4 มิ.ย. 2022 เวลา 07:27 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตอันพลิกผันของชายผู้กลายเป็นมีมในตำนาน
ชายชราผมขาวคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปพร้อมกับถือแก้วกาแฟเอาไว้ด้วยมือซ้าย ใบหน้าของเขาจะมีรอยยิ้มที่ดูฝืนใจและมีแววตาที่ดูเศร้าสร้อย คือภาพที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนั้นคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในฐานะมีมที่ถูกใช้กันอย่างยาวนานและแพร่หลายไปทั่วโลก
มีมดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "Hide The Pain Harold (แฮโรลด์ผู้ซ่อนความเจ็บปวด)" หรือบางครั้งก็ถูกเรียกว่า "Maurice (มัวริซ)"
ที่มาของมีมนี้ต้องย้อนกลับไปในปี 2010 เมื่อชายชาวฮังการีผู้มีชื่อว่าออนดราช อะราโต (András Arató) วิศวกรไฟฟ้าอายุ 65 ปี ได้โพสต์ภาพเซลฟี่ตอนที่เขาไปเที่ยวประเทศตุรกีลงในเว็บโซเชียลมีเดียของฮังการี (สมัยนั้นเฟสบุ๊คยังไม่แพร่หลายเท่ากับในปัจจุบัน)
ช่างภาพคนหนึ่งได้เห็นภาพถ่ายของออนดราชก็เกิดถูกใจขึ้นมา นี่คือคนที่มีลักษณะตรงตามที่เขาตามหามานาน ช่างภาพคนนั้นจึงได้ติดต่อออนดราชไปเพื่อขอให้เขามาเป็นนายแบบในภาพถ่ายที่เขาจะลงขายในเว็บไซต์ขายภาพออนไลน์ที่มีชื่อว่า Dreamstime
ออนดราชผู้อยากลองเป็นนายแบบดูสักครั้งในชีวิตก็ได้ตอบตกลงช่างภาพคนนั้นไป เขาได้สวมบทบาทในหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นหาแพทย์ ศาสตราจารย์ ทนายความ นักกีฬากอล์ฟ ฯลฯ
ทั้งคู่ทำงานร่วมกันประมาณ 2 ปี มีผลงานเป็นภาพถ่ายออกมาหลายร้อยภาพ
ออนดราชรู้อยู่แล้วว่าภาพถ่ายของเขาจะถูกนำไปใช้เชิงธุรกิจและจะไปปรากฎอยู่ตามสื่อต่าง ๆ แต่ที่เขาคาดไม่ถึงก็คือวันหนึ่งภาพถ่ายของเขาจะถูกใช้เป็นมีมจากผู้คนมากมายทั่วโลก
จุดกำเนิดของมีม Hide The Pain Harold เริ่มที่เว็บไซต์ Facepunch เมื่อยูสเซอร์ที่มีชื่อว่า Greenen72 ได้นำภาพที่ติดลายน้ำของเว็บ Dreamstime มาโพสต์ลงในกระดานสนทนาของเว็บเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2011
ยูสเซอร์ที่มีชื่อว่า FreakySoup เห็นว่าภาพของชายแก่คนนี้นั้นดูเศร้าเสียเหลือเกิน เขาก็เลยตั้งชื่อภาพนั้นว่า Hide The Pain Harold และนี่เองคือที่มาของชื่อมีมระดับตำนาน
วันที่ 23 ตุลาคม 2011 มีการสร้างเพจในเฟสบุ๊คที่มีชื่อว่า Hide the Pain Harold ภาพถ่ายมากมายที่เกี่ยวกับแฮโรวด์ก็ถูกโพสต์ลงในเพจนั้น
วันที่ 1 มกราคม 2014 เพจที่มีชื่อว่า Maurice ซึ่งความคล้ายคลึงกับเพจ Hide the Pain Harold ก็ถูกสร้างขึ้นมา กลายเป็นว่าเพจ Maurice ที่ถูกสร้างขึ้นทีหลังกลับได้รับความนิยมมากกว่าเพจ Hide the Pain Harold เสียอีก นั่นจึงทำให้คนจดจำมีมนี้ในอีกชื่อว่า "มัวริซ"
ออนดราชได้กลายเป็นคนดังไปแล้ว โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย
หลายปีต่อมาออนดราชเกิดสงสัยขึ้นมาว่าภาพในเว็บไซต์ Dreamstime ที่เขาเป็นนายแบบจะถูกนำไปใช้แบบไหนบ้าง เขาจึงได้เข้าค้นหาในเว็บ Google แล้วออนดราชก็ต้องประหลาดใจอย่างมากที่ภาพเขาของถูกใช้เป็นมีมอย่างแพร่หลายไปเสียแล้ว
ตอนแรกออนดราชก็มองเป็นเรื่องขบขันเพราะบางภาพก็มีข้อความตลก ๆ เขียนเอาไว้ แต่ต่อมาเขาก็พบว่าบางภาพนั้นมีข้อความที่ดูหยาบคายรุนแรง เช่นเกี่ยวกับเรื่องเพศหรือเรื่องการเมือง
