3 มิ.ย. 2022 เวลา 02:51 • สัตว์เลี้ยง

🐰 กระต่ายเด็กน่ารักแล้วน่าเลี้ยงไหม?

การทำความรู้จักกระต่ายเด็ก หรือการศึกษาก่อนรับเลี้ยงจริง จะช่วยให้กระต่ายมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีชีวิตอยู่กับเราไปได้นานกว่าที่เคย
แรกพบสบตา กระต่ายอาจดูมีหน้าตาและท่าทางที่แตกต่างกันออกไป บางตัวหน้าตาอาจดูนิ่ง บางตัวดูน่ารักน่าฟัด และบางตัวอาจดูเคร่งขรึมรักสันโดษ แต่เชื่อเถอะว่า “พวกเค้ามีอะไรซ่อนอยู่อีกเยอะเลยนะคะ โดยเฉพาะความน่ารัก”
รู้จักกระต่ายก่อนรับเลี้ยง
หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีกับภาพกระต่ายหางปุยสุดน่ารัก ตัวกลม หูยาว ขนปุยทั้งตัว แต่รู้หรือไม่ว่ามีอีกหลายเรื่องราวที่เราควรต้องศึกษาก่อนรับเลี้ยงกระต่ายอย่างจริงจัง
การเลี้ยงกระต่ายเป็นเรื่องสนุก มีเรื่องตลก เป็นเรื่องที่มีแต่ความสุข และยังเป็นเรื่องที่ต้องระวัง .... จากประสบการณ์การเลี้ยงกระต่ายของบ้านลาแปง ยังมีหลายอย่างจากประสบการณ์การดูแลกระต่ายที่มีอยู่จริงนอกตำราใดๆ บ้านลาแปงเลยอยากขอแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่กำลังคิดเลี้ยงกระต่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งสำหรับประกอบการตัดสินใจที่จะรับเจ้าหางปุยเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แต่ก่อนตัดสินใจเลี้ยงเจ้าตัวแสบ บ้านลาแปงคิดว่าสิ่งที่กำลังจะแชร์ต่อจากนี้ จะช่วยให้ความรู้ ความสนุกและรู้จักกับเจ้าหางปุยสุดน่ารักกันมากขึ้นนะคะ
กระต่ายวัยเบบี๋ อายุ 2 เดือน
“กระต่ายเด็ก” คือกระต่ายที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุไม่เกิน 12 เดือน เป็นช่วงอายุตามตำราที่ถูกต้องนะคะ ซึ่งได้มีการจัดช่วงอายุไว้ว่า....
ช่วงเบบี๋ > แรกเกิด - 3 เดือน (เป็นช่วงที่ต้องประคับประคองกันอย่างจริงจังมาก ที่สำคัญต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเลยทีเดียว)
ช่วงวัยซน > อายุ 3 - 6 เดือน (เริ่มฉายแววแห่งความซุกซน วัยแห่งการอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด)
ช่วงวัยว้าวุ่น > อายุ 6 - 12 เดือน (เริ่มรู้จักชีวิตมากขึ้น สามารถใช้ชีวิตจากแบบแผนที่สร้างได้เอง)
ในระหว่างช่วงอายุไม่เกิน 12 เดือนนี้ กระต่ายจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน การเล่น การเรียนรู้ รวมถึงการนอน
บอกได้เลยว่าทาสจะเหนื่อยกว่าที่เคย แต่กลับกันจะได้รับความสุขมากๆ เป็นการตอบแทน เพราะกระต่ายก็ไม่ต่างจากเด็กเล็ก ที่มักจะชอบการเรียนรู้ ช่างสำรวจ ในขณะเดียวกัน ก็มักจะแสดงพฤติกรรมที่น่ารักหรือทะเล้นแตกต่างกันไป ในช่วงวัยเด็ก เป็นช่วงที่เราจะเก็บเกี่ยวภาพความน่ารักของหางปุยได้เยอะมากๆ เพราะแววตาที่สดใส บวกกับความน่ารักและความซุกซน ก็มักจะทำให้เรายิ้มได้ทั้งวันแบบไม่รู้ตัวกันเลยค่ะ
กระต่ายเด็กกำลังต้องการ การเรียนรู้ตามช่วงวัย
แล้วอาหารของกระต่ายคืออะไร?
