3 มิ.ย. 2022 เวลา 02:24
รีวิว เรื่องเร้นลับโลก - เด็กตาดำเป็นอย่างไรและมีอยู่จริงหรือ?
บทนำ: ว่ากันว่ามีเด็กประเภทหนึ่งที่ปรากฏตัวเฉพาะตอนกลางคืน อายุของเขาประมาณ 6-13 ปี ภายนอกดูเหมือนเด็กปกติ แต่ดวงตาของเขาเป็นสีดำสนิท นี่แหละที่ทำให้เรียกว่า "เด็กตาดำ" อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลนี้จะแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง แต่ความจริงเป็นที่น่าสงสัย เป็นไปได้ว่ามันไม่มีอยู่จริง
เด็กตาดำเป็นอย่างไร?
เด็กตาดำ ตามชื่อเลย คือเด็กที่มีดวงตาสีดำ ดวงตาของพวกเขาค่อนข้างแปลก มีเฉพาะส่วนสีดำเท่านั้นไม่มีสีขาว ดูเหมือนว่าจำนวนเด็กตาดำเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และค่อนข้างน่ากลัวเมื่อต้องเผชิญกับเด็กๆ เหล่านี้ ดวงตาสีดำจะจ้องมองมาที่คุณ จนคุณละสายตาไม่ได้
ถ้าคุณอยู่แถบชานเมืองตอนดึก และพบกับเด็กที่กำลังมองหาความช่วยเหลือ ดังนั้นคุณควรระวัง นี่อาจจะเป็นเด็กตาดำก็ได้ ว่ากันว่าเด็กคนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนปีศาจ พวกเขาเลือกมนุษย์บางคน และนำเข้าไปในขุมนรก
ว่ากันว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ตลอดระยะเวลา 22 ปี มีผู้คนหลายร้อยคนที่อ้างว่าเคยเห็นเด็กตาดำ แต่ไม่ว่าจะพบเห็นที่ไหน รายงานเกี่ยวกับเด็กคนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขามักจะเดินมาด้วยกันมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง หากพวกเขาขอความช่วยเหลือจากคุณแต่คุณปฏิเสธ ท่าทีของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงแข็งกร้าวทันที
เด็กตาดำมีจริงหรือไม่?
ในช่วงต้นฤดูร้อนปี พ.ศ. 2539 นักข่าวชื่อ Brian Bethel ออกไปทำข่าวตอนกลางดึก รถจอดอยู่ในลานจอดรถชานเมือง เด็กสองคนอายุราวๆ 10 ขวบมาขอความช่วยเหลือ เขาเปิดหน้าต่างออกก็พบว่าเด็กเหล่านั้นสวมเสื้อฮู้ดและคลุมศีรษะทั้งหมด พวกเขาบอกว่าไม่มีเงินติดตัว และขอความช่วยเหลือให้ช่วยส่งพวกเขาไปหาญาติที่ไหนสักแห่ง
เมื่อ Brian ต้องการให้ความช่วยเหลือ จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เขาจึงปฏิเสธ และบอกว่าเขาจะไปหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือให้ จากนั้นจึงขับรถออกไป หลังจากขับรถออกไป 20 เมตร แล้วมองที่กระจกหลัง กลับพบว่าเด็กสองคนหายตัวไปในหมอกสีดำแล้ว
มีเรื่องราวอีกมากที่พูดเกี่ยวกับเด็กตาดำ แต่เรื่องแบบนี้ก็เหมือนเรื่องผี ผีมีอยู่จริงในโลกหรือ? โดยรวมแล้วมีโอกาสเป็นเรื่องจริงไม่สูงมาก เป็นไปได้มากที่สุดว่าเป็นแค่เรื่องเล่า บางทีมันอาจเป็นเพียงผลผลิตของข้อมูลที่ผิดพลาดเท่านั้น
บทสรุป: ทุกคนเชื่อในวิทยาศาสตร์ ความสงสัยเกี่ยวกับควายธนู ภูตผี และสัตว์ประหลาดบางตัว จริงๆ แล้วหลายๆ อย่างที่ดูน่ากลัวกลับกลายเป็นว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็เล่าต่อกันมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น
โฆษณา