3 มิ.ย. 2022 เวลา 10:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บริษัท Snowflake ทำลายกฎการลงทุนตลอดชีวิตของ Warren Buffet ได้อย่างไร!!
ถ้าถามเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านว่านักลงทุนในตำนานที่ยอดเยี่ยมตลอดการคือใคร
เชื่อว่าชื่อของคุณปู่จอมเก๋าจากดินเเดน Omaha อย่าง Warren Buffet ต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับเเรกอย่างเเน่นอน
ซึ่งถ้าใครเคยศึกษาเรื่องการลงทุนก็คงจะรู้ว่าคุณปู่ Buffet เเกเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investing (VI)* เป็นอย่างมาก
เเละจะไม่ focus ในกลุ่มการลงทุนในหุ้น Tech stock ร้อนเเรง หรือ IPO เลยมาตลอด (ถึงเเม้ปัจจุบันจะมี Apple เข้ามาเเล้วก็ตาม)
ทว่าในปี 2020 Berkshire Hathaway กองทุนที่ปู่เเกก่อตั้ง ก็ได้ทุ่มเงินกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐลงในหุ้นบริษัท Tech ด้านการจัดการข้อมูล (Data cloud management warehouse)
ที่กำลังเติบโตอย่างร้อนเเรง อย่างบริษัท Snowflake
ที่งบการเงินก็ยังขาดทุน มิหนำซ้ำยังเพิ่งจะ IPO เข้าตลาดอีกเสียด้วย!
เรียกได้ว่าหักปากกาเซียนใครหลายๆคน
เเละไม่แปลกใจเลยที่การซื้อนี้ ต้องทำให้ตลาด Wall Street หรือเเม้เเต่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างเเน่นอน
วันนี้ทาง ThaiTechTalk จึงอยากมาเล่ากันสั้นๆอ่านง่ายๆ สบายสมองกันครับว่า
ทำไมการลงทุนครั้งนี้จึงเกิดขึ้นได้
ถ้าพร้อมเเล้ว ไปลุยกันเลยครับ!
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้าบริษัทเทคชื่อเหมือนเกล็ดหิมะ หรือ Snowflake Inc. กันก่อนครับ
เเน่นอนว่าทุกวันนี้ เพื่อนๆหลายคนคงได้ยินกันตลอดว่า Data is the new oil ใช่ไหมละครับ
เพราะว่าทุกธุรกิจก็เริ่มมีการเก็บข้อมูลมากขึ้น จากโลกดิจิตอลในปัจจุบัน
เเต่ละบริษัททั่วโลก
ก็ต้องพยายามที่จะนำข้อมูลเเต่ละส่วน ไม่ว่าจะมากจาก Social network ระบบ POS การขายจากตัวเว็บ / หน้าร้าน / จากมือถือลูกค้าหรืออีกมากมาย
มารวมกัน ปรับเเต่ง แปลงข้อมูล เพื่อวิเคราะห์
เเละสร้างประโยชน์
ซึ่งฟังดูเเล้วก็เหมือนจะง่าย
เเต่ถ้าใครเคยลองรวมข้อมูลพวกนี้ด้วยตัวเอง
จะรู้เลยครับว่า มันโคตรจะสับสน เเละยากมากที่จะจัดการโดยที่จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นตามมา
ยังไม่นับว่าต้องนำข้อมูลต่างๆนั้นมาวิเคราะห์ต่ออีกนะ!
บริษัท Snowflake ก็เลยเห็นช่องโหว่ของปัญหานี้ เเละสร้างธุรกิจขึ้นมาตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้นั้นเองครับ
โดยตัวบริษัทให้บริการ ให้คำปรึกษา จัดเก็บ แปลงข้อมูล รวมข้อมูล เเละวิเคราะห์ข้อมูลครบจบในที่เดียว
เรียกได้ว่าถ้าคุณไม่รู้อะไรเลย เดินเข้ามาโยนข้อมูลทั้งหมดที่มีให้ Snowflake
บริษัทก็จัดการให้ตั้งเเต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลยก็ว่าได้ครับ
ซึ่งก็เเน่นอนตอบโจทย์ขนาดนี้ บริษัทใหญ่ๆมากมายหลายเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นEA sport / Dropbox / Adobe / Western Union เเละอื่นๆอีก
มากมายก็กลายมาเป็นลูกค้าของ Snowflake ทั้งนั้นครับ
ก็ฟังดู wow ดีนะ เเต่เเล้วทำไม Berkshire Hathaway กองทุนอันสุด classic แบบ anti-tech ถึงมาซื้อละ?
