ
Credit : FB Page โปรดิวเซอร์ยุง 20 พย. 2021
โฆษณา