กระต่ายมีอาหารหลักคือ “หญ้า” และ “อาหารเม็ด” โดยหญ้าจะแบ่งตามช่วงวัยเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและโครงสร้างของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงตามช่วงวัย
กระต่ายเด็ก > หญ้าอัลฟาฟ่า [Alfalfa Hay] + อาหารเม็ดสำหรับวัยเด็ก + น้ำสะอาด
กระต่ายโตเต็มวัย > หญ้าทิมโมธี [Timothy Hay] + อาหารเม็ดสำหรับกระต่ายโตเต็มวัย + น้ำสะอาด
กระต่ายวัยชรา > หญ้าทิโมธีผสมหญ้าอัลฟาฟ่า + อาหารเม็ดสำหรับกระต่ายวัยชรา + น้ำสะอาด
ซึ่งเดี๋ยวนี้อาหารกระต่ายหาซื้อได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ เนื่องจากมีผู้นำเข้าอาหารสัตว์จากต่างประเทศหลายราย ที่นำเข้าอาหารของกระต่ายมาจำหน่ายในประเทศไทยเยอะมากขึ้น จนสามารถสั่งซื้อออนไลน์และส่งถึงบ้านกันได้ง่ายๆ แล้วด้วยนะ และถ้าเลี้ยงกระต่ายด้วยการให้อาหารที่ถูกหลักโภชนาการสำหรับกระต่าย ก็จะยิ่งช่วยให้กระต่ายที่เรารักอยู่กับเราได้นานมากขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาวมากขึ้นด้วยนะคะ
หญ้าแห้งเป็นอาหารหลักของกระต่าย
เห็นบ่อยๆ ว่ากระต่ายกินแครอทกับผักบุ้ง แท้ที่จริงแล้วกินได้ใช่หรือไม่?
หลายคนอาจคุ้นเคยกับภาพกระต่ายกินแครอทและผักบุ้งกันตั้งแต่เด็กๆ จากการ์ตูนบางเรื่อง ซึ่งนั้นไม่ได้แปลว่าเข้าใจผิดนะคะ เพียงแต่กระต่ายช่วงวัยที่จะสามารถกินแครอทกับผักบุ้งได้นั้น ต้องเป็นกระต่ายโตเต็มวัยแล้ว
แต่ทั้งนี้ “แครอทและผักบุ้ง ไม่ใช่ อาหารหลักของกระต่าย” แต่เป็นเหมือนอาหารว่างที่กินได้แต่ไม่ควรกินบ่อย เพราะแครอทและผักบุ้งเป็นของสดที่ไม่ส่งผลดีต่อระบบย่อยของกระต่ายสักเท่าไหร่ และที่สำคัญ “ผักบุ้งมียาง” ที่อาจไปทำลายระบบย่อยให้เสียหายได้ค่ะ
กระต่ายโตเต็มวัย สามารถกิจผักหรือผลไม้อบแห้งได้ แต่ควรจำกัดปริมาณ
พื้นที่สำหรับการเลี้ยงกระต่าย ควรต้องเป็นแบบไหนดี?