ถึงตอนนั้นออนดราชก็นึกอยากจะเอาลบภาพเขาออกจากโลกออนไลน์ไปให้หมด แต่เขาก็รู้ดีว่าทำไม่ได้เพราะภาพมันได้แพร่กระจายออกไปในวงกว้างจนควบคุมไม่ได้เสียแล้ว
ทางด้านเพื่อนฝูงของออนดราชต่างรู้สึกขบขันเมื่อเห็นว่าเขาได้กลายเป็นมีม ตรงข้ามกับครอบครัวของเขาที่รู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย
พอมีม Hide The Pain Harold กลายเป็นที่นิยมในระดับโลกขึ้นมา ก็มีนักข่าวอยากจะสัมภาษณ์ออนดราชและมาหาเขาถึงที่บ้าน ในเมื่องบูดาเปสต์ซึ่งเป็นเรื่องที่ภรรยาของเขาไม่ชอบเอาอย่างมากเพราะคิดว่าชีวิตส่วนตัวของพวกเขากำลังจะถูกแทรกแซง อีกอย่างเธอก็ไม่ชอบภาพของเขาที่ถูกถ่ายออกมาด้วย
หลายคนคิดว่าออนดราชไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยโปรแกรม Photoshop บางคนก็หาอีเมล์เขาจนเจอและส่งข้อความมาถามว่าเขามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ออนดราชรู้สึกรำคาญใจคือการที่มีเพจจำนวนหนึ่งเอารูปของเขาไปใช้ประโยชน์ บางเพจก็แสร้งว่าเป็นตัวเขาเอง แถมเพจพวกนี้ยังมีผู้ติดตามอยู่หลายพันคน ออนดราชจึงคิดว่าในเมื่อพวกนี้มันยังใช้ประโยชน์จากตัวตนเขามานานแล้วทำไมเขาจะทำบ้างไม่ได้ (วะ)
ในปี 2017 ออนดราชจึงได้สร้างเพจขึ้นในเฟสบุ๊คในชื่อว่า Hide The Pain Harold (Aka András Arató) ซึ่งเขาได้อัพเดทเรื่องราวของเขาไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบภาพนิ่งหรือวีดีโอ
พอผู้คนรับรู้ว่าออนดราชมีตัวตนอยู่จริง ไม่ได้ถูกสร้างด้วย Photoshop มีมของเขาที่เคยมีข้อความหยาบคายก็เริ่มหายไป
หลังจากนั้นก็เริ่มมีผู้ติดต่อเขาให้ไปปรากฎตัวในงานต่าง ๆ เช่นโฆษณาที่ฉายทางโทรทัศน์ในฮังการี ซึ่งเงินค่าจ้างที่ได้มาในครั้งนั้นก็ทำให้ภรรยาของเขาเปลี่ยนความคิดที่เคยมีกับมีมไปเลย
ออนดราชยังได้ไปถ่ายโฆษณาให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ไปเล่น mv ให้กับวง Cloud 9+ ซึ่งเป็นวงร็อคสัญชาติฮังกาเรียน และได้ไปพูดในงานสัมนา Ted talk
เมื่อออนดราชให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ เช่นสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ วิทยุ โทรทัศน์ โดยปกติแล้วเขาจะไม่ได้รับค่าจ้าง แต่มันก็ทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมาซึ่งมันส่งผลให้เขาได้รับการจ้างงานเพิ่มขึ้น
จากคนธรรมดาที่มีชีวิตเรียบง่าย ตอนนี้ออนดราชได้กลายเป็น "ซุปตาร์" ไปแล้ว เมื่อเดืนไปตามถนนในเมืองบูดาเปสต์ก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปกับเขา แต่ถ้าหากต้องไปต่างประเทศ ก็จะมีบอดี้การ์ดมาคอยคุ้มกันเขาอยู่เสมอ
เมื่อถูกถามถึงความเจ็บปวดในมีม Hide The Pain Harold ออนดราชก็ตอบว่าการที่ต้องถูกถ่ายภาพและถูกสั่งให้ยิ้มออกมา บางครั้งก็จะได้รอยยิ้มที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังแสดงความเจ็บปวดออกมา
1
ออนดราชกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่ามีความเจ็บปวดแฝงอยู่ข้างในตัวผมหรอก ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนมีความสุขมากกว่าจะเป็นคนอมทุกข์นะ"
โฆษณา