4 มิ.ย. 2022 เวลา 04:12 • การเมือง
..เมื่อ“สหรัฐอเมริกา” พิมพ์เงินออกมาเท่าไหร่ก็ได้ โลกเราจะเป็นอย่างไร?
รู้มั้ย? ประเทศเดียวในโลกที่สามารถพิมพ์เงินได้โดยไม่ต้องมีทองคำมาหนุนก็คือ “สหรัฐอเมริกา” ซึ่งสาเหตุอะไรที่ทำให้อเมริกาสามารถพิมพ์เงินออกมาเท่าไหร่ก็ได้ และทั้งโลกจะประสบปัญหาจากเหตุการณ์นี้ยังไง แอดจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1944 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจเก่าในยุโรปแย่ลงอย่างมาก ทำให้อเมริกาเชิญนานาประเทศมาเจรจาทำสัญญา “Bretton Woods System” และจัดตั้งองค์กรระดับโลกขึ้นมา 4 องค์กร คือ W.T.O , U.N. , I.M.F , W.H.O เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ
โดยประเด็นหลัก ๆ ที่ทำให้อเมริกากลายมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกนั่นก็คือ สหรัฐจะเอาสกุลเงินดอลลาร์มาผูกกับทองคำ แล้วให้ทุกประเทศหันมาใช้ “ดอลลาร์” ในการแลกเปลี่ยนแทน และได้ก่อตั้ง “ธนาคารโลก” เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ซึ่ง 44 ประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ยอมรับข้อตกลงทั้งหมด
แต่แล้วในปี 1971 ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ก็ตัดสินใจเลิกเอาดอลลาร์มาผูกกับทองคำ ทำให้อเมริกาสามารถพิมพ์เงินเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องมีทองคำมาค้ำประกันอีกต่อไป หลังจากนั้นเพียงแค่ 12 ปีนับตั้งแต่ปี 2008 จน สหรัฐได้ออก “QE” หรือมาตรการอัดฉีดเงินเข้าในระบบไปแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง โดยจะมี “ธนาคารกลางสหรัฐ” หรือ “FED” คอยควบคุมดูแลเสมอ
ทีนี้เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า ทำไมอเมริกาถึงไม่เกิดเงินเฟ้อจนเศรษฐกิจพังเหมือนประเทศอื่นล่ะ? เพราะสกุลเงิน “ดอลลาร์” มีค่าเพราะเป็นที่ยอมรับโดยทั่วโลก แม้จะพิมพ์เงินออกมาเท่าไหร่เยอะแค่ไหน แต่นโยบายนี้จะถูกกำหนดโดย “FED” เพื่อควบคุมออกนโยบาย ให้ดอลลาร์ยังมีค่าอยู่เสมอ
แล้วทั้งโลกจะประสบปัญหาจากเหตุการณ์นี้ยังไงล่ะ? เวลาเกิดวิกฤตด้านการเงิน อเมริกาสามารถผลิตเงินใหม่ขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องไปกู้ใคร แต่ประเทศที่ผลิตเองไม่ได้ หากเงินไม่พอพัฒนาประเทศก็ต้องกู้ “IMF” ซึ่งก็มีอเมริกาเป็นเจ้าของนั่นเอง
สรุปง่าย ๆ เลยก็คือ“ดอลลาร์” เป็นสกุลเงินกลาง ที่ใช้ค้าขายระหว่างประเทศ ทำให้ทั่วโลกยอมรับสกุลเงินนี้อยู่ ส่วนเงิน “บาท” ไม่ได้เป็นที่ถูกใช้งานจากประเทศอื่นมากนัก เลยไม่เหมาะที่จะพิมพ์เงินแบบอเมริกานั่นเอง...
@Open Up
4 มิ ย.65
โฆษณา