การเลี้ยงกระต่ายสามารถเลี้ยงได้หลายแบบ ทั้งแบบกรง หรือแบบเป็นคอกเพื่อเพิ่มพื้นที่กว้างๆ ให้กับหางปุย ซึ่งไม่ว่าการเลี้ยงแบบไหนก็มักจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ปัจจุบันนิยมเลี้ยงให้อยู่กรง เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่ให้กระต่ายเรียนรู้ถึงขอบเขตหรือพื้นที่ส่วนตัวของกระต่ายเอง ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยงทั้ง 2 แบบกันค่ะ
จากประสบการณ์ของบ้านลาแปงที่เลี้ยงอยู่และที่เคยเจอนั้น มีความแตกต่างกันหลายรูปแบบมากๆ เลยค่ะ
"การเลี้ยงแบบกรง"
นอกจากจะช่วยจำกัดพื้นที่ให้กระต่ายได้รู้สึกว่ามีพื้นที่ส่วนตัวแล้ว กรงยังเปรียบเสมือนห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องน้ำ และยังเป็นระเบียงพักผ่อนไปในตัวอีกด้วย ซึ่งห้องต่างๆ ทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในกรงทั้งหมด นั่นแปลว่ากรงควรมีพื้นที่อย่างน้อย 40x60 เซนติเมตร เพื่อให้มีพื้นที่อิสระได้พอดีกับกระต่าย 1 ตัว นะคะ
กรงเป็นห้องส่วนตัวของกระต่ายที่ควรต้องมี
เมื่อมีห้องนอนหรือกรงแล้ว ก็ควรต้องมีพื้นที่วิ่งเล่นหรือสนามเด็กเล่นส่วนตัวด้วยจะดีมากๆ เพื่อลดความเครียดให้กับกระต่าย เพราะการที่กระต่ายถูกขังอยู่ในกรงเป็นเวลานานมักจะเกิดความเครียดได้ง่าย
และหากเกิดความเครียดก็จะส่งผลทำให้ระบบย่อยในลำไส้แปรปรวนไปด้วยเช่นกันนะคะ ดังนั้นเพื่อผ่อนคลายความเครียด กระต่ายควรต้องได้รับการปลดปล่อยด้วยการวิ่งเล่นหรือได้ออกพื้นที่กว้างๆ อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงจะช่วยให้กระต่ายอารมณ์ดี ไม่เครียด และยังส่งผลให้อึกลมแข็งเป็นปกติด้วยนะ
สนามเด็กเล่นที่จำกัดพื้นที่ ช่วยเรื่องความสะอาดได้อย่างมาก
และพื้นที่วิ่งเล่นของกระต่าย จำเป็นมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าจำเป็นมากเช่นกัน เพราะธรรมชาติของกระต่ายคือการได้เคลื่อนไหว ได้วิ่ง ได้ดมหาอาหาร และสิ่งสำคัญสำหรับกระต่ายมากๆ เลยคือการหาที่พักผ่อนหย่อนใจไม่ว่าจะนอนเล่นรับลมท่ามกลางสวนสวย หรือแอบตามมุมเพื่อนอนเงียบๆ ในโพรงหรือใต้สิ่งของที่สามารถเป็นร่มเงาให้รู้สึกปลอดภัยนั่นเองค่ะ
สนามหญ้าเป็นส่วนประกอบช่วยลดความเครียดให้กระต่ายได้
หากใครที่กำลังคิดจะรับอุปการะกระต่ายหาบ้าน หรือซื้อกระต่ายที่ถูกใจมาดูแล ก่อนเลี้ยงแนะนำควรศึกษาและทำความเข้าใจในธรรมชาติของกระต่ายก่อน เพื่อถึงเวลาจริงที่ได้สัมผัส ได้ใกล้ชิดกระต่ายจริงๆ จะได้เข้าใจในธรรมชาติของกระต่ายมากยิ่งขึ้นนะคะ
แน่นอนว่าเรื่องราวกระต่ายหางปุยสุดน่ารักยังไม่จบเพียงเท่านี้ แต่รอบหน้าบ้านลาแปงจะมาแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงกระต่ายในมุมไหน รอติดตามอ่านกันต่อในรอบหน้านะคะ
🔘 ขอบคุณแหล่งอ้างอิงข้อมูลโภชนาการ: www.oxbowthailand.com
🔘 บทความและรูปภาพโดย : Rabbitbellus
โฆษณา