จริงๆตัวผมก็คงไม่สามารถอ่านใจผู้จัดการกองทุน Berkshire Hathaway ที่ปู่เเกเลือกมาให้ว่า thesis ของเเก้คืออะไรนะครับ (ฮ่าๆ)
เเต่จากการวิเคราะห์บทความต่างๆ ก็ออกเป็นเเนวเสียงเดียวกันดังนี้
1.ผลการดำเนินงานอันสุดยอดของบริษัท
Snowflake มียอดขายสุทธิ (Top line revenue) สูงถึง 592 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021
นับเป็นการเติบโต 124% จากปี 2020 ที่ 265 ล้านเหรียญสหรัฐกันเลยทีเดียว
ซึ่งตัวบริษัทมองว่าจะขยายรายรับไปมากถึง 1000 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 เลยทีเดียว
เเต่เเค่นี้ มันก็ไม่ต่างไรจะหุ้น Tech ร้อนเเรกตัวอื่นนิ เเถมบริษัทก็ยังขาดทุนเหมือน startup ทั่วไปที่ปู่เเกเกลียดนิ
จึงนำมาสู่ข้อ 2 ครับ
2.ผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยม
เป็นที่รู้กัน ที่ Startup ส่วนใหญ่ขาดทุนก็เป็นเพราะว่าบริษัทต้องทุ่มเงินมหาศาล
เพื่อทำการตลาด (Marketing) เพื่อสะกิดให้ลูกค้าหน้าใหม่ ทดลองใช้ Service ของตน
ซึ่ง Snowflake ก็เป็นหนึ่งในนั้นทว่า สิ่งที่ต่างคือ ถึงเเม้ว่าคุณจะจ้าง Agency Marketing เทพสักเเค่ไหน
ถ้า Product คุณห่วยละก็ เงินเหล่านั้นมันก็สูญเปล่า
ทว่าไม่ใช่กับ Snowflake ครับ
บริษัทมีตัวเลข Churn rate** ที่ต่ำมากๆ รวมไปถึง Retention rate** ที่สูงมากๆ
สูงในระดับที่ว่าเมือเทียบ Enterprise SaaS แบบ B2B (กลุ่มอุตสหกรรมที่ Snowflake อยู่) ตัวอื่นๆในตลาด
ก็ต้องยกธงขาวยอมเเพ้ให้ Snowflake กันทั้งนั้น
ซึ่งถ้ามองกันเล่นๆง่ายๆว่า เเค่ 2 มุมนี้ ถามว่าตรงกับจริตปู่เเกไหม ก็อาจจะไม่ 100%
เเต่ถ้าเทียบเป็นบริษัทที่เเกเคยลงทุน ไม่ว่าจะเป็น PEPSI ที่ใครๆทุกคนก็นึถึง ซอสมะเขือเทศ Heinz ที่ใครๆก็จิ้มกิน
หรือ Apple บริษัทที่มองไปทางไหนก็เห็น เเต่ Iphone เเละ Macbook
เเละมองกลับมาในมุมที่ว่า บริษัทไหนที่ต้องการใช้ข้อมูลวิเคราะห์ก็ใช้ Snowflake ละ !!
ส่วนตัวผมก็มองว่าศาสตร์การลงทุนอย่าง Value Investing ปัจจุบัน ถ้าให้คนตีความก็คงมีเป็นล้านนิยาม
เเต่หัวใจหลักก็ย่อมคือการซื้อในบริษัทที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคา งบการเงินเเข็งเเรง เเละมีความเเข็งเเกร่งทางการเเข่งขันอย่างเเน่นอน
ซึ่ง Snowflake ถามว่าตรงไหม ก็คงต้องให้เพื่อนๆคิดกันเล่นๆเเล้วละครับ
สุดท้ายก่อนจากกันนักลงทุนอย่างเราๆ ต้องพร้อมที่ต้องปรับเปลี่ยนบริบทให้พร้อมต่ออนาคตอย่างเสมอ
เพราะธุรกิจรอบตัวเราเมื่อ 20 ปีก่อนกับปัจจุบันเเน่นอนต้องไม่เหมือนเดิมครับ!!!
ขอบคุณทุกท่านที่อดทนอ่านมาจนจบ ฮ่าๆ
{ถ้าบทความนี้มีอะไรตกหล่นหรือผิดพลาดประการได้ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ}
เขียนโดย Sam
อ้างอิง
-Customers Stories | Snowflake
-How Snowflake Broke Warren Buffet's Lifelong Rule - YouTube
[ Value Investing (VI)* คือการลงทุนที่เน้นดูพื้นฐานของบริษัท งบการเงิน กระเเสเงินสด เเละความสามารถในการเเข่งขันเป็นหลัก อาทิ บริษัท PEPSI / HEINZ ซอสมะเขือเทศ / American Express เป็นต้น]
[ **Churn rate คือตัวเลขที่บอกถึงอัตราการเลิกใช้บริการของลูกค้าต่อสินค้านั้นๆ Retention rate ตัวเลขที่บอกว่าลูกค้ากลับมาใช้บริการมากเเค่ไหน
โฆษณา