ทำไมโอเปคต้องยอมผลิตน้ำมันเพิ่ม(นิดหน่อย)???
กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6.5 แสนบาร์เรล โดยจะเริ่มในเดือนหน้า
แม้ไม่มาก และห่างไกลจากความต้องการของยุโรปเยอะ แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญานที่ดี ว่าอย่างน้อยน้ำมันก็จะมีราคาไม่แพงกว่านี้ไม่มากนัก จนเดือดร้อนกันไปกว่านี้ทั้งโลก
บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมโอเปคจึงยอมเพิ่ม แทนที่จะคงที่กำลังผลิตไว้ ให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะได้มีกำไรมากขึ้น
...ใช่เพราะไบเดนไปเยือนซาอุไหมไหม?...
คำตอบ ผมคิดว่าไม่ใช่ แต่มันน่าจะเป็นเพราะเหตุผลทางการตลาดมากกว่า
การโก่งน้ำมันให้แพงขึ้นเรื่อยๆนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ด้วยกลไกของราคาเอง
กล่าวคือ ถ้าราคาพลังงานแพงเกินไป เงินเฟ้อมาก เศรษฐกิจมันจะแย่กันหมด
เศรษฐกิจแย่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจมันก็จะน้อยไปด้วย นั่นจะทำให้ความต้องการน้ำมันของโลกลดลงไป
ผู้ผลิตย่อมไม่สามารถหวังกำไรต่อหน่วยอย่างเดียวได้ หากเสียปริมาณการส่งออก จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากๆ มันจะกระทบพวกเขามากกว่า
การเสียปริมาณการส่งออกมากๆ สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน ถือเป็นเรื่องเสียหายมาก
เพราะการปิดหลุมเมื่อที่เก็บไม่มี มันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และการกลับมาเปิดใหม่ก็วุ่นวาย ราคาแพงมากเช่นกัน
...ดังนั้นการรักษาปริมาณสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน จึงจำเป็นมากกว่ากำไรที่จะหวังกำไรต่อหน่วยอย่างเดียว
อีกส่วนคือโอเปคนั้น ไม่ต้องการเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานให้เร็วเกินไป
หลังจากราคาน้ำมันเริ่มสูงมากจากสงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งจากรัฐบาลประเทศต่างและเอกชนคือ มีการลงทุนพลังงานทดแทนอย่างหนัก
แม้แต่ในจีน ยอดรถไฟฟ้าก็พุ่งกระฉูดไม่ต่างกับที่อื่น
จากที่คาดกันว่า การเปลี่ยนผ่านยุคน้ำมัน จะเกิดขึ้นในปี 2030-35
แต่ถ้าราคาพลังงานยังแพงบ้าเลือด จนแพงกว่าการลงทุนพลังงานทดแทนแบบนี้ มันจะกลายเป็น ยุคน้ำมันจะผ่านไปเร็วกว่านั้นมาก
นี่คือสิ่งที่โอเปคหลายชาติยังไม่พร้อม จึงไม่ต้องการเร่งปฏิกริยาให้พลังงานทดแทนมาเร็วเกินไป จนตัวเองปรับตัวไม่ทัน
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมีท่าทีเชิงบวกต่อการทำให้ราคามันลดลงมาบ้าง เพื่อไม่ให้พลังงานทดแทนมาเร็วจนผิดแผนที่เคยวางไว้ จากความช็อกของคนทั้งโลก
...นี่คือเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ อีกเหตุผลนึง...
สุดท้าย น่าจะเป็นที่กลัวการเสียส่วนแบ่งการตลาด
ตามข่าว ตอนนี้มีสองแหล่งใหญ่ๆ ที่จะกลับมาปลายปีแน่ๆ คือ เชลล์ออยล์ของอเมริกาเองและ น้ำมันจากยูคาทานในอ่าวเม็กซิโก ที่สหรัฐไปซ่อมให้ หลังจากต้องปิดไปเพราะเฮอริเคนตั้งแต่ก่อนโควิด
ยังมีเวเนซุเอลาอีกประเทศ ที่โดนจีนเทหันไปซื้อรัสเซียแทน ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก ก็คงต้องยอมสหรัฐในท้ายที่สุด
ถ้าสามแหล่งนี้กลับมาเต็มที่ แล้วทางโอเปคยังช้า ยังจำกัดการผลิตมากจนเกินไป มันก็จะทำให้พวกเขาเสียคำสั่งซื้อจากทางยุโรปไป และมันไม่ง่ายเลย ที่จะเรียกกลับมาได้
...และนั่น จะสร้างปัญหามากสำหรับโอเปคเอง พวกเขาจึงต้องยังคงตลาดยุโรปเอาไว้
มีรายงานข่าวว่าการปรับกำลังการผลิตครั้งนี้ รัสเซียเองก็รับทราบและเห็นด้วยเหมือนกัน
ผมเข้าใจว่าก็คงด้วยเหตุผลเดียวกับโอเปค เพราะรัสเซียเองก็ต้องเผื่อด้วยว่าหากสงครามจบ พวกเขาก็ต้องมีหนทางทำมาหากินต่อไปบ้าง
ขืนไปเร่งจนเกินไป บีบให้ยุโรปหาตลาดอื่นได้ แล้วตัดระบบทางรัสเซียไปแบบถาวร. หรือจีนเปลี่ยนผ่านพลังงานได้เร็วขึ้นมากๆ พวกเขาก็จะซวยไปด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากขัดโอเปคมากนัก และราคาที่ขายอยู่พวกเขาก็ได้กำไรมหาศาลอยู่แล้ว กำไรต่อหน่วยลดลงบ้างก็คงไม่เป็นไร
เรื่องนี้ คงไม่ใช่เหตุผลทางการเมืองว่าใครเทใคร ใครแปรพักตร์แต่อย่างใด. แต่เป็นเหตุผลทางธุรกิจเสียมากกว่า
สำหรับชาวโลกอย่างเราๆ นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีมากกว่านะ ไม่งั้นเศรษฐกิจมันจะแย่ลงเรื่อยๆ จนเราไม่ไหว
เชื่อว่าในอนาคต โอเปคคงปล่อยออกมาอีกนั่นแหละ แต่คงไม่ใช่มากมายจนล้น พวกเขาเองก็ต้องระวังน้ำมันจากฝั่งอเมริกาที่กำลังมาเหมือนกัน
ถ้าเป็นแบบนั้น และอเมริกาปล่อยน้ำมันออกมาได้จริงๆ ตามสัญญที่ให้ไว้กับยุโรป น้ำมันมันก็คงลดลงได้อีกพอสมควรล่ะครับ อาจไม่ใช่ 60-70 $ แบบสมัยก่อน แต่ก็คงดีกว่าตอนนี้แหละ
ซึ่งมันก็คงเป็นเรื่องดีกับโลกนั่นแหละครับ
พวกเราคงไม่อยากให้อะไรมันแย่หรือของแพงไปกว่านี้แน่
...จริงไหมล่ะครับ 😊😊😊😊....
อ้างอิง
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
