และเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่สาวกหญิง 2 คนของ Manson Family ไปมีความสัมพันธ์สวาทกับชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "เดนนิส วิลสัน (Dennis Wilson)" มือกลองวง Beach Boy ที่กำลังมาแรงในช่วงนั้น
คราวนี้แหละครับ เดนนิสเลยแนะนำให้ชาร์ลรู้จักกับคนดังในวงการดนตรี จนมีโอกาสเข้าไปช่วยวงระดับตำนานอย่าง The Beatles ทำเพลงออกมาเพลงหนึ่งชื่อ Helter Skelter
1
เหมือนประตูแห่งการเป็นศิลปินจะเปิดอ้าให้ชาร์ลเดินเข้าไปแล้ว แต่ทว่า ด้วยจิตใจ นิสัยส่วนตัว และ พฤติกรรมแปลกๆ ของ Manson Family มันได้ทำให้ประตูนั้นปิดลงต่อหน้าต่อตาชาร์ลในที่สุด...
เพราะชาร์ลมักเข้ามาอยู่กินในบ้านเดนนิสเหมือนกับเป็นบ้านตัวเอง และตอบแทนโดยให้สาวกสาวๆ ไปนอนกับเดนนิส อีกทั้งเดนนิสยังต้องจ่ายค่าอาหาร เหล้า รวมไปถึงสารเสพติดต่างๆ ให้กับ Manson Family ไปไม่น้อยเลยล่ะครับ
ในตอนแรกตำรวจยังสาวไม่ถึงตัวของชาร์ล แต่ทว่า หนึ่งในสาวกที่ถูกจับก็ดันขี้โม้โอ้อวดอย่างภูมิใจว่ากลุ่มของตัวเองที่ชื่อ Manson Family เป็นคนบงการฆ่าดาราสาวคนนั้น พร้อมบรรยายการวางแผนและฉากฆาตกรรมแบบละเอียดยิบ!
คราวนี้แหละครับ ตำรวจเลยยกกำลังไปจับกุม Manson Family ในทันที...
การเข้าจับกุม Manson Family ในรังเป็นไปอย่างง่ายดายมาก ชาร์ลและสาวกไม่มีอาการขัดขืนเลย โดยมี 15 คน ที่ถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น
หลังชาร์ลเข้าไปอยู่ในเรือนจำ อุดมการณ์ของ Manson Family ก็ไม่ได้จบลงตามไปด้วย มีเหล่าสาวกที่ยังคงศรัทธาในตัวของชาร์ลและเชื่อในคำทำนายของ Helter Skelter อยู่ โดยยังก่อความวุ่นวายเพื่อจุดไฟเรื่องประเด็นสีผิวอยู่ประปราย
รวมถึงคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เห็นชาร์ลและ Manson Family เป็นไอดอล พากันสร้างหลักความเชื่อแปลกๆ เกิดเป็นลัทธิต่างๆ ทั่วทั้งสหรัฐฯ ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา
La Tercera (การสักเครื่องหมายบนหน้าผากของชาร์ล แมนสัน)
ภาพจาก You Must Remember This (เหล่าสาวกที่ทำเครื่องหมายตามชาร์ล แมนสัน)
ภาพจาก AP images blog (การพิจารณาคดีที่เห็นได้ว่าชาร์ล แมนสันไม่ได้มีความกังวลเลยซักนิดเดียว)
ในช่วง 1960-1970 ถือเป็นยุคทองของซ้ายใหม่และฮิปปี้ที่มีแนวคิดต่อต้านสังคมอเมริกันแบบเดิมๆ เพราะภาวะของสงครามเย็นและสงครามเวียดนาม ที่แม้ชาร์ลและ Manson Family จะมีแนวคิดสุดโต่งขนาดไหนหรือก่ออาชญากรรมร้ายแรงเพียงใด แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่เห็นว่านี่คือความถูกต้อง
เหล่าคนที่เห็นด้วย คล้อยตาม หรือหลงไหลใน Manson Family ก็ลดลงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน แม้กระทั่งเหล่าสาวกก็เริ่มตาสว่างและเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาเคยเชื่อเคยศรัทธานั้นมันไม่จริงเลยซักนิดเดียว
พวกเขาต่างมองกลับไปว่า “สิ่งที่ Manson Family ได้ทำ เป็นเพียงอาชญากรรมอันโหดเหี้ยมที่ไร้ซึ่งเหตุผล”
Bugliosi, Vincent. Helter Skelter: The True Story of the Manson Murders. New York : W. W. Norton & Company, 2001.
Lake, Dianne. Member of the Family: My Story of Charles Manson, Life Inside His Cult, and the Darkness That Ended the Sixties. New York : William Morrow, 2017.
O’Neill, Tom. Chaos: Charles Manson, the CIA, and the Secret History of the Sixties. Boston : Little Brown and Company, 2019.