3 มิ.ย. 2022 เวลา 09:55 • หนังสือ
1. อ่านรอบแรกแบบกว้างๆ ไม่ต้องลงรายละเอียด อ่านให้เห็นโครงเรื่องในหนังสือ ว่าเขากล่าวถึงเรื่องอะไร เป็นหลัก ยังไม่ต้องสนใจในรายละเอียด สนใจแต่หัวข้อหลักในโครงเรื่อง เช่นหนังสือกล่าวถึงเรื่องบ้าน ก็สนใจ ใจความหลักว่าบ้านคืออะไร ประกอบด้วย ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ยังไม่ต้องสนใจว่าข้างในมีเหล็ก หิน ดินทราย ไม้ วัสดุ ประตู หน้าต่าง
ถ้าหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านจบ ต้องสามารถบอกได้ว่าคร่าวๆว่ามีใคร ทําอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่ยังไม่ต้องจําชื่อ สถานที่ หรือรายละเอียดต่างๆ
2. อ่านใหม่รอบที่สอง หยิบสมุดโน๊ตมาจดรายละเอียดที่มันเยอะ มีชื่อ มีศัพท์ หัวข้อแยกย่อยเต็มไปหมด ใส่เข้าไปในสมุดโน๊ต เมื่อเราอ่านรอบแรกมาแล้ว เรารู้โครงเรื่อง เราโน๊ตใส่รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ โดยอ่านไปโน๊ตไป ใส่รายละเอียดเต็มที่ในโน๊ต แบบ short note ไม่ต้องเขียนยาวเฟื้อย เขียนใช้สัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคย สรุปย่อๆเรื่องราวเป็นภาษาพูดลงในโน๊ต ทําอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อ่านไป โน๊ตไปจนจบเรื่อง
1
3. สุดท้าย เราจะได้ short note สรุปเรื่องราวหนังสือในเล่ม ประมานไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4
ตอนหัดทําแรกๆ อาจจะยาวเป็นหางว่าว ปะติดต่อเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ ก็ไม่เป็นไร เอา short note ของตัวเองมาลองอ่านดูว่า อ่านรู้เรื่องไหม ถ้ายังไม่ดีพอ ก็ลองอ่านและสรุปใหม่อีกรอบ ก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆเอง
1
4. เมื่อฝึกทําจนคล่องแล้ว short note ใช้ได้ อ่านรู้เรื่อง ก็เอา short note ทําการท่องจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ไม่ว่ามันจะยาก ซับซ้อน เป็นสูตรคณิตศาสตร์ ที่ดูวุ่นวาย หัวข้อหลักๆมันจะอยู่แค่ในกระดาษ A4 ซึ่งง่ายต่อการจํามาก
5. เมื่อทําสรุป short note เป็นและเก่งแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นมาทํา flow chart, flow diagram หรือเป็น แผนผัง หรือ mind map จะยิ่งเข้าใจง่าย ประเภทอ่านปั๊บรู้ปั๊บเลย เด็กเก่งๆ จะใช้วิธีนี้กันเยอะมาก โดยเฉพาะพวกวิชาเคมี ชีววิทยา ที่เนื้อหาเยอะมาก สมัยผมเป็นนักเรียน ผมเกลียดวิชาพวกนี้มาก จึงขอ copy สรุปโน๊ตของคนเก่งๆในห้อง มาอ่านประจำ เพราะขี้เกียจอ่านหนังสือ แล้วก็รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
เทคนิคนี้ใช้กับวิชาสายศิลปภาษาได้ด้วยนะ
แต่น้องลองสังเกตไหมว่า น้องไม่จำเป็นต้องทําสรุปโน๊ต เพื่อที่จะจําให้ได้กับหนังสือทุกประเภท การ์ตูน หนังสือที่เราชอบ ไม่มีความจำเป็นต้องทําเช่นนั้นเลย มันจะจําของมันได้เองเป็นอัตโนมัติ ซึ่งนิสัยรักการอ่านของคนไทยถูกละเลยมาตั้งนาน ไม่มีการปลูกฝังค่านิยมนี้ลงไปในสังคมให้มาก internet หรือโลก social มันจึงครอบงำสังคมไปทุกหย่อมหญ้า คนไทยจึงอ่านหนังสือกันน้อยมากติดอันดับโลก ประเภทไม่เกิน 5 บรรทัด
โฆษณา