5 มิ.ย. 2022 เวลา 11:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นักวิจัยคิดค้นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่สามารถเปลี่ยนน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดได้อย่างง่ายๆ
โลกของเรามีพื้นที่ส่วนที่เป็นน้ำมากถึง 70% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นน้ำทะเลที่อยู่ในมหาสมุทร และมีน้ำจืดเพียงแค่ 3% เท่านั้น
ถ้าแบ่งน้ำจืด 3% ออกเป็น 100 ส่วน จะมีน้ำจืดในแหล่งน้ำผิวดิน เช่น แม่น้ำ ลำธาร อ่างเก็บน้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง ที่มนุษย์สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้เพียงแค่ 0.3 ส่วน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรโลกในปัจจุบัน
นอกจากนี้ การขยายตัวของเมือง มลพิษที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ยังส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากที่ขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มว่าน่าจะมีคนที่ไม่มีน้ำสะอาดดื่มมากขึ้น
นั่นจึงทำให้นักวิจัยจากหลายประเทศพยายามหาวิธีผลิตน้ำดื่มจากแหล่งน้ำอื่น โดยมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนน้ำทะเลที่มีอยู่อย่างมากมายให้กลายเป็นน้ำสะอาดที่สามารถดื่มได้
ที่ผ่านมามีการคิดค้นอุปกรณ์หรือเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืดในหลายรูปแบบ
โดยอาจจะเป็นเครื่องกลั่นน้ำทะเลขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาสูงและเคลื่อนย้ายลำบาก หรืออาจจะเป็นเครื่องขนาดเล็กที่จำเป็นต้องใช้วัสดุกรองน้ำหรือปั๊มน้ำแรงดันสูง เพื่อกำจัดเกลือและสิ่งสกปรก ทำให้ต้องเสียค่าจัดการดูแลค่อนข้างมาก
แต่ล่าสุดนักวิจัยจากสถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology) ได้พัฒนาอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่สามารถเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืด โดยไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุกรองน้ำหรือปั๊มน้ำแรงดันสูง แถมยังใช้งานง่ายอีกด้วย
อุปกรณ์ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลของ MIT
อุปกรณ์ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลของ MIT มีขนาดประมาณกระเป๋าเดินทางและมีน้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย
นอกจากนี้ มันยังใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าการชาร์จโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถต่อเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก
มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายมากเพียงแค่กดปุ่มปุ่มเดียว จากนั้นจะเกิดสนามไฟฟ้าที่ช่วยแยกโมเลกุลของเกลือและเชื้อโรคต่าง ๆ ออกจากน้ำทะเล จนได้เป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย โดยน้ำดื่มที่ผลิตได้จะมีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก (WHO)
อุปกรณ์ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลของ MIT ยังคงเป็นเพียงเครื่องต้นแบบที่ผลิตน้ำดื่มได้ในปริมาณน้อย แต่นักวิจัยจะปรับปรุงให้มันสามารถผลิตน้ำดื่มได้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการนำไปใช้งานในสถานที่ห่างไกลหรือในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เช่น ภาวะแห้งแล้งผิดปกติ น้ำท่วมขนาดใหญ่ และการเกิดสงคราม
โฆษณา